ยังไงต้องเสร็จในเดือนตุลา..พ่อไม่รอแล้ว.."พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา" เลื่อนวันละสังขาร เพื่อเสกพระรุ่นสุดท้าย อย่างอัศจรรย์ยิ่ง.

ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th

วัตถุมงคลรุ่นสุดท้าย พระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา พัทลุง

 เป็นวัตถุมงคล ที่ทำให้ทราบถึงญาณอันแก่กล้าพระอาจารย์นำ เพราะเมื่อคณะผู้สร้างได้ไปขออนุญาต สร้างรูปหล่อห้อยคอ ท่านได้เร่งรัดให้รีบๆทำให้เสร็จ ในเดือนสิงหาคม ถ้าไม่เสร็จเกรงว่าจะไม่ทัน เหมือนกับท่านจะรู้ว่า ท่านจะละสังขารในเดือนนั้น เมื่อคณะผู้สร้างพยายามเร่งทำกันแบบสุดความสามารถ แต่ก็เกิดอุปสรรคมากมาย จนไม่ทันตามที่พระอาจารย์นำกำหนด คณะผู้สร้างจึงเดินทางไปกราบเรียนท่าน เมื่อเรียนท่านยังไงเดือนสิงหายังไงก็ไม่ทัน ทำเอาพระอาจารย์นำถึงกับอึ้ง เหม่อมองไปนอกหน้าต่าง ท่านนิ่งไปนานมากเกือบครึ่งชั่วโมง ทำเอาคณะผู้สร้างอึดอัดกันไปหมด แล้วท่านก็หันมาบอกว่า ยังไงต้องเสร็จในเดือนตุลา ไม่งั้น พ่อไม่รอแล้ว

ในการสร้างรูปเหมือนขนาดเล็กของท่านอาจารย์นำ ได้สร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๙โดยคณะผู้จัดสร้างได้มีความประสงค์นำเอารายได้จากการบูชาไปสร้างถาวรวัตถุในวัดดอนศาลาเป็นการกุศล จึงได้กราบเรียนให้ท่านอาจารย์นำทราบถึงวัตถุประสงค์ในการสร้างครั้งนี้

เมื่อทราบวัตถุประสงค์แล้วท่านอาจารย์นำก็ได้นั่งนิ่งอยู่สักครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า”ถ้าจะสร้างก็ต้องรีบดำเนินการโดยเร็ว เพราะชีวิตอาตมาใกล้เข้ามาแล้ว เกรงจะไม่ทันการ” ทำเอาคณะผู้จัดสร้างนิ่งอึ้งไปตามๆกัน เพราะว่าขณะนั้นท่านอาจารย์นำก็กำลังอาพาธอยู่แล้วท่านอาจารย์นำก็ได้กล่าวต่อไปอีกว่า”การสร้างนั้นเป็นสิ่งดี เพราะจะได้เป็นครั้งสุดท้าย แต่ขอให้รีบทำเถิด” จากนั้นท่านก็ขอให้คณะผู้จัดสร้างนำเอาแผ่นโลหะมาให้ท่านเพื่อที่จะลงยันต์เป็นเชื้อชนวนในการสร้าง หลังจากที่ได้นำเอาแผ่นโลหะจำนวนมากไปให้ท่านอาจารย์นำตามที่ต้องการแล้ว ในเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๑๙ คณะผู้จัดสร้างก็ได้เดินทางไปรับแผ่นยันต์จากท่าน ซึ่งแผ่นยันต์เหล่านั้นท่านอาจารย์นำได้ลงไว้อย่างเรียบร้อย และได้กล่าวว่า”ลงให้สุดท้ายแล้ว”.นอกจากแผ่นยันต์ที่ท่านอาจารย์นำได้ลงจารให้ไว้ ยังมีชนวนศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่อง พร้อมทั้งพระบูชาสมัยเก่าที่ชำรุด และโลหะสมัยบ้านเชียงอีกเป็นจำนวนมากซึ่งคณะผู้สร้างได้นำไปถวายท่านอาจารย์นำปลุกเสกอีกครั้ง ก่อนที่จะทำการหล่อหลอม และท่านก็ได้รับปลุกเสกพร้อมกับกล่าวว่า”ขอให้สร้างให้เสร็จเดือนหน้า เพราะใกล้เต็มที่แล้ว”(หมายถึงเดือนกันยายน) แต่ปรากฏว่า การดำเนินการสร้างในครั้งนั้นไม่อาจที่จะสร้างสิ้นในเดือนกันยายนได้ เพราะการจัดสร้างได้ทำอย่างพิถีพิถันที่สุด คณะผู้จัดสร้างจึงได้เดินทางไปกราบเรียนท่านอาจารย์นำว่า พระยังไม่เสร็จ เมื่อกราบเรียนแล้วปรากฏว่าท่านอาจารย์นำได้นั่งนิ่งไม่พูดว่าอะไร ตามองออกไปข้างหน้าในลักษณะที่ยากจะคาดเดาได้ว่าท่านคิดอย่างไร ทำเอาคณะที่ไปครั้งนั้นอึดอัดใจไปตามๆกัน ท่านนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็กล่าวว่า”เอาเถอะ!อย่าให้เกินเดือนตุลาคม พ่อจะรอ ถ้าเกินจากนั้นไม่รอแล้ว”.จากนั้นคณะผู้จัดสร้างก็ได้กลับไปดำเนินการสร้างต่อไป ซึ่งในการสร้างได้พิถีพิถันเรื่องเนื้อพระจะต้องออกมาสวยงามจึงต้องเพิ่มทองคำและเงินลงไปอีกจำนวนมาก จนได้เนื้อเป็นที่พอใจ จากนั้นก็ได้เริ่มเทหล่อพระ ซึ่งได้รูปเหมือนขนาดเล็กทั้งหมดเพียง ๑,๖๐๐ องค์เท่านั้น

ยังไงต้องเสร็จในเดือนตุลา..พ่อไม่รอแล้ว.."พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา" เลื่อนวันละสังขาร เพื่อเสกพระรุ่นสุดท้าย อย่างอัศจรรย์ยิ่ง.

พระอาจารย์นำ

เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๑๙ พระได้หล่อเสร็จเรียบร้อย จึงได้รีบนำเอาพระไปที่วัดดอนศาลา เมื่อกราบเรียนให้ท่านอาจารย์นำทราบปรากฏว่าท่านรู้สึกดีใจจนเห็นได้ชัด จากนั้นก็ได้นำเอาพระไปวางไว้ในพระอุโบสถวัดดอนศาลา โดยเอาผ้าขาวคลุมพระไว้.ในวันที่๒๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ เมื่อทุกอย่างจัดเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็เห็นว่าท่านอาจารย์นำ ซึ่งนอนมาหลายวันแล้วเพราะอาพาธอยู่ แต่วันนั้น ท่านกลับลุกขึ้นด้วยความสดชื่นกว่าปกติ แล้วก็ได้เข้าไปจุดเทียนชัย และนั่งเข้าสมาธิเพ่งพลังจิตปลุกเสก ร่วมกับพระเกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังทางคาถาอาคมของสายใต้เช่น พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง,พ่อท่านหมุน วัดเขาแดง,อาจารย์ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ฯลฯเป็นเวลาประมาณสองชั่วโมง ขณะที่กำลังปลุกเสกอยู่ด้วยความเงียบสงบภายในพระอุโบสถวัดดอนศาลา ท่ามกลางความเงียบที่ทุกคนนั่งชมพิธีอยู่นั้น ได้ปรากฏมีเสียง”เปรี๊ยะ”ดังออกมาจากกองพระเครื่องที่คลุมผ้าขาวในปริมณฑลพิธี แต่เนื่องจากพิธียังไม่เสร็จสิ้นจึงยังไม่มีใครไปเปิดดู. ครั้นเมื่อท่านอาจารย์นำออกจากสมาธิแล้วก็ได้บอกว่า”สำเร็จแล้ว” จากนั้นคณะผู้จัดสร้างก็ได้เข้าไปเปิดผ้าขาวที่คลุมพระเครื่องออกดู เพื่อให้รู้ว่าเสียงดัง”เปรี๊ยะ”นั้นมาจากอะไร และเมื่อเปิดผ้าขาวออก ทุกคนเห็นเป็นที่น่าอัศจรรย์กันทุกคนคือ ลังไม้ที่บรรจุพระเครื่องได้แตกออก และพระเครื่องได้กระจายทั่วไป.การที่พระเครื่องซึ่งบรรจุอยู่ในลังไม้ได้กระจัดกระจายเพราะลังไม้แตกนั้น จะเป็นไปเพราะสาเหตุไม่ได้ แต่เป็นไปเพราะพลังจิตที่ท่านอาจารย์นำ และพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมปลุกเสก ได้เพ่งตรงไปรวมที่กองพระเครื่อง และอัดจนแน่น เป็นพลังที่กระทั่งดันลังไม้แตก

ยังไงต้องเสร็จในเดือนตุลา..พ่อไม่รอแล้ว.."พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา" เลื่อนวันละสังขาร เพื่อเสกพระรุ่นสุดท้าย อย่างอัศจรรย์ยิ่ง.

