ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่  ๓๕/๒๕๖๐ เรื่อง  ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม  ครั้งที่  ๙

ตามที่มีคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  ที่  ๑๖/๒๕๕๘  เรื่อง  มาตรการแก้ปัญหา เจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบและการกําหนดกรอบอัตรากําลังชั่วคราว  ลงวันที่  ๑๕  พฤษภาคม  พุทธศักราช  ๒๕๕๘  และคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  ที่  ๑๙/๒๕๕๘   เรื่อง  แต่งตั้งและให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดํารงตําแหน่งและปฏิบัติหน้าที่อื่น  ลงวันที่  ๒๕  มิถุนายน  พุทธศักราช  ๒๕๕๘  นั้น  โดยที่หน่วยงานที่มีอํานาจหน้าที่ตรวจสอบได้เสนอรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ  เนื่องจากถูกร้องเรียนหรือกล่าวหาว่าใช้ตําแหน่งหน้าที่ใน การแสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบด้วยกฎหมายจากการปฏิบัติหน้าที่จนเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ  และมีมูลอันสมควรตรวจสอบตามที่องค์กรซึ่งมีอํานาจหน้าที่ตรวจสอบรายงานพฤติการณ์และเสนอเรื่องมา   จึงจําเป็นต้องประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐและกําหนดมาตรการบางอย่างเพิ่มเติม

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา  ๒๖๕  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  ประกอบกับ มาตรา  ๔๔  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  (ฉบับชั่วคราว)  พุทธศักราช  ๒๕๕๗  หัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้ผู้ที่มีรายชื่อในกลุ่มที่  ๑  ผู้บริหารสถานศึกษา  ตามบัญชีแนบท้ายคําสั่งนี้   ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในตําแหน่งเดิมเป็นการชั่วคราว

ข้อ ๒ ให้ผู้ที่มีรายชื่อในกลุ่มที่  ๒  ข้าราชการพลเรือน  และผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่  ๓  พนักงานอื่นของรัฐ  ตามบัญชีแนบท้ายคําสั่งนี้  ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในตําแหน่งเดิม เป็นการชั่วคราว  และไปปฏิบัติราชการประจําหน่วยงานนั้นตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย

ข้อ ๓ ให้ผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่  ๔  ผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ตามบัญชีแนบท้าย คําสั่งนี้  ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดํารงตําแหน่งอยู่เป็น การชั่วคราวโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน

ข้อ ๔ ให้ผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่  ๕  ข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ตามบัญชีแนบท้าย คําสั่งนี้  ไปช่วยราชการที่ศาลากลางจังหวัดที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นตั้งอยู่หรือสถานที่ราชการอื่น  ในจังหวัดนั้น ๆ  ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกําหนด  แต่ต้องมิใช่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผู้นั้นปฏิบัติ หน้าที่อยู่เดิม  โดยไม่ต้องมีคําร้องขอ  และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายเป็น ผู้บังคับบัญชามีอํานาจมอบหมายให้ผู้นั้นปฏิบัติงานตามความเหมาะสม

ในกรณีนี้  มิให้บุคคลดังกล่าวได้รับเงินประจําตําแหน่งและสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ไปราชการชั่วคราว  ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของเจ้าหน้าที่ ท้องถิ่น  พ.ศ.  ๒๕๕๕  อันเนื่องจากการไปช่วยราชการตามคําสั่งนี้

 

ข้อ ๕ นอกจากการระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในตําแหน่งเดิม  หรือการไปช่วยราชการ  ตามที่กําหนดในข้อ  ๑  ข้อ  ๒  ข้อ  ๓  และข้อ  ๔  แล้ว ให้ผู้ที่มีรายชื่อในกลุ่มที่  ๑  ถึงกลุ่มที่  ๕   ยุติการปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับแต่งตั้งอันเนื่องจากการปฏิบัติราชการ หรือหน้าที่ในตําแหน่งเดิมทั้งหมดด้วย

