- 31 ก.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
ปรากฏการณ์ "หมอกธุมเกตุ" ซึ่งตำรากล่าวถึงว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ๆเกิดขึ้น เช่นเหตุการณ์สวรรคตของพระเจ้าแผ่นดินมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อครั้งองค์ในหลวงรัชกาลที่ ๕ เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๓
นอกจากนี้ในพระราชพงศาวดาร ระบุว่า ปรากฏดังกล่าว จะเกิดหลัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จสวรรคต “หมอกธุมเกตุ” จะปรากฏขึ้นมา ซึ่งเคยเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้มาแล้วเมื่อมีเหตุการณ์สวรรคตของพระเจ้าแผ่นดินมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา จนถึง กรุงรัตนโกสินทร์ นั้น
คำว่า "ธุมเกตุ" โดยรากศัพท์ หมายถึง ควัน "ธุม" (อ่านทุม-มะ) แปลว่า ฝุ่น,ควัน หรือ ดาวหางก็ได้ เมื่อใช้คำนี้ในการบรรยายสภาพบรรยากาศ หมายถึง บรรยากาศที่เงียบ สงบ ไม่มีแดด ปกคลุมด้วยหมอกควัน หรือบรรยากาศที่ครึ้มไปหมด ในพุทธประวัติ เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน มีตอนที่กล่าวถึงสาวกซึ่งเดินทางมาร่วมถวายพระเพลิง โดยปรากฏคำว่า "ธุมเกตุ" ในลักษณะที่ว่า บรรยากาศเงียบ สงบ ไร้แดดแผดเผา ทำให้เดินทางมาได้อย่างสะดวก อย่างไรก็ตาม ได้เจือบรรยากาศที่โศกเศร้า
นอกจากนี้ “ธุมเกตุ” ยังปรากฏในพระราชพงศาวดารมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อพระเจ้าแผ่นดินผู้เป็นที่รักของราษฎร์เสด็จสวรรคต จะมีการบรรยายถึงหมอกธุมเกตุ ซึ่งปกคลุมบรรยากาศไปทั่ว สื่อความถึง "ผู้มีบุญที่ล่วงลับดับสูญ" ส่วนในสมัยรัตนโกสินทร์ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จสวรรคต ได้มีการบันทึกว่าได้เกิดปรากฏการณ์ "หมอกธุมเกตุ" นี้เช่นเดียวกัน ดังข้อความบางส่วนจากพระนิพนธ์ใน หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิสกุล ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ เมื่อแผ่นดินสยามร้องไห้ ที่ได้บรรยายไว้ว่า
"พวกราษฎรเอาเสื่อไปปูนั่งกันเป็นแถวตลอดสองข้างทาง จะหาหน้าใครที่มีแม้แต่ยิ้มก็ไม่มีสักผู้เดียวทุกคนแต่งดำน้ำตาไหลอย่างตกอกตกใจด้วยไม่เคยรู้รส อากาศมืดคุ้มมีหมอกขาวลงจัดเกือบถึงหัวคนเดินทั่วไป ผู้ใหญ่เขาบอกว่านี่แหละหมอกธุมเกตุที่ในตำราเขากล่าวถึง ว่ามักจะมีในเวลาที่มีเหตุใหญ่ๆเกิดขึ้น"
และเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ได้เกิดปรากฎการณ์ "หมอกธุมเกตุ" ขึ้นเหนือพระบรมมหาราชวังและ พระบรมรูปทรงม้า ในวันที่คนไทยร้องไห้กันทั้งประเทศเมื่อวันที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคต นึกไม่ถึงว่าสิ่งที่เคยอ่านจากพระราชพงศาวดารจะมาปรากฏให้เห็นด้วยตาตนเอง และเป็นประจักษ์พยานในเหตุการณ์สำคัญเช่นนี้ สิ่งเหล่านี้ย่อมหมายถึงเหล่าทวยเทพยดามาคอยรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กลับสู่สวรรคาลัย
ที่มาจาก : http://www.lookshin.com
ขอบคุณภาพจาก : thanaboat
ขอบคุณคลิปจาก : Youtube Laura Oakly