"สมชัย" ค้านเซ็ตซีโร่ กกต. ชี้มือใหม่ไม่ทันนกม. สวนแรง กรธ.กล้าพูดไหมจะโละองค์กรอิสระทั้งหมด

ติดตามข่าวเพิ่มได้ที่ www.tnews.co.th

วันนี้ ( 20 ก.ย.)   ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  ด้านบริหารงานเลือกตั้ง แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วย กกต. ตามที่คณะทำงานเสนอ แต่ได้ให้มีการปรับแก้ คาดว่าร่างฉบับแก้ไขจะแล้วเสร็จในวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย.นี้ และประธาน กกต.จะลงนามส่งให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ในต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งกกต.ทั้งคณะ ขอนัด กรธ.ที่จะหารือร่างดังกล่าวในวันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ย.นี้ เบื้องต้น นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านสืบสวน และนายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านมีส่วนร่วม แจ้งที่ประชุมว่าพร้อมเดินทางไปชี้แจงด้วยตนเอง
         

นายสมชัย กล่าวว่า เบื้องต้นของ กกต. ได้เห็นชอบในหลัก 4 ป. ของร่างพ.ร.ป.กกต. คือ 1.ประสิทธิผล 2.ประสิทธิภาพ 3.ประหยัด และ 4.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยมีกลไกที่จะทำให้การทำงานสำเร็จได้ 3 ส่วน คือ กกต.กลาง ให้ยึดตามร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 273 ที่บัญญัติให้ กกต.ชุดปัจจุบันดำรงตำแหน่งจนครบวาระ ส่วนการสรรหา กกต.ใหม่ 2 คน ตามร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 222 เพื่อให้ กกต.มีองค์ประกอบครบ 7 คน ตามที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดนั้น  ต้องมาจากการสรรหาของคณะกรรมการสรรหา  เนื่องจากขณะนี้สัดส่วนของ กกต.ปัจจุบัน มาจากคณะกรรมการสรรหาแล้ว 3 คน จะมาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาไม่ได้ เพราะ 2 คนจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาที่ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดนั้น  เป็นสัดส่วนที่ครบแล้วใน กกต.ชุดปัจจุบัน  จึงถือว่าโควต้าจากศาลฎีกาเต็มแล้ว
         

ส่วนข้อเสนอจาก กรธ.ที่อาจจะให้มีการสรรหา กกต.ใหม่ทั้งหมด 7 คน อยากให้มีการไตร่ตรองให้ดี เพราะการสรรหาใหม่ไม่ทำให้เกิดผลดี เนื่องจากกระบวนการสรรหาต้องใช้เวลา 2 เดือน โดยหลัง พ.ร.ป.ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งมีผลใช้บังคับ จะต้องมีการสรรหา ส.ว.ภายใน 5 เดือน ถ้าให้มีการสรรหาใหม่หมด กกต.ชุดใหม่ก็จะมีเวลาเตรียมงาน 2-3 เดือนซึ่งไม่เป็นผลดีกับบ้านเมือง เพราะ กกต.มือใหม่ ก็จะไม่ทันกับฝ่ายการเมือง หรือถ้าจะอ้างว่าคุณสมบัติของ กกต.ชุดเก่าแตกต่างกับร่างรัฐธรรมนูญกำหนด  หากเป็นเช่นนั้นก็ต้องเปลี่ยนศาลรัฐธรรมนูญ  คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ด้วย เพราะใช้หลักคุณสมบัติในข้อเดียวกัน
         

" อยากถามกลับ กรธ. ว่ากล้าพูดดังๆ ไหมว่าจะเซ็ตซีโร่องค์กรอิสระเหล่านี้ด้วย  ที่อ้างว่ารัฐธรรมนูญต้องการให้วาระกกต.หมดพร้อมกัน การเหลื่อมการพ้นวาระเป็นผลดีมากกว่าที่จะออกแบบให้หมดวาระพร้อมกัน  เพราะจะทำให้เหลือคนที่รู้งานมีประสบการณ์เอามาส่งต่อให้กับ กกต.ที่มาใหม่  รูปแบบเดิมที่กำหนดให้ กกต.ซึ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนคนเก่าที่หมดวาระ  โดยให้วาระการดำรงตำแหน่งเหลือเท่าวาระกกต.ที่มีอยู่ ไม่จูงใจให้คนมาเป็นกรรมการองค์กรอิสระ "   นายสมชัย กล่าว
         

นายสมชัย กล่าวต่อว่า  ส่วน กกต.จังหวัด ยังคงยืนยันให้มี 5 คน แม้กฎหมายนี้บังคับใช้แล้วก็จะไม่มีการโละทิ้ง กกต.จังหวัดเดิม  แต่จะสรรหาใหม่ใน 14 จังหวัดที่ครบวาระ และมีการเปลี่ยนอำนาจหน้าที่  เช่น ไม่ต้องมีการพิจารณาสำนวนคดีเลือกตั้ง โดยส่งตรงให้ กกต.กลางพิจารณาเลย  และเปลี่ยนจากให้เงินเดือนมาเป็นการจ่ายเบี้ยประชุม  ทำให้ลดงบประมาณ 3- 4 เท่า  ซึ่งจะกำหนดประชุม 2 ครั้งต่อเดือน  นอกจากนี้จะมีการเสนอให้มีร่างพ.ร.บ.สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยจะทำคู่ขนานกับการเสนอร่างพ.ร.ป.กกต.
         

นอกจากนี้  มีการกำหนดอำนาจสืบสวนสอบสวน เพื่อทำให้การทำงานรวดเร็วมากขึ้น ลดขั้นตอนการพิจารณาใบเหลือง ใบแดงระดับจังหวัด  โดยให้สำนวนส่งตรงถึงส่วนกลาง  ซึ่งมีการกำหนดเกณฑ์พิจารณาใบเหลืองและใบส้มต้องเสร็จก่อนประกาศผล  และสำหรับใบแดงหลังการประกาศผลต้องแล้วเสร็จภายใน 6 เดือนหลังเลือกตั้ง และกำหนดโทษข้าราชการที่ไม่ให้ความร่วมมือกับ กกต. จนส่งผลให้การเลือกตั้งเสียหาย  มีโทษผิดทางอาญาทันที  ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดภาพการไม่ให้ใช้สถานที่ของหน่วยราชการ  สำหรับการป้องปราบการทุจริต  มีการจัดตั้งกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยให้รัฐสนับสนุนงบประมาณและประชาชนบริจาคเงิน เพื่อเป็นเงินรางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแส และช่วยเหลือผู้แจ้งเบาะแส  กรณีถูกฟ้องกลับ มีกลไกการคุ้มครองปกป้องพยาน กลไกลให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน มีอำนาจเรียกบุคคลมาให้ปากคำได้