- 17 ส.ค. 2560
รู้จริง...รู้แจ้ง...ทุกเรื่องราวแห่งปาฏิหาริย์ www.tnews.co.th
กันยายน พุทธศักราช ๒๕๓๔ "หลวงปู่ชอบ ฐานสโม" รับนิมนต์จากลูกศิษย์ที่เมืองบัฟฟาโลเพื่อเดินทางไปชมน้ำตกไนแอการา คณะติดตามหลวงปู่ชอบประกอบด้วยท่านเจ้าคุณมหาสมาน (วัดธรรมบูชา) ท่านเจ้าคุณมหาประสาท (วัดสังฆบูชา) พระอาจารย์เฉลียว วรกิจโจ พระอาจารย์แสง จิรวัฒฑโก พระอาจารย์อำนวย กันตจาโร พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท (ครูบากล้วย ผู้บันทึก) ลูกศิษย์ฆราวาสผู้ติดตามมีคุณแม่จ้อย (อาจารย์จันทน์นวล พรมมาส) ท้าวกุ้ง ชาวลาวสัญชาติอเมริกัน และโยมชาวลาวที่อยู่เมืองบัฟฟาโลอีกสี่คน ร่วมเดินทางไปชมน้ำตก
คณะเดินทางออกจากเมืองบัฟฟาโลมาที่น้ำตกไนแอการาโดยใช้เวลาประมาณสี่สิบนาที วันนั้นแสงแดดแรงมากจนหลวงปู่ชอบต้องใส่แว่นตากันแดด ก่อนถึงน้ำตกอีกไม่กี่ไมล์ก็เริ่มเห็นไอน้ำลอยฟ่องบนอากาศ โยมที่มาด้วยจึงชี้บอกพิกัดของน้ำตกให้ท่านดู ท่านก็มองดูไอน้ำบนอากาศอย่างสนใจ
เมื่อถึงน้ำตก เป็นที่น่าสังเกตว่า หลวงปู่ชอบดูเงียบขรึม ไม่พูดจากับใคร ไม่ว่าโยมจะว่าหรือพระจะถามอะไร ท่านก็ไม่พูดด้วย
หลังจากคณะเดินทางมาถึงที่นี่ได้พักหนึ่ง ฟ้าที่กำลังแจ้งก็เริ่มครึ้มฝน มองดูรอบน้ำตกก็ยังมีแสงแดดส่องตามปกติ มีแต่เพียงบริเวณที่หลวงปู่ชอบอยู่เท่านั้นที่มีเมฆมัวลอยมาจากฝั่งประเทศแคนาดา เมฆก้อนนี้ก่อตัวขึ้นได้ไม่นาน ฝนก็ตกลงมา คณะทั้งหมดจึงพากันเข้าไปหลบฝนในร้านขายของที่ระลึก หลบกันอยู่ในนั้นประมาณสิบนาที ฝนก็ซา แต่ทว่าเมฆมัวเหนือน้ำตกไนแอการากลับก่อรูปร่างโดยมีเค้าเป็นรูปแม่เบี้ย ภาพที่ปรากฏทำให้คนในคณะถึงกับแตกตื่นฮือฮา หลวงปู่ชอบจึงบอกให้ทุกคนสำรวมปากสำรวมคำ...
"อยู่เฉย ๆ อย่าพูดมาก ... ไม่เคยเห็นหรือ!!"
พอฝนหยุดตก คณะเดินทางก็พากันออกจากร้านขายของที่ระลึกและเข้าชมน้ำตกไนแอการา แต่ไม่ทันถึงสิบนาที ฝนก็เทลงมาอีกรอบ ซึ่งรอบที่สองนี้ตกหนักอย่างกับฝนนางแมวเซิ้งบั้งไฟ คณะทั้งหมดจึงพากันเข้าไปหลบฝนที่อาคารเช่าชุดสำหรับลงไปชมน้ำตก ระหว่างหลบฝนกันอยู่ที่นี่ หลวงปู่ชอบได้บอกให้ทุกคนกลับกันเดี๋ยวนี้
เมื่อฝนหยุดตกแล้ว คณะเดินทางจึงเดินทางกลับไปที่บ้านของโยมชาวลาวในเมืองบัฟฟาโลและพักกันที่นั่นในคืนนั้น...
[หลวงปู่ชอบ ฐานสโม]
หลังทำวัตรสวดมนต์แล้ว ผู้บันทึกเหตุการณ์นี้ได้เข้ามาช่วยดูแลหลวงปู่ชอบ ระหว่างที่กำลังนวดถวาย ท่านก็ถามว่า
"ตอนอยู่น้ำตกท่านเห็นอะไรไหม"
"ที่นั่นมีอะไรหรือครับ"
หลวงปู่ชอบบอกว่า
"ที่น้ำตกมีพวกอินเดียนกับพวกฝรั่งตายเพราะสู้รบกัน พวกนี้พากันมาขอให้เราอุทิศบุญให้ ผู้มีวาสนาต่อกันเราก็โปรดเขาได้ ผู้ไม่มีวาสนาต่อกันเราก็โปรดเขาไม่ได้ เราโปรดสัตว์ที่นั่นให้ไปจุติใหม่เป็นพัน ผู้มีกรรมดีจะได้เกิดเป็นมนุษย์ ผู้มีกรรมบาปจะได้เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ผู้ไม่มีกรรมนำเกิดก็ต้องอยู่นั่นต่อไปอีก...รอผู้มีวาสนามาโปรดหรือรอจนพ้นกรรม!!"
หลวงปู่ชอบยังบอกอีกว่า
"ที่น้ำตกมีพญานาคพ่อลูกตระกูลฉัพพยาปุตปรากฏตัวมาอนุโมทนาบุญตอนที่เรากำลังแผ่เมตตาโปรดสัตว์อยู่ พญานาคสองพ่อลูกแสดงการอนุโมทนาด้วยการแผ่พังพานบังแดดและบันดาลฝน ฝนที่ตกใส่พวกเราก็คือฝนที่เกิดจากการแสดงฤทธิ์ของพญานาค ไม่ใช่ฝนตามฤดูกาลหรอก พญานาคเขาแสดงฤทธิ์ให้พวกท่านเห็นเป็นพยาน!!"
พอได้ยินหลวงปู่ชอบกล่าวเช่นนั้น ผู้บันทึกก็รู้สึกประหลาดใจมาก ถ้าเป็นเรื่องเทพเทวดามาขอฟังธรรมกับท่านที่วัดพุทธรัตนาราม รัฐเทกซัส ท่านจะเล่าให้ฟังแทบทุกวันจนเป็นเรื่องปกติ แต่วันนี้เมื่อท่านบอกว่าในเมืองฝรั่งมังค่าอย่างสหรัฐอเมริกาก็มี "พญานาค" จึงรู้สึกแปลกใจไม่น้อย
ผู้บันทึกถามหลวงปู่ชอบว่า ทำไมพญานาคถึงมาอยู่ที่อเมริกา ทำไมพวกเขาไม่ไปอยู่เมืองไทยหรือประเทศชาติบ้านเมืองที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา เมืองฝรั่งอย่างอเมริกานี้ก็ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนาเป็นหลักเป็นฐานเหมือนกับพวกเราคนพุทธ แล้วทำไมพญานาคถึงได้มาเกี่ยวข้องด้วย
หลวงปู่ชอบตอบว่า
"เกี่ยวกับเรื่องกรรม ... พญานาคตระกูลฉัพพยาปุตนี้เขาอยู่ที่นี่มาก่อนที่มนุษย์จะเข้ามาอาศัยอยู่เสียอีก พญานาคอยู่น้ำตก (ไนแอการา) เขามีอายุได้สามหมื่นปีแล้ว ประเทศอเมริกาเพิ่งก่อตั้งมาไม่กี่ร้อยปีเอง ... ท่านก็คิดเอาเองว่าใครมาอยู่ที่นี่ก่อนกัน!!"
ผู้บันทึกจึงคิดตามว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่งสร้างประเทศมาได้ประมาณสองร้อยกว่าปีที่ผ่านมา อายุประเทศชาติบ้านเมืองของเขานั้นไม่เกินกันมากกับกรุงรัตนโกสินทร์ของประเทศไทยเรานี่เอง
หลวงปู่ชอบบอกต่อไปว่า
หลวงปู่ชอบบอกต่อไปว่า
"ดึกคืนนี้พญานาคฉัพพยาปุตเขาจะพาบริวารมาฟังธรรมกับเรา ขอให้ท่านสำรวมไว้ อย่าเป็นลิงเป็นค่างตามใจตัวเอง ถ้าง่วงก็ให้พิงฝาหลับเอา อย่ามานอนเป็นจระเข้ขวางคลองข้างเราเป็นอันขาด พวกเทวดาเขาจะตำหนิในสมณสารูปของพระเณรเราเอาได้"
จากนั้นผู้บันทึกก็เฝ้าคอยหลวงปู่ชอบอยู่จนถึงตีสี่กว่า เมื่อได้ยินเสียงท่านเคาะกระโถนดังก๊อก ๆ บอกสัญญาณ จึงพาท่านมานั่งเก้าอี้เพื่อนวดถวาย ระหว่างนวด ท่านก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงดึกให้ฟังว่า
"พญานาคฉัพพยาปุตจำแลงเป็นมนุษย์ผู้ชาย แต่งกายด้วยผ้าหม้อห้อม พาบริวารชายหญิงมาหาเรา แล้วขอให้เราแสดงธรรมเรื่องเปตพลีบุญให้ฟัง!!"
ผู้บันทึกถามว่า
"เปตพลีบุญคือธรรมอะไรหรือครับ"
หลวงปู่ชอบตอบว่า
"เปตพลีบุญคือบุญที่เราอุทิศให้กับบรรพบุรุษญาติมิตรผู้เกี่ยวข้อง ต้นทางสายบุญทั้งหลายนั้นเกิดจากจิตที่เป็นกุศล คำว่าจิตที่เป็นกุศลคือจิตที่มีปัญญาในการทำความดี บุญทุกอย่างเริ่มต้นจากเจตนาที่ดีก่อน เปรียบเหมือนสาครที่ไหลลงทะเลหลวง บุญกุศลทั้งหลายที่กระทำมานั้นสุดท้ายปลายทางจะไหลลงไปรวมกันที่มหาสมุทรทะเลหลวง...คือ นิพพานธาตุ!!"
[บันทึกเมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๔ ที่เมืองบัฟฟาโล USA โดยครูบากล้วย]
[น้ำตกไนแอการา]