- 13 พ.ย. 2561
เป็นอีกประเด็นที่ต้องเกาะติดกับสถานการณ์น้ำท่วม ล่าสุดมีรายงานว่า ต.บางสะพานน้อย อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีน้ำไหลทะลักเข้าท่วมเป็นรอบที่ 3 หลังจากเพิ่งแห้งไป ท่ามกลางความกังวลว่าสถานการณ์อาจยังวิกฤติเพราะไม่มีทีท่าว่าฝนจะหยุดตกในพื้นที่ภาคใต้เร็วๆนี
เป็นอีกประเด็นที่ต้องเกาะติดกับสถานการณ์น้ำท่วม ล่าสุดมีรายงานว่า ต.บางสะพานน้อย อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีน้ำไหลทะลักเข้าท่วมเป็นรอบที่ 3 หลังจากเพิ่งแห้งไป ท่ามกลางความกังวลว่าสถานการณ์อาจยังวิกฤติเพราะไม่มีทีท่าว่าฝนจะหยุดตกในพื้นที่ภาคใต้เร็วๆนี้ ทั้งนี้มีการร้องเรียนเพิ่มเติมว่าขณะนี้พบปัญหาน้ำประปามีสีขุ่นแดง จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือเพิ่มเติม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมประมาณ 1,300 ครัวเรือนขาดแคลนน้ำดื่มและอาหาร ขณะที่บางจุดที่เจ้าหน้าที่ยังเข้าไม่ถึงมีน้ำลึกเกิน 2 เมตร และยังมีประชาชนติดค้าง จึงต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ด้าน กรมอุตุฯ แจ้งเตือนพยากรณอากาศวันนี้ ภาคใต้ยังคงมีฝนอย่างต่อเนื่องใน 23 จังหวัด อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ส่วนภาคเหนือโดยเฉพาะยอดดอยที่อุณหภูมิต่ำสุด 7 องศาเซลเซียส ขณะที่กรุงเทพฯ ยังคงมีฝนฟ้าคะนองในบางพื้นที่ นึ่ง ในช่วงวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2561 หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะบอร์เนียวจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำ มีรายงานว่ามี 1 สาย ที่ระดับการเตือนภัยวิกฤต คือ แม่น้ำสนามไชย ในกรุงเทพและปริมณฑล จ.สมุทรสาคร อ.เมืองสมุทรสาคร ต.พันท้ายนรสิงห์ ระดับตลิ่ง (ม.รทก) 1.08 ระดับน้ำ (ม.รทก) 1.32 ขณะที่สถานการณ์เขื่อนมีทั้งหมด 4 เขื่อนที่ปริมาณน้ำมากจนวิกฤตได้แก่ เขื่อนแม่งัด ,เขื่อนกิ่วลม ,เขื่อนปราณบุรี ,เขื่อนหนองปลาไหล
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ประกอบกับ ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีปริมาณฝนลดลง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันนี้ ถึงเวลา 06.00 ของวันที่ 14 พ.ย.นี้ ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน ตาก กำแพงเพชร และสุโขทัย อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท และนครสวรรค์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทั้งนี้มีการแจ้งเตือนเพิ่มเติมว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ ขอให้ชาวเกษตรกรบริเวณประเทศไทยตอนบนควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตร เนื่องจากฝนที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 15-18 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ในระยะนี้ไว้ด้วย