- 18 ก.พ. 2560
ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://www.tnews.co.th
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. เฟซบุ๊กแฟนเพจ MJU RADIO สถานีวิทยุมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้โพสต์คลิปวีดีโอ โดยมีข้อความระบุว่า...บัณฑิตมหาวิทยาลัยแม่โจ้สุดซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ถึงกับน้ำตาซึม เมื่อสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงยกพระหัตถ์ไหว้ขอโทษที่เสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาฯล่าช้ากว่ากำหนด ณ ศูนย์กีฬากาญจนาภิเษกฯ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 #ทรงพระเจริญ
เวลา 15.00 น. วันนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ไปยังอาคารศูนย์กีฬากาญจนาภิเษก รัชกาลที่ 9 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2558-2559 โดยมี ผู้ทรงคุณวุฒิได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และมหาบัญฑิตกิตติมศักดิ์ รวม 10 คน และมีผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร รวม 1,937 คน
กรุณารอคลิปสักครู่...
โอกาสนี้ ได้พระราชทานพระโอวาทความว่า "ทุกท่านย่อมทราบกันโดยทั่วกันว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการเกษตร พระองค์มีแนวพระราชดำริว่า ความเจริญของประเทศต้องอาศัยความเจริญของภาคการเกษตรเป็นสำคัญ การเกษตรจึงเป็นเสมือนหัวใจของชาติ แต่ปัญหาประการหนึ่งของเกษตรกรไทย ก็คือขาดการบริหารจัดการที่ดินทำกิน พระองค์จึงพระราชทานแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่ เพื่อเป็นแนวทางให้เกษตรกรสามารถใช้ที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทรงประยุกต์ดัดแปลงให้เกิดการเกษตรแบบผสมผสาน เป็นไร่นาสวนผสม มีการเพาะปลูกควบคู่ไปกับการเลี้ยงสัตว์ และการประมง ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรน้ำ ที่ดิน และแรงงาน ให้ได้ประโยชน์สูงสุด เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร
การทำเกษตรกรรมตามแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่นี้ กำหนดไว้เป็น 3 ขั้นตอน ขั้นที่หนึ่ง เป็นการจัดแบ่งที่ดินแปลงเล็กออกเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน โดยให้แบ่งพื้นที่ออกเป็นสี่ส่วน ส่วนที่ 1 ขุดสระน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำในฤดูฝนไว้ใช้ในฤดูแล้ง ส่วนที่ 2 ใช้เป็นที่นาสำหรับปลูกข้าว ส่วนที่ 3 ใช้เป็นที่ปลูกพืชไร่พืชสวน ส่วนที่ 4 ใช้เป็นพื้นที่สำหรับอยู่อาศัย และสร้างโรงเรือนเพื่อเลี้ยงสัตว์ หรือประกอบกิจกรรมอื่นๆ ตัวอย่างเช่น หากเกษตรกรมีที่ดิน 15 ไร่ ให้แบ่งเป็นนาข้าว 5 ไร่ ปลูกพืชไร่พืชสวน 5 ไร่ ขุดสระน้ำลึก 4 เมตร 3 ไร่ และใช้เป็นที่อยู่อาศัยและอื่นๆ 2 ไร่
จะเห็นได้ว่า แนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่ แม้เพียงในขั้นที่หนึ่งนี้ ก็เป็นแนวทางที่ทำให้ผู้ปฏิบัติสามารถพึ่งตนเอง มีชีวิตความเป็นอยู่ที่มั่นคง และมีความพร้อมที่จะรับสถานการณ์ต่างๆในอนาคต ในฐานะที่บัณฑิตทั้งหลายได้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านความเชี่ยวชาญทางการเกษตร ตลอดจนศาสตร์สำคัญหลายสาขา จึงควรศึกษาแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ให้เข้าใจ แล้วน้อมนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและสภาพพื้นที่ในท้องถิ่น หากทำได้ดังนี้ แต่ละคนก็จะเป็นกำลังสำคัญที่จะร่วมกันพัฒนาภาคการเกษตรของชาติให้มีความเข้มแข็งมั่นคงสืบไปได้ดังประสงค์"
เรียบเรียง Amity