- 02 พ.ย. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ https://www.facebook.com/partiharn99/
แม่น้ำโขง 1 ในมรดกโลก ลักษณะสำคัญของแม่น้ำโขงคือ มีตลิ่งที่สูงชันมากทั้งสองฝั่ง ไหลเลี้ยวเลาะไปตามไหล่เขา กระแสน้ำจะไหลจากทางเหนือลงสู่ทางใต้ตลอดทั้งปี ระดับน้ำในฤดูฝนกับฤดูแล้งจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก มีเกาะแก่งน้อยใหญ่กว่าหนึ่งร้อยแห่งเรียงรายตลอดแม่น้ำ การที่แม่น้ำโขงไหลผ่านหลายประเทศเช่นเดียวกับแม่น้ำดานูบในยุโรป ทำให้บางคนเรียกว่าแม่น้ำนานาชาติ และทำให้ได้รับการขนานนามว่า "แม่น้ำดานูบตะวันออก"
แม่น้ำโขงหล่อเลี้ยง และไหลผ่านประเทศจีน ประเทศพม่า ประเทศลาว ประเทศไทย ประเทศกัมพูชา และออกสู่ทะเลจีนใต้ที่ประเทศเวียดนาม ถือว่าเป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญมากๆ กับหลายประเทศ ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามช่วยสร้างการลงทุน และธุรกิจในพื้นที่ของหลายประเทศ และที่สำคัญเป็นแม่น้ำที่มีสัตว์น้ำสายพันธ์หายากมากมายอาศัยอยู่ พูดง่ายๆก็คือ แม่น้ำโขงมีความสำคัญมากๆสำหรับคน และสัตว์ แต่เหตุใดจีนถึงคิดที่จะทำลายแม่น้ำสำคัญของโลกนี้ โดยมีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อว่า Pai Deetes ได้โพสต์เรื่องเขื่อนจิงหง ของประเทศจีน ที่กำลังจะทำลายระบบนิเวศครั้งใหญ่ โดยรายละเอียดมีดังแต่ไปนี้...
งงกันไปหมด เมื่อจู่ๆ วันนี้ 2 พฤศจิกายน 2560 ระดับน้ำโขงที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ลดระดับอย่างกระทันหัน จาก 4.9 เมตรเมื่อวานนี้ เหลือ 3.9 เมตรในเช้านี้ (ลด 1 เมตรใน 1 คืน) และยังคงลดระดับลงอย่างต่อเนื่องในเวลานี้ ทั้งๆ ที่สองวันที่ผ่านมาทุกคนต่างเตรียมว่าน้ำโขงจะขึ้นแน่ๆ เพราะเพิ่งมีประกาศจากคณะกรรมมาธิการแม่น้ำโขง MRC ว่าเขื่อนจิงหง ได้เพิ่มการระบายน้ำด่วนตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม สภาพน้ำโขงลดเช้านี้ที่ท่าเรือเชียงแสนเลยทุลักทุเล เรือส่วนใหญ่เกยตื้นอยู่บนฝั่ง บางส่วนที่ย้ายไม่ทันก็จม
แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ?
1 ข้อมูลที่ MRC เขียนในเว็บไซต์เมื่อวันที่ 30 ตค. ระบุว่าได้รับ 'การแจ้งด่วนล่วงหน้า 1วัน' จากจีน ว่าเขื่อนจิงหง Jinghong Dam จะมีแผนระบายน้ำเพื่อตรวจสอบระบบความปลอดภัยของระบบสายส่งไฟฟ้า โดยเขื่อนจะลดการระบายน้ำลงเหลือ 504 ลบม./วินาที ในเช้าวันที่ 31ตุลาคม แล้วเพิ่มขึ้นเป็น 2200 ลบม./วินาที นับตั้งแต่วันที่ 1 พย. เป็นต้นไป นั่นทำให้สังคมต่างคาดว่า น้ำโขงกำลังจะขึ้นแน่ๆ
2 ขนาดที่ว่า จังหวัดบึงกาฬ (ที่อยู่ท้ายน้ำลงไปอีก 5-6 จังหวัด) ออกประกาศเตือนภัยอย่างเป็นทางการในกรณีดังกล่าว
3 แต่ไม่มีใครอธิบายต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ท้ายน้ำ (อย่างน้อยใน 8 จังหวัดริมน้ำโขงของไทย) ว่าไอ้ก่อนหน้าที่เขื่อนจีนจะลดการระบายน้ำเหลือแค่ 504 ลบ.ม/วินาที นั้น เขื่อนจิงหงเขาระบายน้ำอยูที่สูงถึง 2400 ลบ.ม./วินาที
