แฉ!!! อดีตนิสิตอักษรจุฬาฯ เขียนข่าวบิดเบือนให้สื่อนอก ป้องเนติวิทย์ จวก! คิดต่างไม่ว่าแต่อย่าจงใจใส่ร้ายสถาบันตัวเอง!!

          จากกรณีที่นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ได้โพสภาพอีเมล์ของนักวิชาการชื่อดังระดับโลก "ศ. โนม ชอมสกี้" ที่ส่งมาให้กำลังใจตนที่กำลังถูกจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสอบสวนและจะลงโทษอันเนื่องมาจากเหตุการณ์วุ่นวายในงานพิธีถวายสัตย์นิสิตใหม่ที่ผ่านมานั้น  รวมถึงกรณี 128 นักวิชาการกลุ่มหนึ่งในนาม "เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง " ได้ร่วมลงชื่อสนับสนุนนายเนติวิทย์ด้วยนั้น 

 

          ล่าสุดผู้ใช้ Facebook Kittitouch Chaiprasith เฟสบุ๊คส่วนตัวของ ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ บัณฑิตปริญญาเอก คณะสถาปัตยกรรม ได้โพสต์ถึงกรณีที่ นางสาวพัชร์พิชา ธนาเกษมพิพัฒน์ อดีตนิสิต/บัณฑิตคณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่ออดีตนิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขียนข่าวบิดเบือนใส่ร้ายมหาวิทยาลัยตัวเอง 

        ข้อความว่า

              "มหาวิทยาลัยไทย (จุฬาฯ) ปลดผู้นำนิสิต เนื่องจาก ต่อต้านธรรมเนียมแบบราชานิยม" (Thai university removes student leader for defying royalist tradition)

- นี่คือหัวข้อข่าว Reuters วันที่ 1 ก.ย. เขียนโดย #พัชร์พิชา_ธนาเกษมพิพัฒน์ อดีตนิสิต/บัณฑิตคณะอักษรศาสตร์จุฬาฯ ซึ่งปัจจุบันไปเขียนข่าวให้ทาง Reuters

- นอกจากหัวข้อข่าวที่บิดเบือนข้อเท็จจริงหลายประการแล้ว เมื่อเข้าไปอ่านในเนื้อหา ก็ยิ่งพบว่าผู้เขียนข่าวชิ้นนี้ตัดทอนเหตุการณ์ สำคัญของเรื่องราวความวุ่นวายออกไปหมด

- โดยเริ่มต้นข่าวเป็นการบอกว่านายเนติวิทย์ โดนปลดจากตำแหน่งสภานิสิต และเล่าถึงว่า พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนที่มีการหมอบกราบ

- จากนั้นก็เล่าว่าเนติวิทย์และพรรคพวก เพียงแค่ออกมายืนข้างหน้าและโค้งคำนับ ในระหว่างพิธี และทำให้ผู้มีอำนาจในจุฬา มองว่าการกระทำนี้คือการลบหลู่ธรรมเนียม (Netiwit and his colleagues, however, strode out in front of the students and bowed to the statue during the ceremony, and university authorities took that gesture as a show of defiant disrespect for the tradition.)

- จากนั้นจึงตัดไปที่ประโยคของเดียวของ อ.ปมทอง มาลากุล ณ อยุธยา รองอธิการบดี ที่ว่า "...สะท้อนถึงการไม่เคารพต่อสิทธิและ เสรีภาพของผู้อื่นที่มีทัศนะแตกต่างจากตน"

- และก็เริ่มเล่าถึงเรื่องการแสดงความภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ในสังคมไทย และต่อไปถึงเรื่องการต่อสู้ระหว่างพวกหัวเก่าที่นิยมกษัตริย์และกองทัพ กับตัวแทนพลังประชาชนที่ลุกขึ้นมามีอำนาจต่อรองจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ

- ก่อนตามด้วยบทสัมภาษณ์เนติวิทย์ที่พูดว่า เขาแค่ต้องการแสดงความเคารพต่อรัชกาลที่ 5  ในรูปแบบอื่นและ "ทุกคนควรจะคิดด้วยตัวเอง" ไม่ควรมีใครมาบังคับขู่เข็ญให้คนอื่นทำตาม

- และต่อด้วยการบอกว่ารัชกาลที่ 5 ทรงประกาศยกเลิกการหมอบกราบ เพื่อเข้าเฝ้าไปตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว

- สุดท้ายไปเขียนชื่นชมเนติวิทย์ว่าเป็น บุคคลที่โผล่ขึ้นมาวิพากษ์คณะรัฐประหารซึ่งไม่เปิดพื้นที่ให้คนเห็นต่างแสดงความเห็น
ซึ่งเทียบเท่าได้กับโจชัว หว่องแห่งฮ่องกง

- และส่งท้าย ข่าว หรือ บทความ ชิ้นนี้ด้วยการสัมภาษณ์ ผศ.ดร.คารินา โชติรวี จากภาควิชาภาษาอังกฤษซึ่งเป็นอาจารย์ของ น.ส.พัชร์พิชา ธนาเกษมพิพัฒน์ เองที่ประกาศไม่เห็นด้วยกับการปลดเนติวิทย์ โดยคารีน่าบอกว่า... "การปลดนายเนติวิทย์ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับความประพฤติที่ไม่ดี แต่เป็นความพยายามที่จะบ่อนทำลายสิ่งที่เนติวิทย์เสนอต่างหาก" (The dismissals from the student council were less about misconduct than undermining what Netiwit represents)

และคารีน่ายังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า...

"สำหรับหลายสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์การเป็นวีรบุรุษของนายเนติวิทย์เด่นชัดมากยิ่งขึ้น!" ซึ่งแน่นอนว่าทาง Voice TV ก็รีบเอาไปเขียนข่าว
"สื่อนอกเผยคำสั่งจุฬาฯ ยิ่งทำให้เนติวิทย์เป็นฮีโร่"
https://news.voicetv.co.th/world/520645.html

(สื่อนอกน่ะใช่ แต่คนเขียนก็คือคนไทยที่สนับสนุนกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง หน้าเดิมนั่นแหละ เรียกว่า #เล่นเองชงเอง)

 

          เมื่ออ่านจนจบจะเห็นได้ว่า พัชร์พิชา ไม่พูดถึงที่มาของเรื่องทั้งหมดในเหตุการณ์ พัชร์พิชาจงใจตัดทอนมาเพียงประโยคเดียว ที่ปรากฎในแถลงการณ์ของทางจุฬาลงกรณ์ (ที่ลงนามโดยรองอธิการบดี) เพียงเพื่อที่จะให้สอดคล้องกับที่พัชร์พิชาเขียนก่อนหน้า ว่าเพียงเพราะเนติวิทย์และพรรคพวก
ออกมายืนโค้งคำนับ จึงโดนกล่าวหาว่า ไม่เคารพธรรมเนียมและจึงถูกปลดออกจาก ประธานสภานิสิตจุฬาฯ โดยที่ไม่มีการอธิบาย ถึงการออกมาป่วนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย!!!

         ไม่มีการพูดถึงเรื่องทั้งหมดในแถลงการณ์ ที่ระบุตั้งแต่แรกว่าทางจุฬาฯ เข้าใจทัศนะคติที่แตกต่างของกลุ่มนายเนติวิทย์และได้จัดพื้นที่ให้สำหรับยืนแสดงความเคารพ แต่นิสิตกลุ่มนี้ กลับไม่ยืนในพื้นที่นั้น และนัดหมายกันออกมา ในระหว่างที่คนส่วนใหญ่ กำลังประกอบพิธีการ เพื่อให้ปรากฎภาพเชิงสัญลักษณ์ที่แตกต่างไป (#โดยไม่เคารพสิทธิของผู้เข้าร่วมพิธีทั้งหมด)

*** จากนั้นยังได้เผยแพร่ชุดข้อมูลที่บิดเบือน ข้อเท็จจริงและเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ จนทำให้ มหาวิทยาลัยเกิดความเสื่อมเสีย จึงเป็นเหตุให้
มีการตัดคะแนนความประพฤติกับนิสิตทั้ง 8 คน และจากระเบียบข้อบังคับของการเป็นสภานิสิต

ข้อ 35.3 ที่ให้สมาชิกสภานิสิตต้องไม่เป็นนิสิต ที่เคยถูกลงโทษตัดคะแนนความประพฤติสะสมตั้งแต่ยี่สิบคะแนนขึ้นไป และ

ข้อ 40.4 ระบุว่าให้สมาชิกสภานิสิตพ้นตำแหน่งในกรณีที่ขาดคุณสมบัติตามข้อ 35 อันเป็นเหตุให้เนติวิทย์และกรรมการอีก 4 คน
ต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกสภานิสิตสามัญ!!!

http://www.komchadluek.net/news/edu-health/294015
https://morning-news.bectero.com/social-…/01-Sep-2017/109637

*** สิ่งเหล่านี้ไม่ปรากฎอยู่ในบทความ ที่ทาง พัชร์พิชา ธนาเกษมพิพัฒน์ เขียน (ซึ่งถ้าคนไปลอง search ดูว่าพัชร์พิชานั้น
เขียนข่าว/บทความอะไรบ้างคงไม่แปลกใจ) นี่คือการตัดทอนเนื้อหาของเหตุการณ์ทั้งหมด และนำมาเล่าเพื่อสร้างภาพว่าเนติวิทย์โดนทาง จุฬาฯ รังแกเพียงเพราะต้องการแสดงความเคารพ ในรูปแบบที่แตกต่าง จากที่พวกกลุ่มหัวโบราณทำ

*** ทั้งที่ในความเป็นจริง จุฬาฯ ไม่ได้ลงโทษ เนติวิทย์และพรรคพวกในวันนั้น ด้วยเรื่องนี้เลย แต่เพราะพฤติกรรมที่จงใจป่วนและไม่เคารพต่อพิธีการที่มีนิสิตหลายพันคนกำลังกระทำการอยู่

