- 11 ต.ค. 2559
ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th
กลายเป็นฮือฮาทั้งในแวดวงธุรกิจและการเมืองระดับประเทศ เมื่อมีการนำเสนอคำพูดของ นายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัทอาลีบาบา ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ในประเทศจีน ระหว่างบรรยายพิเศษให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทย ในโอกาสเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 2 ระบุถึงใจความสำคัญซึ่งนายแจ็ค หม่า ชื่นชมว่า รัฐบาลไทย มีความตั้งใจจริงที่จะช่วยสนุบสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก SMEs และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ รวมถึงเตรียมวางแผนระบบการเงินในอนาคต ดังนั้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ควรมองโลกในแง่บวก ขอให้เชื่อในสิ่งที่ทำ และถ้าไม่คิดยอมแพ้ ก็จะประสบความสำเร็จ
“นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ว่า เป็นสิ่งที่ดีและรัฐบาลไทยเดินมาถูกทาง โดยในส่วนของความร่วมมือกับรัฐบาลไทย ทางบริษัท อาลีบาบาจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อย เอสเอ็มอีนักศึกษาไทยไปฝึกงานและร่วมฝึกอบรมที่ประเทศจีน”
แต่ที่เป็นไฮไลท์สำคัญที่สุด ก็คือสิ่งที่ นายแจ็ค หม่า กล่าวถึงการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย ว่า ตนเองรู้สึกได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความตั้งใจจริงที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และยังเชื่อว่าประเทศไทยภายใต้แนวการพัฒนาของพล.อ.ประยุทธ์จะมีอนาคตที่ดีขึ้นได้ในอนาคต
สำหรับ นายแจ็ก หม่า หรือชื่อจริงว่า หม่า หยุน เป็นผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของกลุ่มอาลีบาบา ซึ่งประสบความสำเร็จในธุรกิจอินเทอร์เน็ตอย่างสูมาก และเป็นผู้ประกอบการจีนคนแรกที่ปรากฏบนหน้าปกของนิตยสารฟอร์บ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2014 จากการถูกยกย่องว่าเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในประเทศจีน (ไม่รวมฮ่องกง) และเป็นบุคคลรวยที่สุดอันดับที่ 18 ของโลก โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในขณะนั้นประมาณ 29.7 พันล้านดอลลาร์ กระทั่งในปี 2558 ที่ผ่านมาทรัพย์สินของ นายแจ็ค หม่า ถูกบันทึกไว้ด้วยตัวเลขราว 2.27 หมื่นล้านดอลลาร์
………………………………………………………….
โดยพื้นเพชีวิตของ แจ็ค หม่า ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองเหมือนนักธุรกิจที่มีฐานะร่ำรวยหลาย ๆ คน ตรงกันข้ามเขาเกิดในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะดีนัก แต่ก็ฉายแววใฝ่เรียนรู้แบบไม่เหมือนใครตั้งแต่เด็ก เนื่องจากมีความชื่นชอบภาษาอังกฤษมาก และตั้งแต่อายุ 12 ปี ก็พยายามเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตัวเองมาโดยตลอด ด้วยการปั่นจักรยานกว่า 40 นาที ไปยังโรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อพูดคุยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แล้วอาสาเป็นไกด์ให้ตัวเองสามารถพัฒนาฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษ
นอกจากนั้นชีวิตในโรงเรียนของนายแจ็ค หม่า ก็ไม่ได้ราบรื่นนัก โดยในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ต้องใช้การสอบถึง 3 ครั้ง ก่อนที่สุดท้ายจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยครูหางโจวได้ และเมื่อเรียนจบเขาก็เป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ 5 ปี เงินเดือนอยู่ที่ราว ๆ 500-600 บาทเท่านั้น
แต่วันหนึ่งโอกาสในชีวิตเขาก็มาถึงในปี 2538 เมื่อนายแจ็ค หม่า มีโอกาสได้เดินทางไปเป็นล่ามที่เมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา และที่นั่นเพื่อนของเขาได้แนะนำให้รู้จักกับอินเทอร์เน็ต และกลายเป็นแรงบันดาลใจเมื่อกลับประเทศจีน นายแจ็ค หม่าก็เริ่มต้นทำสมุดหน้าเหลืองออนไลน์เกี่ยวกับธุรกิจเป็นครั้งแรก แต่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไร จนเมื่อปี 2542 นายแจ็ค หม่า จึงได้รวมกลุ่มกับเพื่อน จัดตั้งบริษัทอีคอมเมิร์ซ นามว่า อาลีบาบา ( Alibaba) ขึ้นด้วยเงินทุนราว 2 ล้านบาท ซึ่ง นายแจ็ค หม่า เป็นคนเลือกชื่อนี้เพราะอยากให้คนทุกชาติทุกภาษาสามารถออกเสียงได้อย่างง่าย ๆ
ต่อมาในปี 2546 หม่าได้เปิดเว็บไซต์ Taobao ขึ้น เพื่อสร้างธุรกิจออนไลน์ที่ใช้งานได้ง่าย ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวจีน ซึ่งในตอนแรก ๆ นั้น ธุรกิจของเขาก็ดำเนินไปอย่างเรียบ ๆ ไม่มีกำไร เพราะมีคู่แข่งยักษ์ใหญ่อย่าง eBay อยู่ แต่หม่าก็ไม่ยอมแพ้ เขาคิดว่า eBay นั้นเป็นเหมือนฉลามในมหาสมุทร และบริษัทเขาเป็นจระเข้ในแม่น้ำ ดังนั้นเขาต้องไม่ต่อสู้ในมหาสมุทร เพราะมันจะแพ้ แต่หากเขาเลือกต่อสู้ในแม่น้ำซึ่งเป็นถิ่นตัวเอง เขาจะชนะ ...
จนวันหนึ่งความตั้งใจก็เป็นจริง เพราะเพียงแค่ 3 ปี Taobao สามารถพลิกโผขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาดเกินกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ จน eBay ถอยทัพออกจากจีนในปลายปี 2548 และนับแต่นั้นมา Taobao ก็กลายเป็นเพชรเม็ดงามของยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน และปัจจุบันยังถือเป็นเว็บไซต์ชอปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน ประการสำคัญคือผลักดันให้ นายแจ็ค หม่า กลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในจีน