- 18 ส.ค. 2561
พล.ท.นันทเดช พบหลักฐานเด็ด สรรพาสามิตซวยแน่ อย่ารอนายกฯสั่ง ให้รีบคืนเงินป้า
จากกรณีนางเสน่ห์ ป่วงรัมย์ อายุ 60 ปี แม่ค้าขายข้าวหมาก ได้รับความเดือดร้อนและรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจังหวัดบุรีรัมย์จับกุมบริเวณตลาดนัด ในข้อหาจำหน่ายเหล้าสาโท โดยไม่ได้รับอนุญาต เรียกค่าปรับถึง5หมื่นบาท โดยมีการต่อรองค่าปรับลดลงเหลือ3 หมื่นบาทและลดลงเหลือแค่ 1 หมื่นบาทเพื่อแลกกับการปล่อยตัว โดยเรื่องเกิดขึ้นเมื่อที่ 22 ก.ค. เจ้าหน้าที่สรรพสามิตผู้หญิง 2 คนและผู้ชาย 1 คนจับกุมในข้อหาจำหน่ายสุราสาโทโดยไม่ได้รับอนุญาต
ต่อมากรมสรรพสามิต ได้ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่า กรณีคุณยายตามที่ระบุในข่าวมีอาชีพขายข้าวหมากเป็นอาชีพหลัก และเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตได้รับแจ้งจากราษฎรว่า มีการจำหน่ายสุราแช่เพื่อดื่มกินที่ตลาดคลองถม สี่แยกไฟแดง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบและพบคุณยายดังกล่าวมีสุราแช่บรรจุถุงพลาสติกขนาดถุงละ 1 ลิตร จำนวน 11 ถุง รวม 11 ลิตร จึงมีการจับกุมคุณยายพร้อมของกลางที่เป็นสุรา มิได้มีการจับกุมข้าวหมากดังที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และข้าวหมากมิใช่สินค้าในพิกัดสินค้าสรรพสามิต
ล่าสุดวันนี้(18ส.ค.) พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า Nuntdach Makswat ซึ่งได้แสดงความคิดเห็นต่อเหตุดังกล่าว โดยมีเนื้อหาทั้งหมดระบุว่า
"จับน้ำข้าวหมาก ไม่ใช่จับยาบ้านะ!"
เรื่องยายข้าวหมากนั้น แม้แกจะผิดยังไหง ผมก็ยังเห็นใจแกอยู่ดี เพราะ
(1) สรรพสามิต ปรับ50,000บาท ต่อรองลดมาเหลือ30,000บาท ในที่สุดลดมาเหลือ10,000บาท
(2) น้ำที่ยายขาย ยายระบุว่า เป็นน้ำข้าวหมาก ไม่ใช่สาโท
เรื่องนี้ ดูเสมือนข่มเหงคนจนกันเกินไป ถ้าจะปรับจริงก็ควรสัก1000บาท ให้เข็ดหลาบ ไม่ใช่ปรับกันถึงขนาดต้องไปกู้หนี้ยืมสิน มาให้
รายการโหนกระแส ( 17 สิงหาคม 2561 ) หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ได้สัมภาษณ์เปิดใจ คุณยายเสน่ห์ บ่วงรัมย์ ที่มาพร้อม คุณบุญมณี บ่วงรัมย์ ลูกสาว รวมทั้ง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และ รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สรุปสาระได้ว่า
คุณยายขายข้าวหมาก เล่าว่า " แถวตลาดนัดนั้นรู้หมดว่าไม่ใช่สาโท เป็นน้ำข้าวหมาก มีแต่ผู้หญิงกินทั้งนั้น ผู้ชายไม่กินหรอก เพราะมันไม่ฉุน" และ บอกต่ออีกว่า น้ำที่กรมสรรพมิต นำออกมาแสดงนั้น เป็นสีเหลือง ส่วนของยายสีขาว พวกสรรพามิต ยัง บอกว่าหวานดี ส่วนค่าปรับลูกสาวต้องกลับไปกู้มาร้อยละ20 ครั้งแรกกู้ได้5000 ต้องกลับไปกู้มาอีก โดยขู่ว่าป้าจะต้องติดคุกคิดไปวันละ300บาท
อาจารย์อ๊อด ระบุว่า " น้ำข้าวหมากจะมีน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ คือชิมปุ๊บจะหวาน เหมือนน้ำหวาน เพราะแป้งถูกย่อยสลายกลายเป็นน้ำตาลกลูโคส แต่สาโทจะเป็นแอลกอฮอล์เป็นหลัก ความต่างคือเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ "
3 สถานีได้ติดต่อไปทาง คุณณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี กรมสรรพสามิต
บอกว่าจะเป็นน้ำข้าวหมากหรือสาโทก็ผิดอยู่ดี เพราะไม่มีการขออนุญาต ดูมั่วๆยังไหงก็ไม่รู้
แต่ก็ต้องเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ผมว่าใครสักคนไม่ต้องรอให้นายก สั่งออกมา คืนเงินป้าแกไปเถอะครับ ไม่รู้ว่าป้าแกมีใบเสร็จค่าปรับหรือเปล่า ถ้าไม่มี หรือ มีแต่บอกว่าป้าแกลืมเอาไปละก็ กรมสรรพสามิต ซวยแน่ครับ (รายละเอียดมีมากกว่านี้ ไปดูที่ KAPOOK.com ครับ)
ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Nuntdach Makswat