*** แต่ด้วยอำนาจของสื่อและการสร้างภาพ โดยอาศัยลีลาการเขียนที่จงใจตัดทอนเนื้อหา ของเหตุการณ์ เพื่อให้ผู้รับสารในต่างประเทศเข้าใจว่าสังคมไทยนั้นมีมหาวิทยาลัยที่ไม่ดี มหาวิทยาลัยที่ใช้อำนาจกดขี่เสรีภาพนิสิตและหาเรื่องปลดนิสิตออกจากตำแหน่ง เพียงเพราะไม่ยอมหมอบกราบ

(ทั้งที่ปีนี้ ก็ไม่มีการกราบแล้วมีแต่การถวายบังคมเท่านั้น!!)

https://www.prachachat.net/social-media-viral/news-15951

*** ผมก็เสียดายที่พัชร์พิชา ธนาเกษมพิพัฒน์ ซึ่งเป็นเยาวชนที่มีความสามารถด้านภาษาที่ดี ได้รับรางวัลจากงานเขียนก็มาก แถมยังเคยเป็น ตัวแทนเยาวชนเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติ (ซึ่งทำการคัดเลือกโดยกระทรวงการต่างประเทศ) กลับเอาความรู้ความสามารถมาใช้ในลักษณะเช่นนี้

http://www.mfa.go.th/…/47732-%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0…

แต่ก็เอาเถอะครับ มันเป็นเส้นทางที่คุณเลือก คุณก็ต้องพร้อมรับเสียงวิจารณ์ที่ตามมาเช่นกัน

*** แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอกให้ทราบก็คือ ถ้าพวกคุณ (ผมไม่ได้หมายถึงคนใดคนหนึ่งแต่เป็นกลุ่มคนหรือขบวนการที่เราเห็นๆ กัน) คิดว่าจะทำลายจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจากภายในหรือจากการใช้สื่อต่างชาติได้

            พวกคุณคงจะคิดผิดนะครับ เพราะยิ่งคุณทำสิ่งเหล่านี้มากเท่าไร ความอัดอั้นของประชาคมจุฬาฯ ที่มีต่อพฤติกรรมเช่นนี้จะยิ่งเด่นชัดมากยิ่งขึ้น จากกลุ่มคนที่ไม่ค่อยอยากจะแสดงออกอะไรมากแต่เมื่อเจอสิ่งเหล่านี้บ่อยเข้าๆๆๆ ประชาคมจุฬาฯ จะยิ่งรวมใจกันมากขึ้นและกลายมาเป็นพลังที่ลุกขึ้นมาต่อต้าน
พฤติกรรมที่พวกคุณทำกันมากขึ้นเรื่อยๆ

(ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พวกคุณทำนั้นมันจะเป็นประโยชน์กับพวกคุณจริงหรือ? หรือช่วยทำให้ประชาคมจุฬาฯ แกร่งขึ้น?)

*** คิดต่างนั้นไม่ผิด แต่การบิดเบือนหรือ #การพูดความจริงเพียงเสี้ยวเดียวเพื่อให้เข้ากับธงที่ตัวเองตั้งไว้ โดยใช้สถาบันที่ตัวเองเรียนรู้หรือทำงานอยู่มาเป็นเป้าล่อทางการเมืองนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริงๆ....!!

ป.ล.ผมอยากให้จุฬาฯ ออกแถลงการณ์เป็นภาษาอังกฤษและส่งถึงสื่อต่างชาติพร้อมท้วงติงในเรื่องการตัดทอนข้อมูลของบทความที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดเป็น
มาตรฐานต่อการนำเสนอข้อมูลของสื่อในอนาคตและป้องกันการใส่ร้ายสถาบันที่อาจเกิดขึ้น (อีกหลายครั้ง) ในอนาคต

------------------------

หมายเหตุ: คำพูดของเนติวิทย์ที่ระบุว่าอยากให้คนอื่นคิดด้วยตัวเองและไม่ให้ใครมาบังคับให้คนอื่นทำตามนั้นสะท้อนความคิดที่ว่าเนติวิทย์ "ดูถูก" ว่านิสิตคนอื่นๆ ไม่มีสมองคิดอะไรเองจึงถูกบังคับให้ทำตาม ในทางกลับกัน ถ้านิสิตส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมพิธีโต้กลับว่าถ้าเขาเลือกที่จะทำสิ่งเหล่านี้เอง แต่เนติวิทย์เองต่างหาก ที่แสดงตัวเป็น #เผด็จการทางความคิด ที่คิดว่าคนส่วนใหญ่ที่ไม่ทำตามที่เนติวิทย์คิดคือคนที่ไม่สามารถคิดได้ด้วยตัวเองหรือ โดนบังคับให้กระทำการต่างๆ

เนติวิทย์จะรู้สึกอย่างไร?

(ฝากให้คิดนะครับ)

 

 

ขอบคุณที่มาจาก Facebook Kittitouch Chaiprasith