ข้อ ๖ ให้ศูนย์อํานวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ  (ศอตช.)  แจ้งข้อเท็จจริงอันเป็นมูลเหตุ  แห่งการตรวจสอบการปฏิบัติราชการของผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่  ๑ ถึงกลุ่มที่  ๕  ให้หน่วยงานทราบ   เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง  โดยต้องปรากฏผลให้แล้วเสร็จภายใน  ๓๐  วัน  นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจาก  ศอตช.  เพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้นั้นหรือเพื่อดําเนินการทางวินัยต่อไป  ในกรณีที่ไม่อาจดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในกําหนดเวลาดังกล่าว ให้รายงานรัฐมนตรีเจ้าสังกัด ของเจ้าหน้าที่ผู้นั้น  แล้วแต่กรณี  เพื่อขยายเวลาได้ตามความจําเป็น

ข้อ ๗ ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อ  ๖  หากไม่พบว่ามีการกระทําความผิดหรือไม่ถึงขั้น ต้องดําเนินการทางวินัยให้ผู้บังคับบัญชาสรุปผลการตรวจสอบและพยานหลักฐานที่มีอยู่แล้วแจ้งให้  ศอตช.  ทราบ  ในการนี้  ให้ประธาน  ศอตช.  แต่งตั้งคณะบุคคลซึ่งเป็นหรือมิได้เป็นข้าราชการ  ไม่มีข้อ ขัดแย้งหรือส่วนได้เสียกับบุคคลหรือเรื่องที่มีการกล่าวหา  และไม่เคยเป็นผู้ตรวจสอบเรื่องนี้มาก่อน มีจํานวน  ๓  ถึง  ๕  คน  เพื่อตรวจสอบเปรียบเทียบผลการตรวจสอบเดิมของผู้บังคับบัญชาของ ผู้ถูกตรวจสอบกับรายงานหรือพยานหลักฐานที่มีอยู่อีกครั้งหนึ่ง  และให้มีอํานาจเชิญบุคคลมาให้ถ้อยคําได้ โดยคณะบุคคลดังกล่าวอาจตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ถูกตรวจสอบแต่ละรายหรือหลายรายพร้อมกันก็ได้  ทั้งนี้  ให้แล้วเสร็จภายใน  ๓๐  วัน  นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง

ในกรณีที่ผลการตรวจสอบพบว่าการตรวจสอบของผู้บังคับบัญชาถูกต้องแล้ว  หรือไม่มีเหตุ อันควรเปลี่ยนแปลงใด ๆ  ให้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ

ในกรณีที่ผลการตรวจสอบไม่สอดคล้องกับผลการตรวจสอบเดิมของผู้บังคับบัญชา  และมีเหตุ อันควรเปลี่ยนแปลง  ให้สรุปพยานหลักฐานที่มีอยู่และหารือร่วมกับผู้บังคับบัญชาแล้วให้ผู้บังคับบัญชา ดําเนินการตามผลการหารือ  โดยถือว่าการดําเนินการตามคําสั่งนี้ทุกขั้นตอนเป็นการดําเนินการทางวินัย โดยชอบด้วยกฎหมายสําหรับข้าราชการนั้น ๆ  แต่ไม่ตัดสิทธิที่ผู้ถูกตรวจสอบจะอุทธรณ์ต่อไป ตามกฎหมาย  หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดอาญาให้ผู้บังคับบัญชาดําเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ข้อ ๘ เมื่อได้ดําเนินการตามข้อ  ๗  แล้ว  ในกรณีไม่ปรากฏว่าผู้ถูกตรวจสอบมีความ บกพร่องใด ๆ  ในการปฏิบัติงาน  หรือไม่มีมูลความผิดทางวินัยหรือความผิดอาญาหรือมีความผิดวินัย แต่มิใช่เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงจึงมีเหตุอันควรงดโทษหรือรับโทษสถานเบาขั้นภาคทัณฑ์  ให้เยียวยา โดยให้ผู้ถูกตรวจสอบไปดํารงตําแหน่งในระดับเดิมตามความเหมาะสม  แต่ให้อยู่นอกพื้นที่เดิม  ยกเว้นผู้มี รายชื่อในกลุ่มที่  ๔  และกลุ่มที่  ๕  ตามบัญชีแนบท้ายคําสั่งนี้  ให้กลับไปดํารงตําแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่เดิมได้  ทั้งนี้  ศอตช.  อาจมีคําแนะนําการเยียวยาด้วยก็ได้  โดยคํานึงถึงข้อมูลความเหมาะสมเกี่ยวกับตําแหน่งหน้าที่และพื้นที่ใหม่  การให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกตรวจสอบ  และประโยชน์ของทางราชการ ประกอบกัน

