เมื่อเหล่าครูบาอาจารย์กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ภิกษุผู้ลาพุทธภูมิ สอนศิษย์ด้วยวิธีอันอัศจรรย์ จะหาใครสอนได้เหมือนไม่มีแล้ว

ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th/

พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ เป็นพระภิกษุนิกายเถรวาทฝ่ายมหานิกาย เจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี มีชื่อเสียงในด้านการบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานจนได้วิชามโนมยิทธิ (ฤทธิ์ทางใจ)

หลังการมรณภาพ สังขารร่างกายของท่านมิได้เน่าเปื่อยอย่างศพของคนทั่วไป และได้มีการเก็บรักษาไว้ที่วัดท่าซุงจนถึงปัจจุบันนี้

หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้รับการยอมรับ และรับรอง จากครูบาอาจารย์ชื่อดังหลายรูป เกี่ยวกับญาณบารมี ซึ่งมีข้อความดังต่อไปนี้

หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวงศ์ถ้ำนารายณ์

จ.สระบุรี พูดเล่าว่าหลวงปู่ดาบส สุมโณ พูดถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ว่า……..

ลูกหลานเอย..หลวงตาต้องกล้าเขียนต่อ บอกแล้วว่ามันยากที่จะเล่าให้ฟังตามตรง ๆ ที่หลวงปู่พูดถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่า………

"พระคุณเจ้าองค์นั้นเป็นอรหันต์องค์เอกองค์หนึ่งของโลกในปลายศาสนา ๕๐๐๐ ปี

จะหาใครสอนเสมอเหมือนพระคุณท่านหาไม่ได้แล้ว พระคุณท่านองค์นั้นสอนได้คล้ายพระพุทธเจ้าสอน เพราะท่านปรารถนาพระโพธิญาณ ถ้าท่านไม่ลาพุทธภูมิหักใจเป็นพระอรหันต์สาวกเสียก่อน

ท่านเทศน์คราวไร เรา..พวกเรานี้ที่บำเพ็ญบารมีตามท่านมา ก็จะฟังเทศน์จากท่านเพียงครั้งเดียว

ก็จะเป็นพระอรหันต์ตามได้

จำไว้นะ ! กลับไปฟังคำสอนของพระคุณท่าน ฟังเทปของท่าน ดูวีดีโอของท่าน ให้ส่งจิตคิดตามเสียงท่านประหนึ่งว่าเป็นเสียงในใจเรา ก็อาจจะบรรลุมรรคผลได้ตามที่ตัดสินใจ ตามเสียงนั้นเฉพาะหน้า เหมือนฟังจากพระพุทธเจ้านั่นแหละ องค์นี้หาใครสอนได้เสมือนท่านยากนักหนาแล้ว" นี่หลวงตาเล่าให้ฟังตามที่ได้พบเห็นได้ยินมาเฉพาะตัวหลวงตาเอง ท่านใดจะชื่นชมสมใจหรือแหนงหน่าย อึดอัดก็โปรดเป็นไปตามกฎธรรมดา ตามปรารถนาเถิด…..

เมื่อเหล่าครูบาอาจารย์กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ภิกษุผู้ลาพุทธภูมิ สอนศิษย์ด้วยวิธีอันอัศจรรย์ จะหาใครสอนได้เหมือนไม่มีแล้ว

ท่านเจ้าคุณหลวงพ่อ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินธโรมหาเถระ)

วัดสามพระยา ปรารภกับหลวงพี่ ท่านพระครูปลัดอนันต์ พัทธญาโณ เจ้าอาวาส วัดท่าซุง

ว่า " คำสอนของท่านเจ้าคุณพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ใช้เป็นตำราได้ทั้งหมดนะ "

เมื่อเหล่าครูบาอาจารย์กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ภิกษุผู้ลาพุทธภูมิ สอนศิษย์ด้วยวิธีอันอัศจรรย์ จะหาใครสอนได้เหมือนไม่มีแล้ว

พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านเจ้าคุณพระญาณสิทธาจารย์ (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร มหาเถระ)

บอกว่า "หลวงพ่อมหาวีระ(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ท่านเป็นโลกวิทู แจ้งทั้งโลก แจ้งทั้งธรรม"

