- 26 ธ.ค. 2560
FB : DEEPS NEWS
จากกรณีโครงการ "ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ" หลังจาก ตูน บอดี้สแลม วิ่งจาก อ.เบตง จ.ยะลา ไปถึงเหนือสุดเเดนสยาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. ถึง 25 ธ.ค.2560 เป็นระยะทาง 2,191 กิโลเมตร เพื่อหาเงินบริจาคซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ ใน 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ และได้เดินทางมาถึงวันสุดท้ายของโครงการนั้น
ทั้งนี้เฟซบุ๊กของ ท่าน ว.วชิรเมธี ได้โพสต์เรื่องราวดีๆ เมื่อจิมมี่ ชวาลา นักธุรกิจผู้ประกอบการค้าผ้ารายใหญ่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางมายัง ไร่เชิญตะวัน เพื่อร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญหนุ่มตูน พร้อมปักต้นดอกไม้เงินโดยธนบัตรใบละ 20 บาท เป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท มอบสมทบให้ด้วย
"คุณจิมมี่ ชวาลา
มหาเศรษฐีใจบุญผู้เคยบริจาคร่วมกับโครงการ
“ก้าวคนละก้าว” จำนวน ๑๖ ล้านบาท
เดินทางมาถึงไร่เชิญตะวัน เพื่อร่วม “พิธีบายศรีสู่ขวัญคุณตูน”
ในวันที่ ๒๖ ธันวาคม เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๒.๐๐ น.
ก่อนจะเข้าที่พัก คุณจิมมี่ได้ร่วมกับประชาชนและนักท่องเที่ยว
ปักต้นดอกไม้เงินซึ่งใช้ธนบัตรใบละ ๒๐ บาท
จำนวน ๒๕ ต้นๆ ละ ๕๐,๐๐๐ บาท (เป็นเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท)
เพื่อนำส่งมอบให้คุณตูนในวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๐"
ต่อมาพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ท่าน ว.วชิรเมธี ก็ได้เปิดเผยด้วยว่า ได้เชิญนายจิมมี่ ชวาลา เศรษฐีใจบุญ ชาวนครศรีธรรมราช ผู้บริจาคเงินให้ตูน บอดดี้แสลมในโครงการก้าวคนละก้าว จำนวน16ล้านบาท มาเป็นวีไอพี 1 ใน 29 คน ที่จะมาร่วมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับ ตูน บอดี้แสลม ในวันที่ 26ธ.ค.2560 ที่ไร่เชิญตะวันโดยขณะนี้นายจิมมี่ ชวาลา ได้เดินทางมาถึงไร่เชิญตะวันเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ได้ปรากฏภาพนายจิมมี่ก้มลงกราบแทบเท้า พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ทำให้ผู้คนทั่วไปที่ได้เห็นภาพดังกล่าวได้เกิดความประทับใจ ต่อวิถีปฏิบัติของเศรษฐีชาวอินเดีย ผู้ซึ่งนับถือฮินดูต่อพระสงฆ์ และศาสนาพุทธยิ่ง
อย่างไรก็ตามในหนังสือ สิทธาเศรษฐี นวนิยายที่เขียนจากชีวิตจริงของนายจิมมี่ โดยนักเขียนชื่อดังเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งมีความแนบสนิทรู้จัก เศรษฐีใจบุญผู้นี้เป็นอย่างดีได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าติดตามชวนประทับใจอย่างยิ่ง โดยในเนื้อหาของหนังสือมีตอนหนึ่งที่เล่าถึงความเสียสละ การให้ในเพื่อนมนุษย์ของสิทธา หรือ จิมมี่ เมื่อได้ทราบว่า พนักงานโรงแรมย่านใจกลางเมืองนครศรีฯตกหลังคาโรงแรมโดนสังกะสีบาดลำตัวบาดแผลฉกรรจ์
“ แม้ตัวเองจะเป็นแขกฮินดูแต่ก็ยอมไปบริจาคเลือดให้ผู้เคราะห์คนดังกล่าวซึ่งเป็นแขกมุสลิม โดยที่ไม่ได้มีการร้องขอแต่อย่างใด หากสิ่งที่จิมมี่ทำมีมากกว่านั้น เมื่อบริจาคครั้งแรกเสร็จสิ้นไปแล้ว เขารู้ว่าผู้บาดเจ็บเสียเลือดไปมากด้วยแผลที่สาหัส ย่อมต้องการเลือดมากด้วย แต่พยาบาลก็โรงพยาบาลประจำจังหวัดให้บริจาคได้เพียงเท่านั้น และสิ่งที่สิทธาทำคือ เขารีบกลับไปบ้าน โกนหนวดเคราที่ไว้มาหลายปี แทบไม่มีใครเคยเห็นเศรษฐรผู้นี้มีใบหน้าที่ปราศการหนวดเครา นี่เองเมื่อเขาเดินทางกลับไปโรงพยาบาล เพื่อบริจาคเลือดรอบที่2 พยาบาลจึงจดจำใบหน้าเขาไม่ได้”
ขอบคุณข้อมูล : สิทธาเศรษฐี โดยจำลอง ฝั่งชลจิตร