ข้อ ๙ ในกรณีจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีเปลี่ยนแปลงคําสั่ง  หากปรากฏว่า ผู้มีรายชื่อตามคําสั่งยังคงถูกดําเนินการตรวจสอบจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ  ให้  ศอตช.  รอผลการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จนกว่าจะแล้วเสร็จหรือได้รับแจ้งให้ดําเนินการเยียวยาไปก่อนได้  จึงจะสามารถเสนอนายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีเปลี่ยนแปลงคําสั่งได้
เพื่อประโยชน์ในการดําเนินการในกรณีของผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่  ๓  พนักงานอื่นของรัฐ  คําว่า ผู้บังคับบัญชา  ให้หมายถึงเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และคําว่า  รัฐมนตรี  ให้หมายถึงประธาน กรรมการการเลือกตั้ง  สําหรับผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่  ๔  ผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  คําว่า ผู้บังคับบัญชา ให้หมายถึงผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง  และคําว่า  รัฐมนตรี  ให้หมายถึงรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย  ในกรณีเยียวยาบุคคลดังกล่าว  ซึ่งไม่อาจไปดํารงตําแหน่งอื่นนอกพื้นที่ได้  นายกรัฐมนตรีอาจเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้โดยให้ไปปฏิบัติงานในตําแหน่งเดิมได้

ข้อ ๑๐ ในกรณีที่ชื่อและตําแหน่งของผู้มีรายชื่อตามบัญชีแนบท้ายคําสั่งนี้ไม่ตรงตามทะเบียน ประวัติของทางราชการแต่เห็นได้ว่าเป็นบุคคลเดียวกัน  ให้หน่วยงานต้นสังกัดแจ้งสํานักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรีเพื่อดําเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตรงตามที่เป็นจริงในปัจจุบัน

ข้อ ๑๑ การรับเงินเดือน  สิทธิประโยชน์  หรือประโยชน์ตอบแทนใด ๆ  ของผู้มีรายชื่อ ในกลุ่มต่าง ๆ  ตามบัญชีแนบท้ายคําสั่งนี้  ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการ

ข้อ ๑๒ ในกรณีมีปัญหาให้องค์กรบริหารงานบุคคลกลางที่เกี่ยวข้องกับผู้มีรายชื่อตามคําสั่ง เสนอปัญหาและแนวทางดําเนินการให้นายกรัฐมนตรีวินิจฉัย  คําวินิจฉัยของนายกรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด

ข้อ ๑๓ นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีแล้วแต่กรณี  อาจมีคําสั่งหรือมติเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้ ตามที่เห็นสมควร

ข้อ ๑๔ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

 

สั่ง  ณ  วันที่  ๒๕  กรกฎาคม  พุทธศักราช  ๒๕๖๐
พลเอก  ประยุทธ์  จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

บัญชีแนบท้ายคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๕/๒๕๖๐

กลุ่มที่ ๑  ผู้บริหารสถานศึกษา (จํานวน ๑ ราย)
๑. นายสุนิตย์  ธรรมประพัทธ์   ผู้อํานวยการวิทยาลัยการอาชีพบางแก้ว อําเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง

กลุ่มที่ ๒ ข้าราชการพลเรือน (จํานวน ๖ ราย)
๑. นายสถิตย์ อินทามระ  ผู้ตรวจราชการ กรมโยธาธิการและผังเมือง
๒. นายจํารัส สวนจันทร์  ผู้อํานวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ
๓. นายสมพงษ์ เชิดชูพงศ์ล้ํา   ผู้อํานวยการโรงพยาบาลห้วยราช อําเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์
๔. นายสัจจา พุกสุขสกุล   โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสระบุรี
๕. นายโกเมนทร์ ทิวทอง   นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์
๖. นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์   ผู้อํานวยการกลุ่มศูนย์เทคโนโลยีและสารสนเทศ สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กลุ่ม ๓  พนักงานอื่นของรัฐ (จํานวน ๒ ราย)
๑. นายสุชาติ  ใจภักดี   ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําจังหวัดเพชรบูรณ์
๒. นายกฤษเรศ วังทะพันธ์  ผู้อํานวยการการเลือกตั้งประจําจังหวัดแม่ฮ่องสอน

กลุ่มที่ ๔ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (จํานวน ๓๗ ราย)
๑.    นายอัครเดช ทองใจสด  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ อําเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์
๒.    นายชาญ พวงเพ็ชร์    นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี      อําเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี 
๓.    นายธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย      อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย
๔.    นายชัยมงคล ไชยรบ  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร        อําเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
๕.    นายสุทัศน์ เรืองศรี   รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี      อําเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
๖.    นายเชาวน์วัศ เสนพงศ์  นายกเทศมนตรีนครศรีธรรมราช       อําเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
๗.    นายปิยะศักดิ์ ยโสธนชัย  นายกเทศมนตรีเมืองแม่โจ้       อําเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
๘.    นางสุกานดา  สุทธิพัฒนกุล  นายกเทศมนตรีเมืองจันทบุรี       อําเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี
๙.    นายประเสริฐ ค่ายทอง   นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง       อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
๑๐.    นายวิเชียร อุดมศักดิ์  นายกเทศมนตรีเมืองอํานาจเจริญ       อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ    
๑๑.    นายชูโชติ โกยกุล   นายกเทศมนตรีเมืองพังงา       อําเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา
๑๒.    นายกรชัย กุลศรีวรทัย   นายกเทศมนตรีเมืองอรัญญประเทศ       อําเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
๑๓.    นายจรัส ไชยยา   นายกเทศมนตรีเมืองเมืองแกนพัฒนา       อําเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่
๑๔.    นายวิทยา  ศุภศิริโภคา  นายกเทศมนตรีตําบลดอนยายหอม       อําเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม 
๑๕.    นายลือกฤต เพชรบดี  นายกเทศมนตรีตําบลสําโรงเหนือ       อําเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
๑๖.    นายสมพงษ์ ธรรมเจริญ  นายกเทศมนตรีตําบลลําพญา       อําเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
๑๗.    นายทิวา บุญยก    นายกเทศมนตรีตําบลนาโพธิ์พัฒนา       อําเภอสวี จังหวัดชุมพร
๑๘.    นายไพรัช ยงคําชา   นายกเทศมนตรีตําบลท่าแร่       อําเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
๑๙.    นางสาวศิรประภา เต็มธนกิจไพศาล นายกเทศมนตรีตําบลลําน้ําพอง       อําเภอน้ําพอง จังหวัดขอนแก่น 
๒๐.    นางวรพงศ์ ฮอมหนัก   นายกเทศมนตรีตําบลแม่ต้าน       อําเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
๒๑.    นายนิยม นุ่นแก้ว   นายกเทศมนตรีตําบลเนินสันติ       อําเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
๒๒.    นายอําพนธ์ เพชรชู   นายกเทศมนตรีตําบลท่าทองใหม่       อําเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๒๓.    นายสิทธิชัย เจริญธนะจินดา นายกเทศมนตรีตําบลท่าเสา       อําเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์
๒๔.    นายพงษ์พิพัฒน์ เต็มธนกิจไพศาล  รองนายกเทศมนตรีตําบลลําน้ําพอง       อําเภอน้ําพอง จังหวัดขอนแก่น
๒๕.    นายสุรเชษฐ  จําปาศรี   รองนายกเทศมนตรีตําบลดอนยายหอม       อําเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม 
๒๖.    นายประดับ กลิ่นขํา   นายกองค์การบริหารส่วนตําบลพรหมพิราม       อําเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก 
๒๗.    นายบํารุง ผลทวี   นายกองค์การบริหารส่วนตําบลมะรุ่ย       อําเภอทับปุด จังหวัดพังงา
๒๘.    นายนําศักดิ์ อุทัยศรีสม   นายกองค์การบริหารส่วนตําบลคลองหก       อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 
๒๙.    ดาบตํารวจ โต๊ะ ไชยฮ้อย  นายกองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านถ่อน       อําเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
๓๐.    นายวสุธร พานทอง   นายกองค์การบริหารส่วนตําบลเจริญผล       อําเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์
๓๑.    นายไทยสมุทร  สมงาม  นายกองค์การบริหารส่วนตําบลคําเขื่อนแก้ว       อําเภอชานุมาน จังหวัดอํานาจเจริญ
๓๒.    นายเฉลิม  แสงรุ่ง   นายกองค์การบริหารส่วนตําบลสร้างนกทา       อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ
๓๓.    นายกฤตรัตนชัย  ทองเรือง  นายกองค์การบริหารส่วนตําบลกุดลาด       อําเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
๓๔.    นายมาลา ซ้งคํา    นายกองค์การบริหารส่วนตําบลบ่อแก้ว       อําเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
๓๕.    นายอํานวย สุวะมาศ   นายกองค์การบริหารส่วนตําบลไร่น้อย       อําเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
๓๖.    นายกิตติ หาญสมุทร  นายกองค์การบริหารส่วนตําบลบัวงาม       อําเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี
๓๗.    นายวิจารณ์ ณรงค์รุ่งเรือง  นายกองค์การบริหารส่วนตําบลแม่ยวมน้อย       อําเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

