หงายเงิบไปเจ้าคุณ! "หลวงปู่ฯ" จวก "เมธีฯ" นิสัยปลิ้นปล้อน..ยังคงเดิม-ไม่เคยเปลี่ยน

 

หงายเงิบ...ไปเจ้าคุณ!!! "หลวงปู่ฯ" จวก "เมธีฯ" เมื่อไหร่จะทิ้งนิสัยกะล่อนปลิ้นปล้อน โกหกใส่ร้ายผู้อื่นเสียที หลังออกมากล่าวหาว่า มีคนเซ็ตเรื่อง เพื่อขวางการตั้งพระสังฆราช โดยหลวงปู่ระบุชัดว่า หากสมเด็จช่วงซื่อตรงต่อพระธรรมวินัย ใครเขาจะสร้างเรื่องใส่ร้ายได้

 

 

วันนี้ (9 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย (ศพศ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "พระเมธีธรรมาจารย์ - เจ้าคุณประสาร" ถึงกรณีที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์พระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ให้รายละเอียดว่า มีหลักฐานที่จะเอาผิดกับเจ้าประคุณสมเด็จฯ วัดปากน้ำ กรณีรถโบราณในพิพิธภัณฑ์ของวัด โดยระบุว่า เป็นเรื่องผิดปกติ เพราะมีกลุ่มบุคคลได้เซ็ตเรื่อง เซ็ตเหตุการณ์ เซ็ตสถานการณ์เพื่อนำไปสู่การขัดขวางการเสนอรายนามสมเด็จพระราชาคณะเพื่อทูลเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชนั้น

 

 

ล่าสุด พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือพระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)" ถึงกรณีดังกล่าวว่า ที่พูดว่า มีกลุ่มบุคคลได้เซ็ตเรื่อง เซ็ตเหตุการณ์ เซ็ตสถานการณ์ ขอถามว่า ใครคือกลุ่มบุคคลเหล่านั้น ใครคือกลุ่มพี่เลี้ยงเหล่านั้น นิสัยกระล่อน ปลิ้นปล้อน โกหก ใส่ร้ายน่ะ เฮียแกดูจะแก้ไม่หายเสียทีนะ เชื่อจริงๆ หรือว่าพวกเราเป็นคนสร้างเรื่อง สร้างเหตุการณ์ สร้างสถานการณ์ มาใส่ร้าย หากสมเด็จช่วง ซื่อตรงต่อพระธรรมวินัย ใครเขาจะไปหาเรื่องเซ็ตเหตุการณ์ สร้างสถานการณ์ใส่ร้ายได้ และที่สมเด็จช่วงของเฮียมีเรื่องเสียหายเช่นนี้ เพราะทำตัวเองตะหากเล่า

 

หลวงปู่ฯ ยังระบุต่อไปว่า และที่พูดว่าสังคมนี้รู้มาตลอดว่าใครเป็นใคร ทำอะไรเพื่อหวังผลอะไร ขอบอกว่า แรกๆ สังคมเขาไม่รับรู้หรอกว่าใครเป็นใคร ใครมีความฟอนแฟะเน่าเหม็นขนาดไหน ใครที่มันแฝงอยู่ในสังฆมณฑลและย่ำยีทำลายพระธรรมวินัยอย่างไร แต่พอพวกเรานำเอาหลักฐานให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองตรวจสอบ ผลก็ออกมาอย่างที่สังคมรับรู้นี่ไง การที่พวกเรานำเอาหลักฐานความผิดของพวกอลัชชีที่ทำให้หมู่สงฆ์เสื่อมเสีย ไปให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจัดการกำจัดให้ออกไปจากสังคมสงฆ์ และขอบอกว่า รัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐ เขาไม่ได้ปัญญาอ่อนที่จะรับเรื่องเอาไว้ทุกเรื่องโดยไม่มีข้อมูลความจริง มิเช่นนั้นคนที่ไปร้องทุกข์กล่าวเท็จ ก็จะถูกข้อหาแจ้งความเท็จกันเอง แล้วเฮียจะเดือดร้อนอะไร หยุดสันดานแถกแถ ทำให้สังฆมณฑลและสังคมเข้าใจผิด คิดผิด เห็นผิด เสียทีเถิด

 

"ที่เฮียบอกว่าพวกเราก้าวร้าวล่วงเกินคณะสงฆ์ ถามเฮียว่า ผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยนี่เขาเรียกว่าคณะสงฆ์ด้วยหรือ หรือเฮียกำลังพยายามดึงเอาคณะสงฆ์ให้มาตกต่ำ มาเป็นผู้ต้องหา เป็นผู้ต้องสงสัยร่วมด้วย คงคิดว่าวิธีพวกมากลากกันมานี่จะสามารถปกป้องอลัชชีได้ล่ะซิท่า อยากบอกว่าถ้าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย ที่รัฐบาลต้องอาศัยพวกมากจึงลากมามีอำนาจ วิธีที่พวกเฮียใช้พวกมากอาจสามารถกลบเกลื่อนหรือปลดปล่อยให้อลัชชีชั่วลอยนวลได้ดังเช่นในยุคปี 42 เพราะอาศัยพวกมากลากกันออกมาปกป้อง ธัมมชโย มันถึงได้รอดลอยนวล สร้างความเสียหายให้แก่พระธรรมวินัยมาจนถึงวันนี้ หน้ำซ้ำยังสร้างเครือข่ายอลัชชีเพิ่มพูนมากขึ้น อย่างเช่นพวกเฮียนี่ไงล่ะ และเฮียกำลังพยายามรับใช้อลัชชีชั่วพวกนี้อยู่แบบชนิดถวายชีวิตเลยล่ะเฮีย" พระพุทธะอิสระ ระบุ

 

 

ส่วนกรณีที่ระบุว่าไม่ถวายเกียรติกับประมุขสงฆ์นั้น พระพุทธะอิสระ ระบุว่า ก็ประมุขสงฆ์ของเฮียดันกลายเป็นผู้ต้องสงสัย และถ้าหากไม่ไปให้ปากคำ คงจะกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีครอบครองรถเถื่อนนะเฮีย อย่างนี้แล้วจะมาบังคับให้สังคมเขาพินอบพิเทา กราบกรานให้เกียรติกับว่าที่ผู้ต้องหากระนั้นหรือ ถามเฮียจริงเถิด ความเคารพยอมรับ ให้เกียรติ นี่มันถึงกับต้องบังคับกันด้วยหรือ แล้วที่เฮียขู่ว่า เหตุการณ์ทั้งปวงจะบานปลายออกไปทั้งที่ควรจะยุติได้ คำว่าทั้งที่ควรจะยุติได้ของเฮียนั้นหมายถึงอะไร คงไม่หมายถึง หยวนๆ ยอมๆ คดีความก็ถอนฟ้องกันไปเพื่อความสงบปรองดองหรอกนะ อย่าเชียวนะเฮีย อย่าแม้แต่จะคิด เพราะไอ้คำว่า หยวนๆ ยอมๆ เพื่อความปรองดองนี่แหละ ที่นายทักษิณมีจดหมายน้อยส่งให้มหาเถร ส่งให้กรมศาสนา สั่งให้อัยการอ้างความปรองดอง เลยถอนฟ้องอลัชชีปาราชิกธัมมชโยในปี 42-45 ไง

 

"หากคำว่าควรยุติได้ของเฮียหมายถึงอย่างนี้ เฮียไม่ต้องขู่พวกเราหรอก พวกเรานี่แหละจะบอกเฮียว่า หน้าสำนักพุทธและที่ประชุมมหาเถร จะเต็มไปด้วยผู้คนและนักบวชไปทวงถามว่า จะรักษาพระธรรมวินัย หรือจะรักษาอลัชชีปาราชิก เฮียนี่มันสมองกลวงเกินเยียวยาจริงๆ พูดออกมาได้ว่าพวกคนกลุ่มนี้มีพี่เลี้ยงดีหนุนหลัง ใครว่ามา พูดให้ชัดๆ อย่ามาสร้างวาทกรรม ยุให้รำ ตำให้รั่ว ทำตัวเป็นพวกไอ้ไขลู และที่บอกว่าเราสร้างเรื่องโดยไม่คำนึงถือความถูกต้อง ความผิด ไม่รู้จักกาลเทศะ อันนี้หมายถึงตัวเฮียเองใช่ไหม ไหนๆ เฮียก็กล่าวหาว่าพวกเราสร้างเรื่อง เดี๋ยวสัปดาห์หน้าจะไปหาเรื่องให้เฮียอีกซักที เฮียเตรียมตัวรอฟังก็แล้วกันว่าจะเป็นเรื่องอะไร อดใจรอนะเฮีย" พระพุทธอิสระ ระบุทิ้งท้าย