ลูกพ่อ...กลัวผีไม่ได้ !!! ครั้งเมื่อ "พระพุทธเจ้าหลวง" รับสั่งให้ "ร.๖" เข้าไปหยิบของในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน...ในตอนกลางคืน !!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ในสมัยรัชกาลที่ ๕ นั้นพระองค์ได้ทรงยกเลิกตำแหน่งวังหน้าขึ้นแล้วก็สถาปนาให้สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ทรงเป็น พระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารคนแรกของประวัติศาสตร์ไทย และในเหตุการณ์นี้พูดถึงว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งรัชกาลที่ ๕ ทรงใช้ให้ไปเอาของในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ซึ่งเป็นที่พระวิมานบรรทมของพระมหากษัตริย์ ในรัชกาลก่อนๆ แต่เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศท่านทรงกลัวผี เนื่องจาก พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานมืด และเป็นที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก

ลูกพ่อ...กลัวผีไม่ได้ !!! ครั้งเมื่อ "พระพุทธเจ้าหลวง" รับสั่งให้ "ร.๖" เข้าไปหยิบของในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน...ในตอนกลางคืน !!!

"ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานนั้น ในรัชกาลที่ ๕ ฉันไม่เคยจำได้ว่าเปนอื่นนอกจากที่เก็บของเก่าๆ และปิดมืดครึมเครืออยู่โดยมาก จึ่งมีกลิ่นอับๆ และอากาศในนั้นเย็นชืด ๆ และคนโดยมากกลัวผีในที่นั้นกันนัก ฉันยังจำได้ว่าวันนั้นเปนเวลาพลบค่ำแล้ว ทูลกระหม่อม ต้องพระราชประสงค์ของอะไรสักอย่างหนึ่งซึ่งอยู่ในพระที่นั่งจักรพรรดิ รับสั่งขึ้นว่า "ลูกไปเอามาคนหนึ่งเถิด"  ไม่มีใครลุกขึ้นไปเลยสักคนเดียว ทูลกระหม่อมทรงเหลียวไปไม่เห็นใครเข้าไป

จึงทรงหยิบเทียนที่จุดอยู่เล่มหนึ่งข้างพระองค์ แล้วรับสั่งว่า  

"ชายใหญ่ (สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ) เอ้า เอาเทียนนี่ถือไป"

และตรัสชี้แจงโดยแจ่มแจ้ง ว่าของที่ต้องพระราชประสงค์นั้นอยู่ในตู้ในพระฉาก ทูลกระหม่อมใหญ่ ท่านนั่งนิ่ง ไม่รับเทียนจากพระหัตถ์ทูลกระหม่อม และไม่ทูลว่ากระไรจนคำเดียว เห็นพระพักตร์ซีดพิกล ทูลกระหม่อมรับสั่งเตือนว่า ....

ลูกพ่อ...กลัวผีไม่ได้ !!! ครั้งเมื่อ "พระพุทธเจ้าหลวง" รับสั่งให้ "ร.๖" เข้าไปหยิบของในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน...ในตอนกลางคืน !!!

"อย่างไรเล่า ? ใช้ไม่ไปหรือ ?"

ทูลกระหม่อมใหญ่จึงกราบบังคมทูลอ้อมแอ้มว่า

"จะไป แต่ขอผู้ใหญ่เข้าไปด้วยสักคนหนึ่ง"

ทูลกระหม่อมรับสั่งถามว่า

"ทำไม? ......กลัวอะไร?"

ทูลกระหม่อมใหญ่กราบบังคมทูลตอบว่า

"กลัวผี"

ทูลกระหม่อมพระพักตร์บึ้ง ทรงเหลียวไปทางฉัน แล้วตรัสว่า..

" โต (ร.๖)  จะรับใช้พ่อได้หรือไม่ได้ ?"

ฉันก็กราบบังคมทูลว่า ได้ และรับเทียนจากพระหัตถ์แล้วเข้าไปในพระที่นั่งจักรพรรดิ แข็งอกแข็งใจเดินอย่างหน้าตาเฉยขึ้นอัฒจันท์ไป แต่ก็ชอบกล พอเข้าไปถึงในพระที่นั่งแล้วก็หายกลัว เพราะใจมุ่งแต่ที่จะไปหยิบของที่ต้องพระประสงค์ เมื่อได้ของออกมาแล้ว ทูลกระหม่อมทรงชมเชยทับถมทูลกระหม่อมใหญ่เสียขนานโต ทรงกอดฉันและตรัสว่า

"อย่างนี้สิเป็นลูกพ่อแท้ ลูกพ่อกลัวผีไม่ได้"

ลูกพ่อ...กลัวผีไม่ได้ !!! ครั้งเมื่อ "พระพุทธเจ้าหลวง" รับสั่งให้ "ร.๖" เข้าไปหยิบของในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน...ในตอนกลางคืน !!!

ก็เป็นธรรมดาที่ฉันจะต้องยินดีมากที่ได้รับทรงชมเชยอย่างนั้น แต่ฉันต้องรับสารภาพว่า ถึงฉันจะได้นึกกลัวผีอยู่สักเท่าใด ก็ยังกลัวทูลกระหม่อมมากกว่า ฉันจึงได้สู้แข็งใจเข้าไปตามที่ทูลกระหม่อมทรงใช้ ภายหลังต่อแต่นั้นมาอีกนานเมื่อทูลกระหม่อมใหญ่สวรรคตแล้ว ทูลกระหม่อมจึงได้มีพระราชดำรัสแก่ฉันว่า

"พอพ่อใช้ชายใหญ่ให้เข้าไปในพระที่นั่งจักรพรรดิ เขาไม่ยอมเข้าไปเพราะกลัวผี พ่อก็นึกรู้ในใจทีเดียวว่าชายใหญ่คงจะไม่มีบุญพอที่จะได้ใช้ที่นั้นเป็นที่อยู่ แล้วก็พอโต (ร.๖) กล้ารับใช้เข้าไป พ่อก็รู้ว่าโต คงจะต้องเป็นแทนตัวพ่อต่อไป" แล้วก็เป็นจริงดังพระราชดำรัส

เมื่อเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติเป็น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ พระองค์มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะซ่อมแซมพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เป็นการใหญ่ จนกระทั่งสวยสง่างาม เป็นพระที่นั่งสำคัญในพระบรมมหาราชวังมาจนถึงทุกวันนี้

ลูกพ่อ...กลัวผีไม่ได้ !!! ครั้งเมื่อ "พระพุทธเจ้าหลวง" รับสั่งให้ "ร.๖" เข้าไปหยิบของในพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน...ในตอนกลางคืน !!!

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ ประวัติศาสตร์ราชอาณาจักรสยาม