กลุ่มที่ ๕  ข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (จํานวน ๒๔ ราย)
๑. นายสนั่น ศิลารัตน์   ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช       ปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช      อําเภอนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
๒. นายเดชา พวงงาม   ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี      อําเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
๓. นายสถิตย์ เฮียงราช   ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร      อําเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
๔. นายสํารวม รักษาพราหมณ์  ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา      อําเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
๕. นายสมสิทธิ์ จิตหาญ  ปลัดเทศบาลเมืองอํานาจเจริญ       อําเภอเมืองอํานาจเจริญ จังหวัดอํานาจเจริญ
๖. นายทวีวิทย์ พันธชาติ   ปลัดเทศบาลตําบลหลักหก       อําเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
๗. ว่าที่ร้อยตรี กมล เสถียรดี  ปลัดเทศบาลตําบลสําโรงเหนือ       อําเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
๘.  นางบังอร นาคทอง   ปลัดเทศบาลตําบลท่าแร่       อําเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
๙.  นายสํารวม ไชยสิม   ปลัดเทศบาลตําบลวังสวรรค์       อําเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น
๑๐.  นายเศรษฐศักดิ์ พรหมมา  ปลัดเทศบาลตําบลบ้านแซว       อําเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
๑๑.  นางกมลทิพย์ สมนึก   ปลัดเทศบาลตําบลแม่ลานนา       อําเภอลอง จังหวัดแพร่
๑๒.  ว่าที่ร้อยโท ธรรมรัตน์ สวนสุข  ปลัดเทศบาลตําบลท่าเสา       อําเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์
๑๓.  นายตีรนันท์ ป้องกัน  ปลัดเทศบาลตําบลหนองลาน       อําเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี
๑๔.  นายวสันต์ สายสวัสดิ์  ปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลแม่ยวมน้อย       อําเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
๑๕.  นายชิตพล สุวรรณโสภา   ปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลสะแบง       อําเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
๑๖.  สิบตํารวจเอก วินิจ จดจํา  ปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านถ่อน       อําเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
๑๗.  ว่าที่ร้อยตรี ชายแดน สุนนท์ชัย  ปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลโนนค้อ       อําเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี
๑๘.  นางธดาพร คําผิว   ปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลศรีสุข ปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การ      บริหารส่วนตําบลศรีสุข อําเภอกันทรวิชัย จังหวัดขอนแก่น
๑๙.  ว่าที่ร้อยตรี อดุลย์ศุภเดช พงษ์ประเสริฐ  รองปลัดเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร         อําเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี
๒๐.  จ่าเอก ยุทธศักดิ์ บุษนาม  รองปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลม่วงลาย       อําเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
๒๑.  นายเยี่ยมยรรยง อ่อนโก้ก  หัวหน้าสํานักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย      อําเภอเมืองเลย จังหวัดเลย
๒๒.  นางสาวสุมณทรา โภชน์ธัญการ หัวหน้าสํานักปลัดองค์การบริหารส่วนตําบลเจริญผล       อําเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์
๒๓.  นายไพโรจน์ กุลณะ  ผู้อํานวยการกองช่างองค์การบริหารส่วนตําบลแม่ยวมน้อย       อําเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
๒๔.  นายเดชา นามสมบัติ  ผู้อํานวยการกองช่างองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านถ่อน       อําเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร