เทวดามีจริง! ลองใจหลวงพ่อปาน ให้เลขแบบเข้าเต็มๆ!

ติดตามข่าวสารได้ใน www.tnews.co.th

หลวงพ่อปาน โสนันโท แห่งวัดบางนมโค เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งอยุธยา ลูกศิษย์ของท่านหลายรูปเป็นพระที่มีชื่อเสียงมาก อาทิ หลวงปู่บุดดา ถาวโร และพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

             ท่านเป็นคนสมัยรัชกาลที่ ๕ ถือกำเนิดเมื่อพ.ศ. ๒๔๑๘ ท่านมีใจใฝ่ในเพศพรหมจรรย์ตั้งแต่ยังเด็ก เมื่ออายุครบบวชได้อุปสมบท ณ วัดบางนมโค ท่านเป็นผู้ใฝ่ในการศึกษามาก จึงได้เดินทางไปตามสำนักต่าง ๆเพื่อเล่าเรียน สมัยนั้นนอกจากพระปริยัติธรรมแล้ว วิชาคาถาอาคมก็ถือกันว่าเป็นอีกวิชาหนึ่งที่พระควรเรียนรู้ ท่านจึงไปศึกษากับหลวงพ่อสุ่นซึ่งได้ชื่อว่าแก่กล้าทางคาถาอาคมและรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

             คำสอนข้อหนึ่งที่ท่านได้รับจากหลวงพ่อสุ่นก็คือ อย่าหวั่นไหวในโลกธรรม อย่าอยากรวย อย่าอยากมียศถาบรรดาศักดิ์ เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เที่ยง หากสูญเสียทรัพย์และยศก็จะเป็นทุกข์ พระนั้นถ้ารวยก็ไม่ใช่พระ พระต้องรวยด้วยบุญญาบารมี

           หลวงพ่อสุ่นได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้แก่ท่าน ทั้งคาถาอาคม วิชาแพทย์แผนโบราณและวิปัสสนากรรมฐานจนหมดสิ้นทุกกระบวน แต่ท่านก็ยังคงแสวงหาครูบาอาจารย์ต่อไป เพราะทราบดีว่าวิชาหนึ่งที่ยังขาดไปคือวิชาปริยัติธรรม

           ท่านจึงเดินทางไปเรียนกับพระอาจารย์จีนแห่งวัดเจ้าเจ็ด ตามคำแนะนำของหลวงพ่อสุ่น ชาวบ้านแถวนั้นพูดตรงร่ำลือว่า พระอาจารย์จีนเป็นคนโมโหร้ายมาก เวลาโมโหแล้วยั้งไม่อยู่ ปากว่ามือถึง จนลูกศิษย์หวาดกลัวมาก พระอาจารย์จีนเองก็รู้ตัว และกลัวว่าตนจะไปทำร้ายลูกศิษย์เวลาสอนหนังสือ ท่านจึงสั่งให้สร้างกรงใหญ่ขึ้นสำหรับขังตัวท่านเองเวลาสอนหนังสือ แล้วให้ลูกศิษย์คนเก็บกุญแจไว้ เวลาสอนหนังสือลูกศิษย์คนใดไม่ตั้งใจเรียนหรือตอบคำถามไม่ถูกต้อง ท่านจะโมโหจนคุมไม่อยู่ ถึงกับเอามือจับลูกกรงเหล็กเขย่าจนลูกศิษย์ขวัญหนีดีฝ่อ แต่พอท่านคลายโทสะลงแล้ว ท่านก็กลายเป็น พระอาจารย์จีนรูปเดิม

            หลวงพ่อปานเป็นผู้ใฝ่เรียน มีความเพียรเป็นที่ตั้ง พระอาจารย์จีนถามอะไร ท่านก็ตอบได้ถูกต้อง จึงเป็นที่พอใจแก่พระอาจารย์มาก ไม่นานพระอาจารย์จีนก็สิ้นความรู้ที่จะสอนให้ท่าน ท่านจึงเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ กับพระอาจารย์เจิ่น วัดสระเกศ

           ระหว่างอยู่ที่วัดสระเกศนั้น ท่านเล่าว่าอัตคัดขัดสนมาก บิณฑบาตบางครั้งก็ไม่พอฉัน ได้แต่ข้าวเปล่าๆ หาไม่ก็เด็ดยอดกระถินมาจิ้มน้ำปลา น้ำพริก ฉันแทบทุกวัน กิจนิมนต์ก็แทบไม่มี เป็นเช่นนี้อยู่หลายปี ปีสุดท้ายก่อนที่ท่านจะกลับวัดบางนมโค ท่านเล่าว่าคืนหนึ่งเทวดามาหาท่านถึงกุฏิเพื่อบอกหวย บอกเสร็จก็เขียนให้ดู แล้วย้ำว่าจำได้ไหม ท่านก็ตอบว่าจำได้ แทนที่จะดีใจ ท่านกลับครุ่นคิดจนนอนไม่หลับ

          รุ่งเช้าท่านตัดสินใจไม่แทงหวย เพราะเห็นว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ ท่านระลึกถึงคำของหลวงพ่อสุ่นที่ว่า “ถ้ารวยก็ไม่ใช่พระ พระ ต้องรวยด้วยบุญญาบารมี” ปรากฏว่าวันนั้นหวยออกตรงตามที่เทวดาบอก หากท่านแทงหวยตามที่เทวดาบอก ก็จะได้ลาภก้อนใหญ่แม้โชคลาภหลุดลอยไปต่อหน้า แต่ท่านก็หาเสียใจไม่ กลับรู้สึกสบายใจด้วยซ้ำที่ใจไม่หวั่นไหวต่อลาภ

          หลวงพ่อปานได้เรียนรู้หลายวิชา รวมทั้งคาถาอาคม สามารถสะเดาะกุญแจให้หลุดได้อย่างง่ายดาย แต่วิชาเหล่านั้นเทียบไม่ได้กับวิชาสะเดาะกิเลสให้หลุดจากใจ วิชานี้ทำให้ชีวิตสงบเย็นและเป็นอิสระ ไม่เบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่น ขณะที่พระอาจารย์จีนต้องมีกรงเหล็กไว้ควบคุมตนทั้ง ๆ ที่มีความรู้มากมาย แต่หลวงพ่อปานเพียงแต่มีสติรักษาใจและมีปัญญาเห็นโทษของโลกธรรม ก็สามารถป้องกันใจไม่ให้ทุกข์ครอบงำได้ แม้ทุกข์นั้นจะมาในคราบของสุขหรือโชคลาภก็ตาม วิชานี้ทำให้ท่านรวยอย่างแท้จริงคือรวยด้วยบุญญาบารมี

 
รวยบุญญาบารมี : หลวงพ่อปาน โสนันโท

เทวดามีจริง! ลองใจหลวงพ่อปาน ให้เลขแบบเข้าเต็มๆ!