รูปหล่อรุ่นสุดท้าย ปี ๒๕๑๙

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีปลุกเสกนั้น บรรดาลูกศิษย์ก็ได้ประคองพาท่านอาจารย์นำกลับกุฏิ เมื่อถึงกุฏิแล้ว ท่านก็ได้บอกกับบรรดาลูกศิษย์ว่า”อีก ๓ วันพ่อจะไปแล้วนะ”.ครั้นเมื่อ ๓ วันผ่านไปจากวันที่ท่านได้บอกบรรดาลูกศิษย์ คือวันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ ซึ่งเป็นวันกำหนดที่ท่านอาจารย์นำได้บอกลาลูกศิษย์ไว้ เวลากลางคืนบรรดาลูกศิษย์และชาวบ้านหลายคนได้ไปหาท่านที่กุฏิ ซึ่งท่านก็ได้สนทนาและบอกลาลูกศิษย์กับชาวบ้านด้วยใบหน้าปกติและสดชื่น ไม่มีแสดงอาการเจ็บปวดจากการอาพาธแต่อย่างใด ครั้นเมื่อเวลา ๒๒๐๐ น. ท่ามกลางความมืดของกลางคืน ท่านอาจารย์นำได้กล่าวอำลาบรรดาลูกศิษย์และชาวบ้านเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเสียงปกติว่า”พ่อลาแล้ว” จากนั้นท่านก็ล้มตัวลงนอนและละสังขารไปอย่างสงบ และขณะที่ท่านอาจารย์นำได้ละสังขารไปนั้น ท่ามกลางความเงียบสงบของเวลากลางคืน และท่ามกลางความเศร้าโศกของบรรดาลูกศิษย์และชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็ได้ปรากฏเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้นมาอีก คือได้ปรากฏมีเสียงบรรเลงแตรสังข์กังวานรอบๆบริเวณวัดดอนศาลา ทั้งๆที่บริเวณนั้น ไม่มีบ้านใครจัดงานบรรเลงเลย แล้วเสียงแตรสังข์นั้นมาจากไหน

จากที่เขียนมานี้ผมคงไม่ต้องมาสรุปอีกแล้วกระมังครับว่า พระอาจารย์นำแห่งวัดดอนศาลา ศิษย์ปลายเขาอ้อ ท่านผู้นี้น่าเคารพกราบไหว้เพียงใด และรูปเหมือนของท่านรุ่นนี้ ซึ่งเป็นรุ่นแรก รุ่นเดียวและรุ่นสุดท้าย สมควรที่จะนำมาบูชากันได้แล้วใช่ไหมครับ

ลักษณะของรูปเหมือนรุ่นนี้ช่างได้แกะพิมพ์ได้อย่างสวยงาม และเหมือนองค์จริงของท่านมาก การพลิ้วของผ้าสังฆาฏิและริ้วจีวรดูเป็นธรรมชาติ เป็นรูปเหมือนของท่านอาจารย์นำ นั่งสมาธิพาดสังฆาฏิ มือประสานวางบนหน้าตัก ที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า”ชินวโร” ซึ่งเป็นฉายาของท่านอาจารย์นำ ด้านหลังมีตอกโค้ดตัว”นะ”ไว้ที่ปลายสังฆาฏิในรูปวงกลม สำหรับตัว”นะ”ของท่านอาจารย์นำ เป็นลักษณะเฉพาะของท่าน ไม่เหมือนกับ”นะ”ของพระเกจิอาจารย์ท่านอื่น ส่วนที่ฐานเป็นอักขระขอม ส่วนบริเวณก้นหรือฐานด้านล่างได้เจาะเป็นช่องว่างบรรจุผงอนันตคุณ ซึ่งเป็นผงวิเศษที่ท่านอาจารย์นำ ได้เพียรพยายามสร้างมานาน แล้วก็ใช้แผ่นเงินอุดปิดทับไว้ ที่เป็นแผ่นเงินซึ่งอุดปิดทับไว้ก็จะเป็นตัวหนังสือเขียนว่า”ชินวโร”เช่นกัน

ยังไงต้องเสร็จในเดือนตุลา..พ่อไม่รอแล้ว.."พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา" เลื่อนวันละสังขาร เพื่อเสกพระรุ่นสุดท้าย อย่างอัศจรรย์ยิ่ง.

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของรูป และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

ขอขอบคุณ คุณสถาพรเจ้าของเรื่อง

 : ศิษย์สายวัดสะพานสูง

เพื่อเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา