เปิดตำนาน "อุบาสกคู่แรกของโลก" ผู้ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าหลังจากตรัสรู้ !!! หายคาใจ เหตุใด...สำเภาเรือ จึงเป็นเอกลักษณ์คู่วัดมอญ

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ในพระพุทธศาสนา เราจะเป็นได้ว่า พุทธศาสนิกชนนั้นมีมากมายเป็นอันดับต้นๆของโลก น่าเชื่อได้ว่า ชนชาติมอญเป็นผู้ถึงพระพุทธศาสนาก่อนใครในสุวรรณภูมิ หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตำนานมอญระบุว่า ภายหลัง ตะเป๊า ตะปอ (ตปุสสะ ภัลลิกะ) พ่อค้าวาณิชมอญสองพี่น้อง ได้เข้าเฝ้าถวายข้าวสัตตุแด่องค์พระสัมมาหลังตรัสรู้ ตะเป๊า ตะปอจึงนับเป็นอุบาสกคู่แรกของโลก

เปิดตำนาน "อุบาสกคู่แรกของโลก" ผู้ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าหลังจากตรัสรู้ !!! หายคาใจ เหตุใด...สำเภาเรือ จึงเป็นเอกลักษณ์คู่วัดมอญ

หลังจากพระพุทธเจ้าเสวยข้าวสัตตุนั้นแล้ว ได้ลูบพระเศียรซึ่งมีพระเกศาติดพระหัตถ์มาด้วย ๘ เส้น ทรงประทานพระเกศานั้นแด่สองพี่น้องเป็นสิ่งแทนพระองค์ เพื่อน้อมนำถึงพระธรรมคำสอนของพุทธองค์อันเป็นมงคลชีวิต สองพี่น้องได้นำกลับมาถวายกษัตริย์แห่งรามัญประเทศนาม พระเจ้าเอิกกะลาปะ พระองค์โปรดฯ ให้สร้างพระเจดีย์เละเกิ่ง (ชเวดากอง) ประดิษฐานไว้ยังรามัญเทศะสืบมา

เปิดตำนาน "อุบาสกคู่แรกของโลก" ผู้ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าหลังจากตรัสรู้ !!! หายคาใจ เหตุใด...สำเภาเรือ จึงเป็นเอกลักษณ์คู่วัดมอญ

ส่วนในทางประวัติศาสตร์ คัมภีร์ทางพุทธศาสนา อันได้แก่ “สมันตปาสาทิกา” โดยพระพุทธโฆษาจารย์ (มีชีวิตอยู่เมื่อ พ.ศ. ๙๒๗-๙๗๓) และ “มหาวงศ์” ในรัชสมัยพระเจ้ามหานามะ (ครองราชย์ พ.ศ. ๙๕๕-๙๗๗) คัมภีร์ทั้งสองแต่งในลังการาวปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๐ ระบุว่า ในราวปี พ.ศ. ๒๓๕ พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดีย (ครองราชย์ พ.ศ. ๒๗๐- ๓๑๑) ได้อาราธนาพระสมณทูต อัญเชิญพระไตรปิฎกออกเผยแผ่ไปยังดินแดนต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งสิ้น ๙ สาย หนึ่งในนั้นคือ ดินแดนสุวรรณภูมิ ที่นำโดยพระมหาเถระสำคัญทั้งสอง คือ พระโสณะ และพระอุตตระ ได้อัญเชิญพระไตรปิฎกลงเรือสำเภาจากดินแดนพุทธภูมิสู่รามัญประเทศ นับเป็นจุดเริ่มต้นในการประดิษฐานพุทธศาสนายังสุวรรณภูมิอย่างมั่นคง

เปิดตำนาน "อุบาสกคู่แรกของโลก" ผู้ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าหลังจากตรัสรู้ !!! หายคาใจ เหตุใด...สำเภาเรือ จึงเป็นเอกลักษณ์คู่วัดมอญ

“จารึกกัลยาณี” โดยพระเจ้าธรรมเจดีย์ (ครองราชย์ พ.ศ. ๒๐๑๕-๒๐๓๕) กษัตริย์มอญแห่งหงสาวดี รับสั่งให้จารึกศิลา ๑๐ หลัก เมื่อปี พ.ศ. ๒๐๒๒ อันเป็นแหล่งอ้างอิงประวัติพุทธศาสนาที่สำคัญของชาติต่างๆ ระบุว่า “สุวรรณภูมิ” สถานที่ซึ่งสมณทูตของพระเจ้าอโศกทั้งสองได้นำพระไตรปิฎกมาถึงนั้นมีชื่อเรียกว่า “รามัญประเทศ” หรือ “ประเทศของชาวมอญ” ปัจจุบันคือดินแดนทางตอนใต้ของ “ประเทศเมียนมา”

การอภิปรายในแวดวงวิชาการจากหลักฐานเท่าที่พบ พอจะสรุปได้ว่า “สุวรรณภูมิ” คือดินแดนทางตะวันออกของอินเดีย ส่วนที่เป็นแผ่นดิน มีความเป็นไปได้ว่า น่าจะเป็นประเทศเมียนมา ไทย ลาว และกัมพูชา ส่วนที่เป็นเกาะน่าจะได้แก่ ชวา สุมาตรา (อินโดนีเซีย) และฟิลิปปินส์ และเมื่อพิจารณาหลักฐานทางโบราณคดีเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา พบว่า เมืองสะเทิม เมืองอู่ทอง และเมืองนครปฐม สมัยทวารวดี มีอายุเก่าแก่ที่สุดและร่วมสมัยกัน คือ ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๑

เปิดตำนาน "อุบาสกคู่แรกของโลก" ผู้ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าหลังจากตรัสรู้ !!! หายคาใจ เหตุใด...สำเภาเรือ จึงเป็นเอกลักษณ์คู่วัดมอญ

อย่างไรก็ตาม ตำนานการอัญเชิญพระไตรปิฎกโดยสำเภาจากชมพูทวีปสู่สุวรรณภูมิยังคงเป็นสัญลักษณ์ทางจิตใจให้โน้มน้าวถึงวาระสำคัญแห่งการมาถึงของพระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ แสดงถึงความมั่นคงในศรัทธาของชาวมอญ กระทั่งสืบทอดความเชื่อตามคติมอญมาจวบจนปัจจุบัน อันนับเป็นเอกลักษณ์วัดมอญอย่างหนึ่งที่มักจะขาดเสียไม่ได้ นั่นคือ พระเจดีย์สามองค์ (แทนพระไตรปิฎก) ตั้งอยู่บนเรือสำเภา

เปิดตำนาน "อุบาสกคู่แรกของโลก" ผู้ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าหลังจากตรัสรู้ !!! หายคาใจ เหตุใด...สำเภาเรือ จึงเป็นเอกลักษณ์คู่วัดมอญ

ขอบคุณข้อมูลจาก : เครือข่ายนิสิตอาเซียนเพื่อการพัฒนาสังคมและพหุวัฒธรรมอาเซียนอย่างยั่งยืน