ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th

 “คาถาโมรปริตร คาถาพญายูงทองหลวงปู่มั่น

บรรดาพระป่าสาย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต (ภูริทตฺโต) ส่วนมากให้ความสำคัญในการบริกรรมพระคาถาบทหนึ่ง คือ พระคาถาโมรปริตรหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "พระคาถาพญายูงทอง"

"นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา"

 เป็นคาถาที่ปรากฏในตำนานโมรปริตร (อุเทตะยัญจักขุมา) ซึ่งเป็นนิทานชาดก โดยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็น "พญานกยูงทอง"

พระพุทธเจ้าเคยเสวยพระชาติเป็นพญานกยูงทอง "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต"ชี้แนะ..คาถาพญายูงทอง เป็นพระคาถาชั้นสูงจากตำนานโมรปริตร

หลวงปู่มั่น

โดยคาถานี้เป็นคาถาที่ปรากฏอยู่บนหลังเหรียญเกือบทุกรุ่นของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร โดยหัวใจของคาถาบทนี้คือ"นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา" อันมีความหมายว่า "ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแต่ผู้วิมุตแล้วทั้งหลาย ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแต่วิมุตตฺธรรม" 

นอกจากจะพบคาถานี้บนหลังเหรียญแทบทุกรุ่นของท่านพระอาจารย์ฝั้นแล้ว ยังพบคาถาบทนี้ในตะกรุดอีกด้วย ทั้งนี้ได้มีเหล่าบรรดาลูกศิษย์จำนวนมากไปหาอาจารย์ฝั้น ให้ทำตะกรุดให้ โดยจัดหาแผ่นโละทองเหลือง-ทองแดง-ตะกั่วไปพร้อม ท่านก็มีเมตตาจารให้ทุกคน โดยท่านจะจารพระคาถาเป็นภาษาขอม ลาว อ่านว่า นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา โดยส่วนใหญ่บางครั้งอาจมีหัวใจคาถาอื่นเพิ่มเติมบ้าง เช่น นะโมพุทธายะ และ นะมะพะทะ ผนวกเข้าไว้ก็ได้ ตะกรุดของพระอาจารย์ฝั้นบางคนก็เอาไปปิดเสาเรือน บางคนก็พกพาไว้ติดตัว โดยมีความเชื่อว่า สามารถกันไฟ กันฟ้าผ่า รวมทั้งแคล้วคลาด 
นอกจากนี้แล้วยังพบว่า หลวงพ่อฤาษี ลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ยังใช้คาถาบทนี้ด้วย ดังปรากฏในหนังสือสวดมนต์ของวัด 
ทั้งนี้สันนิษฐานว่าคงสืบเนื่องมาจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา 

พระพุทธเจ้าเคยเสวยพระชาติเป็นพญานกยูงทอง "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต"ชี้แนะ..คาถาพญายูงทอง เป็นพระคาถาชั้นสูงจากตำนานโมรปริตร

คาถาโมรปริตร คาถาพญายูงทอง
ในบรรดาพระสายป่าสาย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต (ภูริทตฺโต) ส่วนมากให้ความสำคัญในการปริกรรมพระคาถาบทหนึ่ง คือ พระคาถาโมรปริตร หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "พระคาถาพญายูงทอง" ซึ่งมีการบริกรรมดังนี้
บทสวดตอนเช้า
โมระปะริตตัง อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะ วัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะ เรมุ ทิวะสัง เยพราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม เตจะมัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสะนา โมระปะริตตัง
หมายเหตุ คำที่มีความหมายว่า เวลาเช้า คือ "อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา"

บทสวดตอนเย็น
อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง เยพราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม เต จะมัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร วาสะมะกัปปะยิติ
หมายเหตุ คำที่มีความหมายว่า เวลาเย็น คือ อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา

พระคาถาทั้ง ๒ บทนี้ มีความเชื่อมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่า หากใครสวดทุกเช้าและค่ำจะแคล้วคลาดปลอดภัยอันตรายทั้งปวง

พระพุทธเจ้าเคยเสวยพระชาติเป็นพญานกยูงทอง "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต"ชี้แนะ..คาถาพญายูงทอง เป็นพระคาถาชั้นสูงจากตำนานโมรปริตร

ขอขอบพระขอบคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้ http://palungjit.org

เพื่อเผยแผ่เป็นธรรมทาน