4 ดังนั้นปรากฎการณ์น้ำลดลงในทันทีขณะนี้ คือน้ำที่ลดลงเหลือ 504 ลบ.ม/วิ
5 ผู้รู้ช่วยอธิบายมาว่า ระลอกหลังที่จีนเพิ่มการระบายน้ำเป็น 2200/ลบ.ม./วิ กำลังเดินทางมา และคาดว่าจะถึงเชียงแสน ราวๆ พรุ่งนี้ (3-4 พย.) และจะทำให้น้ำสูงขึ้นอย่างผิดปรกติ
6 ในฐานะประชาชนไทย อยากทราบว่าหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ได้ทำหน้าที่ของตนในการเตือน-ให้ข้อมูลแก่ประชาชน แล้วหรือไม่ หน่วยงานต่างๆ ได้ประสานงานกันเพียงพอหรือไม่? (สำหรับท่านที่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ขอชื่นชมค่ะ)
7 ในฐานะประชาชนลุ่มน้ำโขง อยากทราบว่า รัฐบาลไทย และเหล่าประเทศท้ายน้ำ จะปล่อยให้สภาพนี้ดำรงอยู่ต่อไป โดยไม่คิดจะลุกขึ้นมาทวงถามหาความรับผิดชอบของเจ้าของเขื่อน การแจ้งเตือนประเทศร่วมลุ่มน้ำให้รู้ล่วงหน้า-อย่างทันท่วงที และการสร้างกลไกใช้ทรัพยากรแม่น้ำโขงร่วมกันอย่างยั่งยืน ใช่หรือไม่?
ขอบคุณรูปที่เชียงแสน เช้าวันนี้ 02.11.2017 โดยพี่อ้อย ปิยนันท์ จิตต์แจ้ง
ปล.บางที่ก็นึกสงสัย พวกปลาแม่น้ำโขง ที่มันยังไม่สูญพันธุ์ ทั้งๆ ที่น้ำโขงตอนบนขึ้นๆ ลงๆ ตามใจเขื่อนจีนนี่ มันเก่งจริงๆ นะ
และเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 60 ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ชื่อว่า Jatuchai Dowan ได้พูดถึงการเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันกลับของแม่น้ำโขง แม่น้ำที่คนทั้งโลกควรเป็นเจ้าของ ไม่ใช่ผู้ใดผู้หนึ่ง โดยมีใจความว่า...
สายน้ำที่เปลี่ยนไป...
แม่น้ำโขง เป็นแม่น้ำนานาชาติ ที่ไหลผ่านประเทศไทยอีกทั้งเป็นแม่น้ำที่เป็นเขตกั้นอาณาเขตระหว่างไทยกับลาว มีความหลากหลายทางธรรมชาติสูงมาก
หน้าฝนจะเป็นช่วงน้ำหลาก น้ำโขงจะขึ้นมาสูงมาก และเป็นฤดูล่ายักษ์ใหญ่แห่งลุ่มน้ำโขงนั่นคือปลาบึกที่มีราคาสูงมาก แและพอถึงช่วงหน้าแล้ง ในบางพื้นที่จะตื้นเขินมาก สามารถเดินเท้าเปล่าข้ามแม่น้ำโขงไปยังฝั่งลาวได้ในทันที มีหาดทรายที่มีชื่อเสียงมากมายสำหรับผักผ่อนริมน้ำ
แต่บัดนี้ แม่น้ำโขงเปลี่ยนไปแล้ว หลายปีมาแล้วที่แม่น้ำโขงจะมีมวลน้ำมหาศาลไหลเต็มตลิ่งทั้งปี หาดทรายต่าง ๆ กลายแค่ความทรงจำ ธรรมชาติแห่งแม่น้ำโขงก็เปลี่ยนไปตลอดกาล... เนื่องจากทางจีนได้ทำเขื่อนและปล่อยน้ำลงแม่น้ำจนไม่เหลือความเป็นแม่น้ำโขงอีกต่อไป เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ริมตลิ่งหลาย ๆ แห่งน้ำกัดเซาะตลิ่งพัง ทางการจึงต้องสร้างผนังริมตลิ่ง เพื่อป้องกันดินทรุด ยิ่งทำให้ธรรมชาติเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นไปอีก
เสียดายคนรุ่นใหม่ ๆ ที่ไม่ได้เห็นความหลากหลายของธรรมชาติแห่งแม่น้ำโขงอีกต่อไปแล้ว...
In memory of JTC
อ้างอิงข้อมูลจาก - Facebook Pai Deetes , Facebook Jatuchai Dowan