ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

จากกรณีข่าว นางสาวจริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือ น้ำมนต์ ได้หลอกชายหนุ่มแต่งงานแล้วเชิดสินสอดมูลค่าหลายแสนหนีไป ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีผู้เสียหายจำนวนหลายราย นั้น ทราบมาว่าในอดีตผู้ต้องหาเคยมีรักแท้อยู่กินฉันสามีภรรยากับชายไทยคนหนึ่งแบบจริงจัง แต่ไม่ได้แต่งงาน กระทั่งมีโซ่ทองคล้องใจ 2 คน แต่ในที่สุดก็เลิกรากันไป ส่งผลทำให้นางสาวจริยาภรณ์ผูกใจเจ็บ และคิดว่าคงไม่มีผู้ชายคนใดในโลกอีกแล้วที่จะให้ความจริงใจและมีรักแท้เหมือนตน จึงแก้แค้นด้วยการหลอกลวงผู้ชายอย่างต่อเนื่อง

 

เปิดปม "น้ำมนต์" สาวหลอกแต่งงาน มีลูกแล้ว 2 แต่เคยผิดหวังในความรัก จึงผูกใจเจ็บ แก้แค้นผู้ชายทุกคน

ทั้งนี้ 1 ในเหยื่อผู้เสียหาย อาทิ นายรุจ (นามสมมติ) ยอมรับว่าถูกหลอกให้แต่งงาน ซึ่งคบหาดูใจกัน เพียง 1 เดือน ก่อนตัดสินใจแต่งงาน โดยทักเข้ามาในกล้องข้อความเฟซบุ๊กคล้ายว่ามาจีบตน จากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ ก็ตกลงเป็นแฟนกัน จากนั้นอีกเพียง 2 อาทิตย์ ก็ชวนตนแต่งงาน โดยออกอุบายว่าขณะนั้นฝ่ายสาวทำธุรกิจเกี่ยวกับผลไม้อยู่ และชวนมาทำธุรกิจร่วมกัน แต่ต้องแต่งงานกันก่อน ส่วนตัวทั้งรักและอยากทำธุรกิจ ก็ตัดสินใจจัดงานแต่งที่บ้านเช่าของฝ่ายสาวย่านปทุมธานี โดยฝ่ายหญิงเรียกสินสอด 180,000 บาท พร้อมให้ตนโอนเงินค่าสินสอดให้ก่อนล่วงหน้าจำนวน 80,000 บาท

จากนั้นช่วงของการจัดงานแต่งฝ่ายหญิงเป็นคนจัดการ เตรียมงามทั้งหมด ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเลย เมื่อถึงวันงาน (23พ.ค.60) มีการจัดโต๊ะจีน 7 โต๊ะ แขกร่วมงานเป็นญาติฝ่ายตนเกือบทั้งหมด ซึ่งฝ่ายหญิงมีเพียงพ่อแม่ หลาน ๆ รวม 5 คน เท่านั้น ส่วนตัวตอนนั้นก็สงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร

นายรุจ เผยอีกว่า วันจัดงานแต่ง พ่อแม่ตนหิ้วสินสอดมาอีก 100,000 บาท เป็นเงินสด ซึ่งพ่อไปกู้ธนาคารมา โดยฝ่ายหญิงบอกว่าสินสอดเป็นเพียงการเอามาพอทำพิธีเท่านั้น เดี๋ยวหลังจบงานจะคืนให้ เอาไว้ทำทุน ซึ่งตนก็คิดว่าจะเอาไปคืนพ่อเพื่อนำไปใช้หนี

หลังจากวันงานแต่ง เช้าวันรุ่งขึ้นตนก็แยกย้ายกับฝ่ายหญิง โดยตนกลับบ้านเกิดที่เพชรบูรณ์ และฝ่ายหญิงอ้างว่าเดินทางไปติดต่อซื้อผลไม้ที่สวนแถวจังหวัดจันทบุรี ซึ่งตนก็รอรับผลไม้ที่บ้านเพื่อนำไปขายต่อ ซึ่งก็มีรถผลไม้มาจริง และตนนำไปขายต่อ ได้เงินมาก็โอนเงินเข้าบัญชีของฝ่ายหญิง ผ่านไป 1 สัปดาห์ ฝ่ายหญิงกลับมา มาเอารถยนต์ของตนไป โดยบอกว่าจะไปซื้อผลไม้อีก จากนั้นก็ไม่มีการติดต่อกับฝ่ายหญิงอีกเลย นอกจากนี้ฝ่ายหญิงยังเข้าไปขโมยเครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง เครื่องซักผ้า 1 เครื่องจากบ้านเช่าอีก โดยใช้รถของตนเข้าไปขนของ

นายรุจ ระบุว่าขณะนี้ตนรู้สึกแย่ เพราะเสียทั้งเงิน ทั้งรถ ทั้งความรู้สึก ยอมรับว่าหญิงรายนี้หลอกลวงเป็นขบวนการและแนบเนียน เพราะตนมาทราบทีหลังว่า ก่อนหน้าจะมาแต่งงานกับตนในบ้านเช่าหลังเดียวกัน เมื่อวันที่ 5 พ.ค.60 หญิงรายนี้ก็เคยแต่งงานมาก่อนแล้ว