เมื่อเหล่าครูบาอาจารย์กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ภิกษุผู้ลาพุทธภูมิ สอนศิษย์ด้วยวิธีอันอัศจรรย์ จะหาใครสอนได้เหมือนไม่มีแล้ว

หลวงปู่บุดดา ถาวโร ยังปรารภถึงหลวงพ่อว่า " หลวงปู่น่ะเหมือนหิ่งห้อย

หลวงพ่อมหาวีระ(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) นั้นเหมือนพระอาทิตย์"

เมื่อเหล่าครูบาอาจารย์กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ภิกษุผู้ลาพุทธภูมิ สอนศิษย์ด้วยวิธีอันอัศจรรย์ จะหาใครสอนได้เหมือนไม่มีแล้ว

ครูบาคำแสนเล็ก ท่านบอกว่า “หลวงปู่ บวชมา 60 กว่าพรรษาเข้านี่แล้วยังไม่เคยพบ

พระองค์ไหนเหมือนหลวงพ่อ(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ”

 

 

จากหนังสือลูกศิษย์บันทึก เล่ม ๒  

หลวงพ่อพระบุญรัตน์ กันตจาโร ได้บันทึกไว้ว่า

ในปีพ.ศ. ๒๕๑๕ หลวงปู่ชุ่ม โพธิโก หลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร กำลังสนทนาธรรมกันที่วัดป่าดอนมูล อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ผู้เขียนกำลังรับฟังธรรม จากพระเดชพระคุณท่านฯ ทั้งสองอยู่ หลวงปู่ชุ่มก็หันหน้ามาบอกผู้เขียนว่า

“ท่านบุญรัตน์ ให้ไปกราบหลวงพ่อใหญ่ วัดท่าซุงหน่อย ท่านเป็นพระทอง หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ท่านเปี่ยมด้วยเมตตาบารมี ใครได้กราบไหว้ก็เป็นบุญกุศลใหญ่นัก”

หลวงปู่คำแสนซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆ ก็กล่าวเสริมขึ้นว่า

“เออ ดีมาก หลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นผู้ประกอบไปด้วยเมตตาธรรมอันสูงส่ง

เหมือนกับครูบาศรีวิชัย หาที่ไหนไม่ได้แล้ว”

ผู้เขียนได้รับฟังหลวงปู่ทั้งสององค์บอกกล่าว ดังนั้นก็ก้มกราบเท้าทั้งสองหลวงปู่ด้วยความอิ่มอกอิ่มใจจนน้ำตาไหล

หลังจากนั้นมา ผู้เขียนก็หาเวลาไปกราบเท้านมัสการพระเดชพระคุณเจ้าประคุณหลวงพ่อหลายครั้งหลายหน เมื่อไปกราบคราวใดก็รู้สึกอิ่มใจ และได้ฟังธรรมจากพระเดชพระคุณท่านฯ จึงทำให้เกิดศรัทธามากขึ้น เพราะว่าคำสอนของพระเดชพระคุณท่านฯ ฟังง่าย ปฏิบัติก็ง่าย ฟังได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ตลอดถึงปี พ.ศ.๒๕๑๗ ผู้เขียนได้ลงไปพักวัดอภัยทายาราม (วัดมะกอก) ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ ก็หาเวลาไปกราบฟังธรรมที่ซอยสายลมมิได้ขาด

เมื่อเหล่าครูบาอาจารย์กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ภิกษุผู้ลาพุทธภูมิ สอนศิษย์ด้วยวิธีอันอัศจรรย์ จะหาใครสอนได้เหมือนไม่มีแล้ว

 

เมื่อผู้เขียนกลับไปเชียงใหม่ก็ไปนมัสการหลวงปู่ชุ่ม และกราบเรียนเรื่องราวที่ได้มีโอกาสไปนมัสการและสดับฟังธรรมจากพระเดชพระคุณเจ้าประคุณหลวงพ่อฯ ถวายแด่หลวงปู่ชุ่มฟัง หลวงปู่ท่านก็บอกว่า “ดีมาก ท่านบุญรัตน์ได้พบของดีแล้ว”

