เอาไงกันแน่!! "กลิน เดวี่ส์-ทูตสหรัฐ" พลิกลิ้นเปลี่ยนเกมส์หนุน"พล.อ.ประยุทธ์"ปรองดองก่อนการเลือกตั้ง!! เอ๊ะยังไงกันนะ!!

จากกรณีที่นาย กลิน เดวี่ส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เดินทางมายังกรุงวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และได้มีการแสดงท่าทีทางการเมือง เกี่ยวกับรัฐบาลไทย ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งท่าที่ดังกล่าว เรีกได้ว่าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ภายหลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ครองตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับ"วีโอเอภาคภาษาไทย" ระบุว่า.. "สหรัฐฯ ต้องการเห็นความสมานฉันท์ในประเทศไทย และคิดว่าช่วงเวลาการเลือกตั้งของไทยเป็นเรื่องสำคัญอันดับรองลงมา"

"ไม่มีประเทศใดต้องการถูกสั่งสอน และว่าตนคิดว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันของไทยเข้าใจดีว่ากระบวนการประชาธิปไตยจะทำให้ไทยเข้มแข็งขึ้น"

สำหรับความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะพบกับ นายกรัฐมนตรีไทย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นาย กลิน เดวี่ส์ กล่าวว่า การเชิญโดยสหรัฐฯ ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์ของผู้นำทั้งสองเมื่อเดือนที่แล้วเป็นเสมือนสัญญาณว่า ภายใต้ผู้นำคนใหม่ของอเมริกา รัฐบาลกรุงวอชิงตันจะยังคงสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้น

ทูตเดวี่ส์บอกด้วยว่าการที่สหรัฐฯ มีประธานาธิบดีคนใหม่เป็นโอกาสเร่งเครื่องสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

 

โดยปกติแล้ว เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ถือเป็นข้าราชการการเมือง ปฏิบัติตามแนวนโยบายของประธานาธิบดี  ขระที่รัฐบาลไทย ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งขึ้นสู่อำนาจจากการรัฐประหารเมื่อเดือนพ.ค.2557 มีความสัมพันธ์ไม่ราบรื่นนักกับรัฐบาลวอชิงตันในสมัยของประธานาธิบดีบารัก โอบามา เพราะฉะนั้นท่าทีที่เปลี่ยนไปแบบนี้ ถือเป็น"นัยยะสำคัญ"  ซึ่งก่อนหน้านี้การเคลือนไหวของนายกลิน เดวี่ มักจะออกมาเรียกร้อง กดดันให้รัฐบาลไทยกลับคืนสู่การปกครองโดยรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มาโดยตลอด และหลายต่อหลายครั้ง ก็แสดงท่าที หรือคำพูด ที่เข้าข่ายการแทรกแซงการเมืองไทย จนเกิดกระแสต่อต้านและไล่ตะเพิดกลับประเทศมาแล้ว

 

ทั้งนี้กับการที่ออกมาพูด เน้นความปรองดองมาก่อนเลือกตั้ง แสดงว่าเปิดช่องและสนับสนุนโดยให้ความสำคัญกับพล.อ.ประยุทธ์ และคณะคสช.ในการบริหารจัดการดูแลประเทศ ให้เรียบร้อย เพราะฉะนั้นถ้าพล.อ.ประยุทธ์จะยังคงดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปก่อน ดูถ้าสหรัฐก็คงไม่ขัดอะไร และคงไม่เข้ามาขว้าง หรือแทรกแซงอะไรอีกเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็นมา 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาว ได้เปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ต่อสายตรงถึงพล.อ. ประยุทธ์  โดยได้มีการพูดคุยเรื่องสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย  และยังได้เชิญชวนให้นายกฯไทยเดินทางเยือนสหรัฐด้วย ทั้งนี้แหล่งข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปยังสหรัฐฯ เพื่อพบกับ ทรัมป์ ในช่วงเดือนกรกฏาคม

 

ขอบคุณ  วีโอเอภาคภาษาไทย