รีบอ่านเลย!!! จิตแพทย์แนะ 4 ทักษะ เอาชนะ “ภาวะจิตตก” ???

ติดตามข่าวสารพิ่มเติมที่ www.tnews.co.th

   เป็นข้อเท็จจริงที่ว่า คนเราแต่ละคนมีจิตใจแข็งแรงไม่เท่ากัน ทำให้ความสามารถในการรับความกดดันในชีวิตไม่เท่ากัน ยิ่งโดยเฉพาะปัจจุบันระดับความเครียดที่เกิดขึ้นมีสูงมาก ทั้งเรื่องงาน ความรัก หรือปัญหาครอบครัว ซึ่งคนที่ประสบภาวะเครียดบ่อยๆ เป็นระยะเวลายาวนาน บางครั้งก็ทำให้เกิดอาการอ่อนล้าทางด้านจิตใจ หรือสภาวะที่เรียกกันคุ้นปากว่า “จิตตก” ได้

 

 

       

   เรื่องนี้ นพ.ไกรสิทธิ์ นฤขัตพิชัย กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลมนารมย์ อธิบายคำว่า “จิตตก” ในทางการแพทย์ว่า เป็นคำที่ใช้พูดกันเพื่อบรรยายอาการของคนที่ประสบกับความเครียด ความกดดัน เป็นระยะเวลายาวนาน หรืออาจจะเกิดจากความกดดันที่เกิดขึ้นในระยะที่ไม่ยาวนาน แต่มีความรุนแรงสูง โดยจะมีอาการเกิดขึ้นเป็นลำดับ เบื้องต้นมักจะเกิดจากการคาดว่า เกรงว่า สิ่งที่ไม่ดีจะเกิดขึ้น จะมีความเสียหายเกิดขึ้น คิดว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ คิดว่าจะล้มเหลว ทำให้เกิดอาการวิตกกังวล ซึ่งได้แก่อาการใจสั่น เหงื่อออก หายใจไม่อิ่ม นอนไม่หลับ ระบบทางเดินอาหาร ระบบย่อยอาหารปั่นป่วน เป็นต้น
       
      

    ส่วนระยะถัดมา เมื่อทราบถึงผลของเหตุการณ์แล้วว่าไม่ได้ผลอย่างที่คิด ไม่สำเร็จ ก็จะเกิดอาการผิดหวัง ท้อแท้ ซึมเศร้า ซึ่งได้แก่ อาการเบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ คิดช้า ไม่มีกำลังใจ รู้สึกตัวเองไร้คุณค่า ในรายที่อาการรุนแรง อาจจะมีความคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่ อยากฆ่าตัวตาย ในบางรายที่มีอาการรุนแรงก็อาจจะมีอาการทางจิตร่วมด้วย เช่น หูแว่ว ประสาทหลอน หวาดระแวง ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอันตรายได้ทั้งกับตนเอง และผู้อื่น

 

 “คนที่หิว หรือ นอนไม่พอ ความอดทนจะต่ำ อารมณ์จะหงุดหงิด ฉุนเฉียวได้ง่าย อาจทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันได้ทั้งภายในครอบครัวและที่ทำงาน

 

    

    สำหรับคนที่ตกอยู่ในภาวะจิตตก จิตแพทย์ท่านนี้ ได้ให้แนะเทคนิคเอาชนะภาวะจิตตกไว้ 4 ทักษะ ดังต่อไปนี้

     

   1. ความเชื่อมั่นว่าจะผ่านพ้นปัญหาไปได้ ส่วนจะช้าหรือเร็วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การเชื่อมั่นว่าปัญหาจะมีทางออกในที่สุด จะช่วยให้มีกำลังใจต่อสู้ต่อไปได้  

  

2. ความสามารถมองเห็นข้อดีหรือข้อบวกของสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาเป็นกำลังใจให้ต่อสู้ต่อไปได้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน จึงจะทำได้ดี
 

   3. การมองปัญหาและการวางแผนแก้ไขแบบเป็นขั้นตอน แล้วจัดการแก้ไขไปทีละขั้นทีละเปลาะ การทำการแก้ไขได้สำเร็จทีละขั้นจะช่วยให้เกิดความมั่นใจว่าจะแก้ปัญหาได้สำเร็จในที่สุด

 

4.สำหรับคนที่พยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเองแล้วยังไม่สำเร็จ อาจจะต้องอาศัยตัวช่วย คือ ความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง ได้แก่ เพื่อนสนิทหรือญาติผู้ใหญ่ ในการช่วยมองปัญหา ให้คำปรึกษาแนะนำ
       

 




 


       

 

  

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : Manager Online