กทท. ร่วมกับ กทพ. จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพและทางพิเศษบางนา-อาจณรงค์ (S1)

ติดตามเพิ่มเติม www.tnews.co.th

 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม    ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพและทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (S1) ระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในความร่วมมือเพื่อเชื่อมโยงท่าเรือกรุงเทพเข้ากับโครงข่ายทางพิเศษของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยมี นายสมศักดิ์ ห่มม่วง ประธานกรรมการ กทท.  นายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการ กทพ. ร้อยตำรวจตรี มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการ กทท. เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร รองผู้อำนวยการ กทท. สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ ดร.สุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการ กทพ. และนายวิชาญ เอกรินทรากุล รองผู้ว่าการฝ่ายกลยุทธ์และแผนงาน กทพ. ร่วมลงนามฯ พร้อมด้วยพนักงาน กทท. แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคารที่ทำการ กทท. 
  กทท. ร่วมกับ กทพ. จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพและทางพิเศษบางนา-อาจณรงค์ (S1)

กทท. ร่วมกับ กทพ. จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพและทางพิเศษบางนา-อาจณรงค์ (S1)   

      กทท. ร่วมกับ กทพ. จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพและทางพิเศษบางนา-อาจณรงค์ (S1)

         สำหรับการจัดพิธีลงนามฯ ดังกล่าว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการศึกษาออกแบบทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) และทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (S1) รวมระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร การพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อจะเชื่อมโยงท่าเรือกรุงเทพเข้ากับโครงข่ายทางพิเศษ เพื่อเร่งระบายรถบรรทุกให้สามารถมุ่งหน้าออกไปยัง             2 เส้นทาง คือ ทางพิเศษฉลองรัชสำหรับพื้นที่อุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคกลาง และทางพิเศษบูรพาวิถีสำหรับพื้นที่อุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งจะเชื่อมโยงท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง เข้ากับพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC ตามนโยบายการพัฒนาของรัฐบาล ให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ พร้อมอำนวยความสะดวกรวดเร็วให้กับผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางเรือที่เป็นอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ รวมถึงลดระยะเวลาการติดเวลาของรถบรรทุกในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ลดปัญหาความแออัดของการจราจรบริเวณท่าเรือ โดยจะสามารถระบายรถบรรทุกขึ้นสู่ทางพิเศษได้โดยตรงและมีขีดความสามารถในการรองรับบรรทุกได้เป็นปริมาณมาก อีกทั้งยังเป็นการยกระดับความสุขและความปลอดภัยต่อ       ผู้ใช้เส้นทางอีกด้วย ซึ่งทางเชื่อมต่อฯ ดังกล่าว จะยกระดับไปตามแนวเกาะกลางของถนนภายใน ทกท. คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปีงบประมาณ 2565 และเปิดใช้ในปีงบประมาณ 2567