ประธาน "ปปง." ลาออก หลังถูกโยงกลุ่มทุนจีนสีเทา ชูวิทย์โพสต์คารวะ

วันที่ 19 ธันวาคม 2565 มีรายงานว่า  พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ประธานคณะกรรมการ ปปง.ลาออกแล้ว พร้อมแนบหนังสือลาออก ซึ่งเหตุผลการขอลาออกจากตำแหน่งระบุว่าเพราะมีปัญหาด้านสุขภาพร่างกายทำให้ไม่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มความสามารถ จึงขอลาออกจากการเป็นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป

ด้าน ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้โพสต์ข้อความถึง ประธาน ปปง. เอาไว้ดังนี้

ประธาน ปปง. ลาออก  ผมพาดพิงถึงประธาน ปปง. และทำให้ท่านตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ต้องยอมรับว่าเป็น "ลูกผู้ชาย" ชื่นชมความกล้าหาญในการตัดสินใจ เมื่อประชาชนไม่มีตำแหน่งแห่งหนอย่างผมพูด และท่านไม่ตอบโต้ ไม่ปฏิเสธ ไม่กอดอำนาจเอาไว้  หรือแม้แต่แก้ตัวต่อหน้าสื่อกลับตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวลาออกโดยทันที ถือว่าเป็นวิถีทางที่หาได้ยากยิ่งสำหรับคนมีอำนาจในสังคมไทยทุกวันนี้  เพื่อตอบข้อครหา และพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิไร้ซึ่งตำแหน่งเป็นเกราะป้องกัน

ในนามประชาชน ขอคารวะการตัดสินใจนี้ เพื่อเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ดีแก่ทุกหน่วยงานรัฐในประเทศไทย พลังของประชาชนยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด และผมจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งใดๆ ทางการเมือง

โดยก่อนหน้านี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์อันพิเศษระหว่างผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด รวมถึงนายหลิน หลง นายสมศักดิ์ แซ่หม่า โดยกล่าวอ้างว่า ทั้งหมดมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ปรากฏพยานหลักฐานพบว่า นายตู้ห่าวและนายสมศักดิ์ แซ่หม่า ทั้งคู่เดินขึ้น-ลง อาคารสำนักงาน ปปง. โดยเฉพาะชั้น 3 อยู่บ่อยครั้ง และที่บริเวณด้านหน้ารถตู้ของนายหลิน หลง ยังมีการใช้สติกเกอร์ตราโล่ ที่ระบุชื่อของผู้บริหารระดับสูงของ ปปง. ยศ "พล.ต.ต." รวมถึงปัจจุบัน การดำเนินคดีฟอกเงินภายใต้การดำเนินการของ ปปง. ยังคงไม่มีความคืบหน้ารายงานต่อสาธารณะ หรือแจ้งกลับไปยังเจ้าหน้าที่ชุดทำคดีตู้ห่าว สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลแต่อย่างใด

ขอบคุณ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline