- 16 ส.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th/
แม้วันนี้ คุณพุ่ม เจนเซน พระโอรสในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี จะจากไปแล้ว แต่กระนั้นคุณพุ่มก็ยังคงอยู่ในหัวใจของคนไทยตลอดไป คุณพุ่ม เจนเซน ถึงแก่อนิจกรรมจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติสึนามิ ที่เขาหลัก จังหวัดพังงา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2547 การจากไปของคุณพุ่ม ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ หัวใจแทบสลาย คุณพุ่มจากไปด้วยวัยเพียง 21 ปี 4 เดือน 10 วัน
หลังจากคุณพุ่มถึงแก่อนิจกรรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานโกศราชวงศ์ พร้อมฉัตรเบญจาตั้งประดิษฐ์ และยังทรงรับไว้บำเพ็ญกุศลในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นเวลา 7 วัน โดยให้ตั้งบำเพ็ญกุศล ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง และมีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคมเป็นต้นมา
จนเมื่อวันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ.2548 เป็นวันพระราชทานเพลิงศพคุณพุ่ม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ คุณพุ่ม เจนเซน ภ.ป.ร.1 ที่วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ ซึ่งพิธีดังกล่าวได้จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ
ในวันนั้น ตั้งแต่ช่วงเที่ยง พสกนิกรชาวไทยกว่า 2 หมื่นคนซึ่งเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ ต่างแต่งกายในชุดสีดำ-ขาว มุ่งหน้าตรงมายังวัดเทพศิรินทราวาส ทุกคนตั้งใจที่จะร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพเจ้าชายน้อย และร่วมส่งคุณพุ่มสู่สวรรค์คาลัย
ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมด้วยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลพระราชทานในการออกเมรุ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวังตั้งแต่เช้าแล้ว
จนกระทั่งช่วงบ่าย ทั้งสองพระองค์ทรงเชิญร่างคุณพุ่มจากศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เข้าสู่สุสานหลวงวัดเทพศิรินทราวาส โดยเดินทางไปตามถนนมหาราช เลี้ยวซ้ายถนนท้ายวัง เลี้ยวซ้ายถนนสนามไชย เลี้ยวขวาถนนบำรุงเมือง เลี้ยวขวาถนนกรุงเกษม เลี้ยวขวาถนนหลวง จนถึงสุสานหลวงวัดเทพศิรินทราวาส
สำหรับริ้วขบวนเชิญโกศศพ ประกอบด้วย ตำรวจม้าจำนวน 10 นาย รถจักรยานยนต์ตำรวจ 3 คัน รถยนต์ตำรวจ 2 คัน รถยนต์หลวงนำศพ 2 คัน ตามด้วยรถวอจตุรมุขเชิญโกศศพ รถยนต์หลวงเชิญบรมศพ รถยนต์หลวงเชิญเครื่องราชอิศริยาภรณ์ รถยนต์พระที่นั่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และรถยนต์ขบวนตามเสด็จ
ตลอดเส้นทางที่ริ้วขบวนผ่าน พ่อแก่แม่เฒ่า ลูกเล็กเด็กแดงต่างร่วมอาลัยคุณพุ่มตลอด 2 ข้างทาง ขบวนมาถึงหน้าวัดเทพศิรินทราวาส ในเวลาประมาณ 14.41 น. ม้าขบวนทั้ง 10 ม้าได้แปรขบวนเป็นแถวหน้ากระดานเพื่อทำความเคารพ จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ได้จูงม้าไนกี้ซึ่งเป็นม้าคู่ใจที่คุณพุ่มเคยขี่ออกมานำขบวน โดยไม่มีผู้ใดขี่ ทั้งนี้ ม้าไนกี้ปูด้วยผ้ารองอานม้าสีชมพูขลิบเลือดหมูและถูกตกแต่งด้วยเครื่องประดับแบบเต็มยศ เสมือนหนึ่งมีคุณพุ่มกำลังอยู่บนหลังม้า
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้อัญเชิญโกศศพมาร่วมในขบวนเพื่อแห่เวียนเมรุ โดยริ้วขบวน ประกอบด้วย พนักงานประโคม เครื่องสูงหน้า สนมพลเรือนเชิญพัดยศ เสลี่ยงพระนำโกศ และเครื่องสูงหลัง ตามด้วย คุณสิริกิตินากร เจนเซน ถือเครื่องทองน้อย คุณพลอยไพลิน เจนเซน ถือ ภ.ป.ร. 1 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯ ในขบวนเคียงข้างพระวรกายทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ
และปิดท้ายขบวนด้วยข้าราชการฝ่ายใน อาทิ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยานายกรัฐมนตรี นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนักเรียนนายร้อย จปร
ในวันงานพระราชทานเพลิงศพคุณพุ่ม แม้เห็นอยู่หลายคราที่ทูลกระหม่อมหญิงทรงมีพระเนตรแดงกร่ำ แต่พระองค์ไม่ทรงร่ำไห้ให้ใครเห็น พระองค์ยังทรงยิ้มทักทายและขอบคุณผู้ที่มาร่วมงานพระราชทานเพลิงศพอยู่ตลอดเวลา
จนกระทั่งเวลา 17.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินถึงวัดเทพศิรินทราวาส พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ ทรงรอรับเสด็จพร้อมคุณพลอยไพริน และ คุณสิริกิติยา เจนเซน อยู่บริเวณหน้าวัดเทพศิรินทราวาส เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาถึง ทั้งสองพระองค์ทรงสวมกอดทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ขึ้นสู่พลับพลาอิศริยาภรณ์ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ที่หน้าอาสน์สงฆ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทอดผ้าไตร ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก และลงจากพลับพลา
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นเมรุ ทรงหยิบกระทงข้าวตอกดอกไม้จากเจ้าพนักงานพระราชพิธีวางข้างโกศ ทรงหยิบธูปเทียนดอกไม้จันทน์จากเจ้าพนักงานพระราชพิธี ทรงจุดไฟที่ชนวนตำรวจวังชูถวายพระราชทานเพลิง ขณะนั้นชาวพนักงานประโคม แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ ทั้งสองพระองค์เสด็จฯ ลงจากเมรุ ประทับพระราชอาสน์ที่มุขหน้าพลับพลา
ในช่วงเวลาที่ทั้งสองพระองค์ประทับพระราชอาสน์ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้เข้าเฝ้าฯ พระราชบิดา พระราชมารดา ทั้งสองพระองค์ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับทูลกระหม่อมหญิงในลักษณะปลอบโยน เพียงไม่นานทูลกระหม่อมก็ทรงกรรแสงต่อหน้าพระพักตร์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจับพระอังสา ทรงประคองพระพักตร์ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ พระองค์ทอดพระเนตรพระธิดาด้วยสายพระเนตรแห่งความห่วงใย
ณ เวลานั้น ข้าราชบริพารซึ่งอยู่ใกล้ชิดเห็นน้ำพระเนตรของทูลกระหม่อมหญิง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจับพระหัตถ์ทูลกระหม่อมหญิงขึ้นมาประสานกับพระหัตถ์ของพระองค์ พร้อมทรงบีบให้พระหัตถ์แนบกัน พระองค์ทรงทำในลักษณะนั้นอยู่นานพอสมควร และทรงจุมพิตพระนลาฏของทูลกระหม่อม
ทูลกระหม่อมหญิงทรงเช็ดน้ำพระเนตร แล้วทรงยิ้มกับทั้งสองพระองค์ จากนั้นทรงลุกขึ้นกราบที่พระอุระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็ทรงสวมกอดทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ
ในห้วงเวลาดังกล่าว พสกนิกรที่มาร่วมพระราชพิธีต่างรู้สึกซาบซึ้ง ภาพที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงปลอบทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ ยิ่งนัก
ภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้าประจักษ์แล้วว่า สองพระหัตถ์ของพระราชบิดา พระราชมารดาเป็นพลังใจสำคัญอย่างยิ่งของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ
อ้างอิงข้อมูลจาก - www.dek-d.com , เฟสบุ๊คเพจ คิดถึงในหลวงรัชกาลที่ 9