ปชช.ว่างัย!?!“ตำรวจ”อ้างขึ้นตรงจังหวัดไม่ก้าวหน้า ย้อนผู้ว่าฯไม่ใช่คนของนักการเมืองหรือ??หลัง“บิ๊กตู่”เสนอกระจายอำนาจให้ตร.ขึ้นตรงจว.???

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

จากกรณีเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ พร้อมแนวร่วมจากองค์กรประชาชน รวม 42 องค์กร ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชน ให้เร่งดำเนินการปฏิรูปตำรวจเป็นตำรวจจังหวัด และแยกงานสอบสวนเป็นอิสระออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช.โอนตำรวจ 9 หน่วยตามมติ ครม. 30 ก.ย.2559 และพิจารณาคัดเลือกกรรมการปฏิรูปตำรวจตามรัฐธรรมนูญ ม.260 เป็นบุคคลที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรม และมีแนวความคิดปฏิรูปตำรวจเป็นตำรวจจังหวัดนั้น

ทั้งนี้ล่าสุดพล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าทำงานปฏิรูปตำรวจของ สตช. กล่าวถึงกรณี 42 องค์กรยื่นหนังสือเรียกร้องพลเอกประยุทธ์ ว่าต้องดูโครงสร้างของแต่ละจังหวัด เมื่อตำรวจขึ้นตรงต่อจังหวัดแล้วความเจริญก้าวหน้าไปถึงไหน ซึ่งโดยทั่วไปข้าราชการทุกภาคส่วนงานหรือความเจริญก้าวหน้าไม่ได้หยุดอยู่แค่จังหวัด มีการโยกย้ายตามความเหมาะสม ถ้าไปขึ้นตรงกับจังหวัดแล้ว ความเจริญเติบโตในหน้าที่ไม่ก้าวหน้าหรือชะงักไป ก็เหมือนทิ้งครึ่งทาง โดยบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัด ตาม พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน ก็เป็นผู้บังคับบัญชาดูแลส่วนราชการทุกส่วนอยู่แล้ว ยกเว้นเจ้าหน้าที่ทหาร อัยการ ผู้พิพากษา

 

“ ปัจจุบันตำรวจก็ทำงานตามคำสั่งของผู้ว่าฯ ทำงานร่วมกับฝ่ายปกครอง ประชุมหารือแนวทางในการป้องกันเหตุ เมื่อใดที่ผู้ว่าฯ ต้องการกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลสถานการณ์ความปลอดภัย หรืองานบริการอื่นๆ ก็ประสานมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ปฏิบัติตามคำสั่งมาโดยตลอด การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานแบบบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย จะไปเจาะจงลงไปว่าตำรวจต้องขึ้นตรงกับแต่ละจังหวัดอย่างเบ็ดเสร็จไม่ได้ เพราะบางจังหวัดปัญหาคดีอาชญากรรมน้อย บางจังหวัดมีเยอะไม่ได้คัดค้านหรือเห็นด้วย ในเมื่อบอกว่าเพื่อความเป็นอิสระในการทำงานของพนักงานสอบสวนโดยไม่มีการแทรกแซง เมื่อย้ายไปขึ้นตรงต่อจังหวัดโดยมีผู้ว่าฯเป็นผู้บังคับบัญชาแล้ว ผู้ว่าฯไม่ใช่คนของนักการเมืองหรือ”

ปชช.ว่างัย!?!“ตำรวจ”อ้างขึ้นตรงจังหวัดไม่ก้าวหน้า ย้อนผู้ว่าฯไม่ใช่คนของนักการเมืองหรือ??หลัง“บิ๊กตู่”เสนอกระจายอำนาจให้ตร.ขึ้นตรงจว.???

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่ชาติ(คสช.) กล่าวถึงแผนการปฏิรูปกิจการตำรวจ การที่ตำรวจจะไปขึ้นอยู่กับใครนั้น มีสิ่งสำคัญที่ว่าจะทำให้การทำงานดีขึ้นหรือไม่ จะช่วยให้ข้าราชการตำรวจได้รับการดูแลที่ดีพอหรือไม่ การดำเนินงานด้านยุติธรรมกับประชาชนนั้นจะทำอย่างไร รวมถึงจะแยกงานสอบสวนออกมาหรือไม่ ดูว่ามีผลดีและผลเสียอย่างไร ทั้งนี้ถือเป็นการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจที่จะรับทุกความคิดเห็นทั้งหมด

 

“ ตนมีความเห็นส่วนตัวเพิ่มว่าจะมีทางหรือไม่ที่จะให้ตำรวจเป็นตำรวจพื้นที่ ขึ้นอยู่กับจังหวัดนั้นๆได้หรือไม่ และไปอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จังหวัด แต่จำเป็นต้องมีหลักการ มีความชัดเจนเรื่องสายการบังคับบัญชาและวิธีการปฏิบัติงาน ถ้าเป็นการที่จะทำให้เกิดความสามารถมากขึ้น ก็จะต้องกระจายอำนาจเหล่านี้ออกไป ส่วนการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดี หรือการเป็นจุดเริ่มต้องของกระบวนการยุติธรรม ถ้าจบภายในจังหวัดได้คือมีกลไกของตำรวจตรงนี้ ก็จะช่วยผู้ว่าราชการจังหวัดลดปัญหาที่จะเข้ามาส่วนกลาง นี่เป็นแนวคิดของตน แต่ยังไม่ใช่ข้อยุติ จึงต้องนำไปพิจารณาอีกครั้ง

 

ต้องไปดูโครงสร้างภายในด้วยว่าจะมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีรองผบ.ตร.กี่คน ผู้ช่วยผบ.ตร.กี่คน รวมถึงจะมีผู้การจังหวัด 76 จังหวัดหรือไม่ ทุกอย่างมีอยู่แล้ว เพราะเป็นสูตรเดิม แต่จะมีบางส่วนที่ไปอยู่กับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จะได้หรือไม่ เพราะจะได้มีความร่วมมือกันแก้ไขปัญหากับผู้ว่าฯ ขอให้ไปดูกันอีกทีเพราะผมได้ให้แนวคิดไป นี่ถือเป็นการปฏิรูปที่ต้องคิดแบบนี้ อย่าคิดเป็นส่วนๆ มาแล้วต่อกันไม่ได้

ปชช.ว่างัย!?!“ตำรวจ”อ้างขึ้นตรงจังหวัดไม่ก้าวหน้า ย้อนผู้ว่าฯไม่ใช่คนของนักการเมืองหรือ??หลัง“บิ๊กตู่”เสนอกระจายอำนาจให้ตร.ขึ้นตรงจว.???