ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

เทวดาบอกเหตุ!! เมื่อ "หลวงปู่สี" นิมิตเห็นชายนุ่งขาวห่มขาว มาบอกว่าให้ย้ายที่ปักกลดเพราะจะมีน้ำป่าพัดมา และก็เกิดขึ้นจริงอย่างน่าอัศจรรย์ !!

             หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๒ ตรงกับปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านเป็นพระลูกวัดในสังกัด วัดเขาถ้ำบุญนาค ซึ่งขณะนั้น หลวงพ่อมหาสมบูรณ์ ปริสัมปุณโน เป็นเจ้าอาวาสได้นิมนต์หลวงปู่มาจำวัดเพื่อให้ช่วยสร้างวัด นอกจากนี้ท่านยังเป็นลูกศิษย์สมเด็จโต และท่านยังเป็นสหธรรมิกที่สนิทที่สุดของพระเถระอาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ถึง ๒ องค์คือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ อีกด้วย

เทวดาบอกเหตุ!! เมื่อ "หลวงปู่สี" นิมิตเห็นชายนุ่งขาวห่มขาว มาบอกว่าให้ย้ายที่ปักกลดเพราะจะมีน้ำป่าพัดมา และก็เกิดขึ้นจริงอย่างน่าอัศจรรย์ !!

             คืนวันหนึ่ง ขณะที่หลวงปู่สีนั่งบพเพ็ญสมาธิภาวนาอยู่นั้น เป็นเวลาดึกสงัดประมาณสองยามเห็นจะได้ จิตของท่านอยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ คือ สมาธิอย่างอ่อนๆ กำลังพิจารณาสังขารธรรมอยู่อย่างเพลิดเพลินเจริญใจ ไม่ลดละความเพียร พลันทันใดก็ ปรากฏภาพนิมิตขึ้นในห้วงสมาธิ มีผู้ชายคนหนึ่งนุ่งขาว ห่มขาว ได้เดินคุกเข่าก้มลงกราบท่านแล้วพูดว่า

"นิมนต์หลวงพ่อย้ายกลดขึ้นไปอยู่บนเขาเสียเถิด ด้วยคืนนี้จะมีน้ำป่าพัดผ่านมาที่นี่ หลวงพ่อจะเป็นอันตรายถึงชีวิต"

             แล้วภาพนิมิตของเทวดาผู้นั้นก็หายไป หลวงปู่สีท่านจึงอธิษฐานจิตขอบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ และพระอรหันต์สาวกทั้งหลาย เพื่อขอตรวจดูเหตุการณ์ด้วยทิพจักขุญาณ พลันก็พบว่าไกลออกไปทางเหนือฝนกำลังตกหนักมืดคลื้ม มีพายุและฟ้าแลบน่ากลัวมาก เห็นน้ำป่ากำลังทะลักทลายลงมาจากภูเขา พัดพาถล่มต้นไม้ในป่าเสียงดังกึกก้องไปหมด น่ากลัวมาก กระแสน้ำป่านั้นกำลังพัดมาทางจุดที่ท่านกำลังบำเพ็ญเพียรอยู่อย่างแรง
     

เทวดาบอกเหตุ!! เมื่อ "หลวงปู่สี" นิมิตเห็นชายนุ่งขาวห่มขาว มาบอกว่าให้ย้ายที่ปักกลดเพราะจะมีน้ำป่าพัดมา และก็เกิดขึ้นจริงอย่างน่าอัศจรรย์ !!

             หลวงปู่รู้สึกประหลาดใจระคนสงสัย จึงถอยจิตออกจากสมาธิลืมตาขึ้นดู พบว่าบริเวณหุบเขาที่ท่านพักอยู่ แสงเดือนหงายอย่างแจ่มจรัส อากาศก้เย็นสบายปลอดโปร่งรื่นรมย์ไม่มีเค้าเมฆฝนอยู่ในท้องฟ้าเลย แต่เหตุการณ์ผ่านไปสักชั่วอึดใจใหญ่ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงอื้ออึงดังมาจากเบื้องทิศเหนือ เสียงนั้นน่ากลัวมาก คล้ายเสียงรถไฟหลายขบวนวิ่งแข่งกันเข้ามาในป่าไม่มีผิด ทำให้ท่านแน่ใจทันทีว่า โอปาติกะ เทพเทวาปรากฏกายเข้ามาแจ้งเหตุในนิมิตนั้นบอกกล่าวเป็นความจริง และทิพจักขุญาณของท่านก็เห็นภาพแน่ชัด ไม่ใช่ภาพหลอนหลอกแต่อย่างใด เสียงอื้ออึงนั้นเป็นเสียงน้ำป่าห่าใหญ่ กำลังพัดมาอย่างรวดเร็ว รุนแรงมากอย่างแน่นอน
 
             นี่คือภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล ไม่มีใครไปห้ามมันได้ เราเป็นผู้สมณะผู้บำเพ็ญธรรมไม่บังควรที่จะกีดขวางธรรมชาติ รำพึงเช่นนั้นแล้วท่านก็ถอนกลดจัดแจงย้ายขึ้นไปอยู่บนเขาสูงให้พ้นอันตราย แต่หาได้ตื่นกลัวแต่อย่างใดไม่ พอแบกกลดใส่บ่าข้างหนึ่งสะพายบาตรอีกข้างแล้ว ท่านก็ออกเดินจะขึ้นเขาไป กระทำใจให้มั่นคงภาวนาไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนอะไร เพราะเสียงน้ำอื้ออึงนั้นยังอยู่ไกล คงไม่มาถึงตัวท่านรวดเร็วแน่ เดินภาวนาสักครู่ก็ขึ้นเขาสูง
 
             

เทวดาบอกเหตุ!! เมื่อ "หลวงปู่สี" นิมิตเห็นชายนุ่งขาวห่มขาว มาบอกว่าให้ย้ายที่ปักกลดเพราะจะมีน้ำป่าพัดมา และก็เกิดขึ้นจริงอย่างน่าอัศจรรย์ !!

          ท่านมองลงมาจากหน้าผา เห็นกระแสมหึมาไหลกรากท่วมต้นไม้ใบหญ้าบริเวณที่ท่านนั่งภาวนาอยู่ในหุบเขานั้น กลายเป็นทะเลสาบไปหมดในพริบตา ช่างอัศจรรย์ใจในธรรมชาติที่งดงามแต่แฝงด้วยอันตรายนานัปการ พอรุ่งเช้าน้ำป่านั้นก็หายวับไปกับตา นี่แหละธรรมชาติของน้ำป่ามาเร็วหายไปเร็ว และเป็นอันตรายร้ายแรงอย่างน่ากลัวยิ่งนัก หลวงปู่สีนั้นนับว่ามีบุญญาภิสมภารสูง ถึงรอดตายมาได้ในครั้งนี้ จะว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือเทวดาช่วยชีวิตไว้ก็ให้น่าสงสัยมาก นับว่าเป็นนิมิตบอกเหตุได้แม่นยำมาก ก้เนื่องด้วยบารมีของหลวงปู่สีที่ท่านได้ปฏิบัติ ภาวนาอย่างเคร่งครัดทำให้ท่านรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://sites.google.com/site/sphrathewtheph/-10-5

ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต