ถึงกับสะอึก!! “ทุกวันนี้ทำเพื่อใคร??”  นักวิชาการจี้ "สื่อ" ตอบคำถามตัวเองให้ได้ ..ทำตัวรับใช้นายทุน เงิน และอำนาจ ก็อย่ามาเรียกร้องเสรีภาพ!

ติดตามเรื่องราวดีๆ ได้ที่ http://www.tnews.co.th

ใกล้จะถึงวันสำคัญ 3 พฤษภาคม ของทุกปี ซึ่งเป็น “วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก” ในประทศไทยเองก็มีประเด็นการร่างกฎหมายขึ้นทะเบียนสื่อ ซึ่งถือเป็นกระแสที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากในโลกโซเชียลและวงการสื่อมวลชน โดยนักวิชาการ “ธาม เชื้อสถาปนศิริ” ได้โพสต์เฟสบุ๊คเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวเป็นบทความ ซึ่งมีเนื้อหาว่า

ถึงกับสะอึก!! “ทุกวันนี้ทำเพื่อใคร??”  นักวิชาการจี้ \"สื่อ\" ตอบคำถามตัวเองให้ได้ ..ทำตัวรับใช้นายทุน เงิน และอำนาจ ก็อย่ามาเรียกร้องเสรีภาพ!

จริยธรรมสื่อกับไข่ไก่
.....

ผมไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายของ สทป. ฉบับล่าสุดที่มีเนื้อหาให้ขึ้นทะเบียนสื่อกับหน่วยงานรัฐ เพราะนั่นคือการแทรกแซงสื่อ

แต่หากเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่าง "จริยธรรมสื่อ และ กฎหมายสื่อ" ก็คงเทียบได้กับไข่ไก่ 1 ฟอง

จริยธรรม คือ ไข่แดง
กฎหมายสื่อ คือ เปลือกไข่

ส่วนตัวสื่อ ก็คือ ไข่ขาว ที่จะเติบโตมากลายเป็นตัวไก่ (หรือจะนกก็ตามที)

ไข่ขาวคือ ส่วนที่สำคัญ มักอธิบายว่าเป็น

ไม่มีจริยธรรม = สื่อก็ไม่ใช่สื่อ เป็นอันธพาล
ไม่มีกฎหมายกำกับ = สื่อก็เสรีมากเกินขอบเขต
ไม่มีจรรยาบรรณ = จริยธรรมก็เป็นแค่ลมปาก
ไม่มีแนวปฏิบัติ = สื่อก็ไร้ทิศทางกำกับการทำงาน

ไม่ใช่ว่า "จริยธรรมสำคัญกว่ากฎหมาย หรือ กฎหมายสำคัญกว่าจริยธรรม" ทั้งหมดคือความสมดุล ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปมิได้

ทั้งหมดนี้ ทำงานกันคนละอย่าง คนละหน้าที่ สื่อเองต้องมีเสรีภาพ จึงจะทำงานได้
 

สังคมต้องมีกฎหมายคุ้มครองประชาชน และสถาบันส่งคมอื่นๆ
มิเช่นนั้นสื่อจะใช้อำนาจเกินขอบเขตเสรี
รัฐบาลต้องไม่แทรกแซงเสรีภาพในการตรวจสอบ นำเสนอข้อมุลข่าวสาร ความจริง

ประชาชน และ สังคม ย่อมได้ประโยชน์ร่วมกัน
สื่อเองต้องยอมรับกฎหมาย และการกำกับ ควบคุมดูแล

ต้อง "กำกับตนเอง (self control)" ให้ได้
ไม่ใช่เอาแต่ "เซ็นเซอร์ตัวเอง (self censor)"

ต้อง "กำกับกันเอง (self regulation) ให้เข้มแข็ง
ไม่ใช่ "แมลงวันไม่ตอมแมลงวัน"

ต้องให้สังคม ประชาชน ร่วมกำกับ ตรวจสอบ
ไม่ใช่เอาแต่พวกพ้องผลประโยชน์ของตนเอง

ต้องยอมรับการวิพากษ์ วิจารณ์
ต้องทำตนเองให้ถูกตรวจสอบได้ มีความโปร่งใส
ไม่ใช่เอาแต่จะตรวจสอบคนอื่น แล้วไม่ยอมให้คนอื่นมาตรวจสอบ

ต้องเคารพสิทธิของผู้อื่น ถ้าอยากให้ผู้อื่นพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพของตนเอง

เสรีภาพของตนเอง ขึ้นอยู่กับว่า ตนเองมีความรับผิดชอบต่อสังคมหรือไม่ อย่าเรียกร้องจากรัฐ เรียกร้องจากประชาชน
ทำตัวเองให้ดีเสียก่อน ในฐานะศักดิ์ฐานันดรที่ 4 สุนัขรับใช้ประชาชน

ถึงกับสะอึก!! “ทุกวันนี้ทำเพื่อใคร??”  นักวิชาการจี้ \"สื่อ\" ตอบคำถามตัวเองให้ได้ ..ทำตัวรับใช้นายทุน เงิน และอำนาจ ก็อย่ามาเรียกร้องเสรีภาพ!

หากทำตัวรับใช้นายทุน เงิน และอำนาจ ก็อย่ามาเรียกร้องเสรีภาพสื่อ
หากทำตัวพิทักษ์ผลประโยชน์แต่พวกพ้อง พรรคพวก ฝ่ายการเมือง ก็อย่าเรียกตัวเองว่าสื่อ

หากนำเสนอข่าวสารเอนเอียง อคติ ด้านเดียว เอาใจนาย เลือกข้างเงิน ก็อย่ามาเรียกร้องเสรีภาพสื่อ

ประชาชนวันนี้มีสื่อเองในมือ
 

สิทธิเสรีภาพสื่อ กับเสรีภาพของประชาชน มิได้เป็นเสมือนสิ่งเดียวกันแนบแน่นอีกต่อไป แต่จะค่อยๆ มีเส้นแบ่งระยะห่างออกไปเรื่อยๆ ถี่ห่างกว้างมากยิ่งขึ้น

ถ้าสื่อไม่ใช้วิจารณญาณในการนำเสนอ ตรวจสอบข้อเท็จจริง นำเสนออย่างสมดุล รอบด้าน เที่ยงตรง ครบถ้วนแล้ว ก็อย่ามาว่า วิจารณ์ประชาชนที่เขาตรวจสอบสื่อ หรือใช้สื่อเป็นเครื่องมือในการสื่อสารกันเอง

วันนี้ ประชาชนคือ ฐานันดรที่ 5 ผู้กำกุมความคิดเห็นสาธารณะ (public opinion) มิใช่อยู่ภายใต้อำนาจกดกุดหัวเป็นหุ่นเชือกของสื่ออีกต่อไป

แต่ก่อนบอก
"คุกคามสื่อ คือคุกคามประชาชน" แต่เอาจริงๆ หลายสื่อ เพื่อกดหัวประชาชน เน้นผลประโยชน์กำไรของเจ้าของและนายทุน
แต่ก่อนบอก "เสรีภาพสื่อ คือ เสรีภาพประชาชน"

วันนี้ประชาชน มีข้อมูล มีความรู้ มีช่องทางสื่อสารติดต่อเชื่อมโยงกันได้เอง ทำหน้าที่เป็นสังคมระดมข้อมูล ปัญญา จะมาอ้างเสรีภาพประชาชนเป็นตัวประกันต่อรองอำนาจตัวเองเป็นเช่นเดิม ย่อมไม่สนิทปากสนิทใจนัก?

มีสื่อที่ดี ไม่ต้องมีรัฐบาลก็ได้ นั้นถูกต้อง
สังคมประชาธิปไตยต้องมีสื่อที่เสรี นั้นถูกต้อง

ทว่าตัวสื่อเองวันนี้ "ต้องถามบทบาทและหน้าที่ พันธกิจของตนเอง" ว่าวันนี้ แข่งขันกันเพื่อกำไร อำนาจ การเมือง หรือเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

#เนื่องในวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลกที่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ถึงกับสะอึก!! “ทุกวันนี้ทำเพื่อใคร??”  นักวิชาการจี้ \"สื่อ\" ตอบคำถามตัวเองให้ได้ ..ทำตัวรับใช้นายทุน เงิน และอำนาจ ก็อย่ามาเรียกร้องเสรีภาพ!