นอกจากนั้นหลวงปู่ท่านเมตตาเล่าให้ผู้เขียนฟังอีกว่า

“พระเดชพระคุณหลวงพ่อวีระ วัดท่าซุงนี่ท่านเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมอันสูงมาก บารมีสูง

ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของท่าน ท่านจะไม่มาอีกแล้ว จะเข้าสู่พระนิพพาน

เพราะฉะนั้นท่านจึงสั่งสอนให้ลูกหลานและศิษย์ท่านปฏิบัติให้เข้าถึงพระนิพพานกันหมด”

หลวงปู่ชุ่มบอกกับผู้เขียนว่า

“ขอให้ท่านจงได้ปฏิบัติติดตามคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเถอะ จะได้ถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้”

  เมื่อเหล่าครูบาอาจารย์กล่าวถึงหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ภิกษุผู้ลาพุทธภูมิ สอนศิษย์ด้วยวิธีอันอัศจรรย์ จะหาใครสอนได้เหมือนไม่มีแล้ว

ตลอดระยะเวลาที่อุปสมบทอยู่ หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้ทำหน้าที่ของพระสงฆ์ ในพระพุทธศาสนาอย่างสมบูรณ์ กล่าวคือ

ทางด้านชาติ ได้สร้างโรงพยาบาล, สร้างโรงเรียน, จัดตั้งธนาคารข้าว, ออกเยี่ยมเยียน ทหารหาญของชาติและตำรวจตระเวณชายแดนตามหน่วยต่าง ๆ เพื่อ ปลุกปลอบขวัญและกำลังใจ และ แจกอาหาร, ยา, อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และวัตถุมงคลทั่วประเทศ

ทางด้านพระศาสนา ได้สั่งสอนพุทธบริษัทศิษยานุศิษย์ให้มุ่งพระนิพพานเป็นหลัก โดยให้ประพฤติปฏิบัติสำรวมกาย, วาจา, ใจ, มุ่งในทาน, ศีล, สมาธิ และปัญญา ทั้งในทางกรรมฐาน 40 และมหาสติปัฏฐานสูตร ได้พิมพ์หนังสือคำสอนจำนวนมากและบันทึกเทปคำสอนกว่า 1,000 ม้วน นอกจากนี้ยังได้แสดงธรรมเทศนาทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์เป็นครั้งคราว นอกจากนี้ ยังเดินทางไปสงเคราะห์คณะศิษย์ในต่างจังหวัดและต่างประเทศทุก ๆ ปี

ทางด้านวัตถุ ท่านได้ช่วยสร้างพระพุทธรูปและถาวรวัตถุไว้ในพระพุทธศาสนามากกว่า 30 วัด รวมทั้งการบูรณะฟื้นฟูวัดท่าซุงด้วยเงินกว่า 600 ล้านบาท ได้สร้างพระไตรปิฎก และถวายผ้าไตรแก่วัดต่างๆ ปีละไม่ต่ำกว่า 200 ไตร

ทางด้านพระมหากษัตริย์ท่านได้สนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการจัดตั้งศูนย์สงเคราะห์ผู้ยากจนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชประสงค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งศูนย์ฯ นี้ได้ดำเนินการสงเคราะห์ราษฎรในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 ทั้งการแจกเสื้อผ้า, อาหาร และยารักษาโรคแก่ราษฎรผู้ยากจน, การช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ, การจัดแพทย์เคลื่อนที่ออกรักษาพยาบาลราษฎรผู้เจ็บป่วย, การให้ทุน นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน, การบริจาคทุนทรัพย์ให้แก่มูลนิธิและโรงพยาบาลต่าง ๆ ฯลฯ

นับได้ว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเป็นปูชนียบุคคลผู้อยู่ด้วยความกรุณา เป็นปกติ พร่ำสอนธรรมะและสิ่งทีเป็นประโยชน์และสงเคราะห์เกื้อกูลมหาชนด้วยเมตตามหาศาลสมกับเป็น ศากยบุตรพุทธชิโนรสแท้องค์หนึ่ง

 

ขอบคุณข้อมูล  https://pantip.com และ http://www.dhammajak.net

เสนอข่าวโดย : ไญยิกา เมืองจำนงค์ (ทีมข่าวปัญญาญาณ- ทีนิวส์)