ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

หลวงปู่โต๊ะ ท่านสนใจศึกษาด้านวิปัสสนาธุระมาแต่ยังเป็นสามเณร ท่านเป็นคนที่มีศีลวัตรปฏิบัติอันงดงาม มีกริยามารยาทที่งดงาม มีความสุภาพอ่อนโยน มีความเมตตากรุณาต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด และสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ในอนาคตได้ และท่านได้เคยเจอเกี่ยวกับโรคระบาด หลวงปู่ท่านเห็นคนหลายคนไม่สบาย ท่านก็รู้สึกไม่สบายใจ เพราะท่านเองก็เป็นโรคนี้ด้วยเหมือนกัน ท่านจึงตั้งจิตว่า หากท่านยังมีชีวิตอยู่ ขอให้ท่านจงหายจากโรคนี้ แต่ถ้า ท่านหมดบุญแล้ว ก็ขอให้ตายซะ ในตอนกลางคืน ท่านได้นิมิตว่า หลวงพ่อบ้านแหลมได้นำน้ำพระพุทธมนต์มาเจริญให้ ตื่นมาท่านก็มาเจริญน้ำพระพุทธมนต์ และสุดท้ายท่านก็หายจากโรคนี้

ครั้งหนึ่งขณะที่หลวงปู่นั่งเจริญกรรมฐานอยู่ในโบสถ์ พลันก็เห็นเซียน ๘ องค์เข้ามาพูดกับท่านว่า

"พระแม่กวนอิมมารับท่านเป็นสาวกและให้ท่านปฏิบัติแบบมหายาน คือไม่ฉันเนื้อวัว เนื้อควาย และให้ฉันเจทุกเทศกาลกินเจ"

หลวงปู่ก็ไม่ยอม เถียงไปว่า

"พระแม่เป็นคนจีน หลวงปู่เป็นคนไทยและนับถือพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว ไม่ตกลงด้วย"

นับแต่นั้นมาเซียน ๘ องค์ก็มาเฝ้าอ้อนวอนให้หลวงปู่เปลี่ยนใจ จนกระทั่งวันหนึ่งเซียนทั้ง ๘ องค์ก็มาหาอีกและบอกว่า

"วันนี้พระแม่กวนอิมเสด็จมาด้วยพระองค์เอง พักรออยู่ข้างนอก"

ลืมตาเห็นพระรัศมีสว่างไสวและพระลักษณ์สวยงามมาก..เมื่อพระแม่กวนอิมเสด็จพบ "หลวงปู่โต๊ะ"บอกให้ฉันเจ ปีไหนไม่ทำตาม จะอาพาธหนักมาก.

หลวงปู่ไม่สนใจได้แต่หลับตาเสีย เซียนองค์หนึ่งจึงไปเชิญเสด็จพระแม่กวนอิมเข้ามาในโบสถ์ และบอกให้หลวงปู่ลืมตาขึ้น หลวงปู่ลืมตาเห็นพระรัศมีสว่างไสวและพระลักษณ์สวยงามมาก พระแม่เจ้าให้หลวงปู่เข้าเป็นสาวกทางพุทธศาสนามหายาน และประทานเสื้อกางเกงชุดพระจีนให้ใส่แทน หลวงปู่เผลอรับเสื้อกางเกงมาสวมใส่ พอกางเกงสวมมาถึงเข่า ก็รู้สึกตัวได้สติ รีบดึงกางเกงออกทิ้งไป พระแม่กลับบอกว่า

"ท่านเป็นสาวกของพระแม่แล้ว ต่อไปนี้ท่านจะต้องฉันเจทุกปีตามเทศกาลเจของชาวจีน" แล้วพระแม่กวนอิมและเซียนทั้ง ๘ องค์ ก็หายวับไปกับตา

พอถึงเทศกาลเจครั้งแรก หลวงปู่ไม่ยอมฉันเจ หลวงปู่ก็อาพาธหนัก พอหมดเทศกาลเจก็หาย ในปีต่อๆ มา ก็เป็นเช่นนี้อีก หลวงปู่ทดสอบอยู่หลายปี จนต้องหันมาฉันเจในเทศกาลเจ อาการอาพาธต่างๆ ก็หายสิ้น ท่านจึงฉันเจตามเทศกาลแต่นั้นมา ทุกปีของเทศกาลเจ หลวงปู่จะแต่งชุดพระจีนในเวลากลางคืน และเมื่อหลวงปู่นั่งสมาธิ พระแม่เจ้าก็ได้พาหลวงปู่ไปเที่ยวดินแดนสุขาวดีพุทธเกษตร พร้อมทั้งสอนวิชาให้ จึงเป็นสาเหตุว่าชาวจีนทำไมจึงขึ้นกับหลวงปู่โต๊ะมากเป็นพิเศษ คณะศรัทธาธรรมได้ร่วมกันสร้างรูปหล่อพระแม่เจ้าร่วมกับหลวงปู่โต๊ะที่ หน้าถ้ำสิงโตทอง จังหวัดราชบุรี เป็นพระรูปกะไหล่ทองให้ศิษย์ที่นับถือพระแม่กวนอิมสักการะบูชาครั้นเมื่อหลวงปู่โต๊ะกลับจากการเยือนพุทธคยาที่ประเทศอินเดียหลวงปู่ก็เริ่มฉันภัตตาหารมังสวิรัติคือการเว้นเนื้อสัตว์และมันสัตว์ทั้งปวงโดยเด็ดขาดอย่างจริงจังตราบถึงกาลมรณภาพ

ท่านได้ถึงแก่มรณภาพลงด้วยอาการสงบ รวมสิริอายุได้ ๙๓ ปี ๗๓ พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดให้เชิญศพไปตั้งที่ศาลา ๑๐๐ ปี วัดเบญจมบพิตร พระราชทานเกียรติยศศพเป็นพิเศษ เสมอพระราชาคณะชั้นธรรม พระราชทานโกศโถบรรจุศพ พร้อมฉัตรเบญจาเครื่องประกอบเกียรติยศครบทุกประการ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่การศพโดยตลอด เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ๗ วัน ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน และตามโอกาสอันควรหลายวาระ

ลืมตาเห็นพระรัศมีสว่างไสวและพระลักษณ์สวยงามมาก..เมื่อพระแม่กวนอิมเสด็จพบ "หลวงปู่โต๊ะ"บอกให้ฉันเจ ปีไหนไม่ทำตาม จะอาพาธหนักมาก.

ลืมตาเห็นพระรัศมีสว่างไสวและพระลักษณ์สวยงามมาก..เมื่อพระแม่กวนอิมเสด็จพบ "หลวงปู่โต๊ะ"บอกให้ฉันเจ ปีไหนไม่ทำตาม จะอาพาธหนักมาก.

สำหรับการถือศีลกินเจ จะได้รับอานิสงส์ ๑๐ ประการ คือ

๑.เป็นที่รักใคร่ของเทวดา พรหม มนุษย์ และสัตว์ทั้งหลาย
๒.จิตเมตตาย่อมเกิดขึ้น (ใบหน้าอิ่มเอิบแจ่มใส ใจเป็นสุขตลอดเวลา)
๓.ตัดความอาฆาตพยาบาทได้ขาด ดับอารมณ์ร้อนฉุนเฉียวโกรธเกลียดเคียดแค้น และความโหดเหี้ยมดุดันภายในจิตใจให้บรรเทาเบาบางลงได้
๔.ไม่มีโรคร้ายมาเบียดเบียน
๕. อายุยืน
๖.เทวดาปกป้องคุ้มครองให้ได้รับความปลอดภัยตลอดเวลา
๗.หลับฝันดีพบเห็นแต่สิ่งที่เป็นมงคล
๘.ระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นต่อกันได้
๙.ตั้งมั่นอยู่ในกระแสแห่งนิพพาน ไม่หลงตกไปสู่อบาย
๑๐.เมื่อตายแล้ว ย่อมเข้าสู่สุคติ

ลืมตาเห็นพระรัศมีสว่างไสวและพระลักษณ์สวยงามมาก..เมื่อพระแม่กวนอิมเสด็จพบ "หลวงปู่โต๊ะ"บอกให้ฉันเจ ปีไหนไม่ทำตาม จะอาพาธหนักมาก.

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

http://palungjit.org

เพื่อเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา