- 27 ส.ค. 2559
พิสูจน์อีคิว ม.ล.ปลื้ม ชื่นชม โซรอสอุดหนุนประชาไท ประเทศไทยเสี่ยงอะไร
เรียกว่าเป็นข่าวแฉระดับโลกกันเลยทีเดียวหลังจากสื่อต่างประเทศ ต่างพร้อมใจกันออกมาแฉเว็ปไซต์ประชาไท ซึ่งเป็นสื่อที่มีการนำเสนอข้อมูลความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง พร้อมทั้งเรียกร้องเรื่องสิทธิมนุษยชน จากรัฐบาลคสช.มาโดยตลอด
ที่ผ่านมามีการตั้งคำถามถึงประชาไทว่า ทำหน้าที่ของสื่อ โดยยึดหลักตามสิทธิมนุษยชน เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ตามหลักการของประชาธิปไตยเพียงเท่านั้น หรือว่าแท้ที่จริงแล้วเรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ว่าอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือของฝ่ายตรงกันข้ามรัฐบาลเพื่อเล่นงานคสช.โดยมีกระบวนการเชื่อมต่ออย่างเป็นระบบกับองค์กรสากลหรือไม่
เฟซบุ๊ก ของนายเทพชัย หย่อง บรรณาธิการเครือเนชั่น และนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ระบุข้อความว่า เว็บไซต์ข่าว “ประชาไท”
ยอมรับว่า รับเงินสนับสนุนจากมูลนิธิของ “จอร์จ โซรอส” พ่อมดการเงิน ผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีค่าเงินบาทในปี 2540 จนเกิด “วิกฤตต้มยำกุ้ง”
ขณะที่นางสาวจีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการประชาไท เปิดเผยกับ “เนชั่น” ว่า ประชาไทรับเงินสนับสนุนปีละ 1.7 ล้านบาท จาก Open Society Foundation ของโซรอส ตั้งแต่ปี 2548 โซรอสตั้งมูลนิธิแห่งนี้เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มเอ็นจีโอทั่วโลก
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา หลังจากฐานข้อมูลของมูลนิธิถูกแฮกโดยเว็บไซต์ DCLeaks ซึ่งพยายามเปิดโปงเบื้องหลังของโซรอสที่ใช้เงินช่วยเหลือที่ให้กับกลุ่มเอ็นจีโอแทรกแซงกิจการภายในของประเทศต่าง ๆ
New Atlas เว็บไซต์ข่าวภาษาอังกฤษ ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ เปิดแผยว่า เอ็นจีโอส่วนใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล โดยเฉพาะเอ็นจีโอที่ต่อต้าน คสช. รับเงินจากมูลนิธิของโซรอส ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรทางการเงิน เพราะบทบาทในการเก็งกำไรค่าเงิน
แม้กระทั่งสื่ออย่าง “มติชนออนไลน์” รายงานก่อนหน้านี้ ว่า เว็บไซต์ข่าวประชาไทมีบทบาทโดดเด่นอย่างมากในช่วงการชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี 2553 จนถูกบางฝ่ายกล่าวหาว่าเป็น “สื่อเสื้อแดง” จีรนุช ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุก แต่ให้รอลงอาญา เมื่อปลายปีที่แล้ว ในข้อหายินยอมให้มีข้อมูลหมิ่นสถาบันฯ ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ประชาไท
ทั้งนี้ จีรนุช เปิดเผยว่า นอกจากมูลนิธิของโซรอสแล้ว ประชาไทยังรับเงินสนับสนุนจากแหล่งอื่น ๆ ถึงแม้จะมีข้อกล่าวหาต่อโซรอสมากมาย แต่จีรนุชอ้างว่าไม่รู้จักโซรอสดีพอที่จะตัดสินว่าเขาเป็นคนอย่างไร “บางคนก็บอกว่าเขาเป็นคนเก่งและเป็นคนดี แต่บางคนก็บอกว่าเขาทำให้เกิดวิกฤตการเงิน...”
นายโซรอสผู้ก่อตั้งองค์กรโอเพน โซไซตี้ ขึ้นในปี 1993 เคยถูกศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป(European Court of Human Rights) พิพากษาว่ามีความผิดในการล่วงรู้ข้อมูลก่อนลงทุนซื้อหุ้น ( insider trading) ในปี 2002
สำหรับองค์กร 4 แห่งในประเทศไทย ที่รับเงินจากโซรอสประกอบด้วย Prachatai, Thai Netizen Network, the Cross Cultural Foundation และสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศในไทย (the Foreign Correspondents' Club of Thailand =FCCT) ที่ถูกระบุว่ารับเงินจากโอเพน โซไซตี้หรือติดต่อโดยตรงกับมูลนิธิฯ
แน่นอนว่าข้อมูลที่ปรากฏออกมานั้น ทำให้ภาพของสื่ออย่างประชาไท และองค์กรที่เคลื่อนไหวอ้างสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย เพื่อกดดันคสช. ดูจะขาดความชิบธรรมลงไปไปไม่น้อย
เพราะท้ายที่สุดการรับเงินอุดหนุนจากพ่อมดการเงินซึ่งมีภาพลักษณ์ด้านลบทางด้านการเงินและถูกระบุว่าคอยชักใยอยู่เบื้องหลังมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ก็จะต้องถูกตั้งข้อสังเกตว่า ความจริงเป็นการรับเงินมาเพื่อภารกิจรับใช้ โจมตีคสช.ใช่หรือไม่
แต่ทว่าข้อมูลที่ปรากฏดังกล่าว กลับถูกสวนกระแสหรือตอบโต้แบบทันควัน โดยม.ล. ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ที่มองว่าการที่จอร์จ โซรอส เข้ามาสนับสนุนทางการเงินในครั้งนี้ถือเป็นคุณูปการให้กับฝ่ายประชาธิปไตยด้วยซ้ำ
ม.ล. ณัฏฐกรณ์ หรือหม่อมหลวงปลื้มระบุว่า "จอร์จ โซรอส" เขาเป็นนักค้าเงินที่มีจิตกุศล บริจาคเงินให้มูลนิธิและองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง เขามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนขบวนการสร้างประชาธิปไตย
เขาเป็นคนสำคัญที่สนับสนุน NGOs ด้านสิทธิมนุษยชนใน
สหรัฐอเมริกา และเป็นผู้ร่วมรณรงค์ให้สื่อทำงานอย่างโปร่งใสมากขึ้น อยากให้สื่อสตาร์ทอัพใหม่ในไทยของบจากโซรอสให้เต็มที่เพื่อเสริมพลังฝ่ายประชาธิปไตยในบ้านเรา
การออกมาแสดงทรรศนะดังกล่าวของหม่อมหลวงปลื้มกำลังถูกจับตามองอีกครั้งว่าจะมีปฏิกิริยาตอบโต้หรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้หม่อมหลวงปลื้ม เคยออกมาแสดงความคิดเห็นคดีทุจริต อสมท.ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา จนถูกพ่อของตัวเองตำหนิ และขอโทษสังคมแทนความคิดของลูกชายมาแล้ว
หม่อมหลวงปลื้มระบุว่า ปัญหากรณีนายสรยุทธเกิดขึ้นเพราะความคลั่งของ ป.ป.ช. ที่จะเชือดไก่ให้ลิงดู อยากได้คนดังคนเด่นที่เป็นสื่อที่ร่ำรวยมาถูกสังเวยต่อหน้าสาธารณชน ให้เห็นว่าคนที่เก่ง และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานก็เป็นคนโกงได้เหมือนกัน ต้องโชว์ให้เห็นว่าพร้อมลงโทษขั้นเด็ดขาด
หม่อมหลวงปลื้มระบุอีกด้วยว่า เราเป็นสังคมที่ไม่เรียนรู้ที่จะเชิดชูบุคคลที่ประสบความสำเร็จ โดยที่พยายามสร้างมายาภาพให้เห็นว่าคนพวกนี้ขาดจริยธรรม ความพยายามที่จะผูกขาดจริยธรรม นี้คือหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ประเทศนี้ไม่พัฒนา อสมท เสียหายมากเลยหรือ ทั้ง ๆ ที่ค่าโฆษณาในที่สุดก็ได้ครบถ้วนทุกบาททุกสตางค์ คุณสรยุทธไม่ได้โกงค่าโฆษณา...เขาจ่ายไม่ครบตอนเเรก เเต่หลังจากนั้นเขาจ่ายครบ”
ต่อมาหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล พ่อของหม่อมหลวงปลื้ม ก็ได้ออกมาพูดถึงลูกชายว่า เสียใจ ที่ลูกผมไม่ดูเรื่องอะไรให้ละเอียด เป็นเหยื่อข้อมูลง่ายๆ และด่วนสรุป และเขาไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของจริยธรรม
การที่คนที่ถูกศาลตัดสินจำคุกในความผิดที่เป็นเรื่องจริยธรรม ไม่ควรจะปล่อยให้ลอยหน้าลอยตาอยู่ในทีวีต่อไป เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าคนที่บกพร่องในจริยธรรมอยู่ในทีวีเป็นผู้นำความเห็นได้ ประชาชนกับเด็กรุ่นใหม่จะคิดอย่างไร เขาก็จะคิดว่าผิดจริยธรรมไม่เป็นไร ประเทศมันก็อยู่ไม่ได้
หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธรกล่าวอีกด้วยว่า อายุก็ 40 ปีแล้ว ผมก็สอนมาตั้งแต่เด็ก พยายามเต็มที่จริงๆ แล้วก็เป็นอุทาหรณ์ ส่งลูกไปเรียนเมืองนอกตะวันตกเร็วไป ไปเรียนตั้งแต่ 12 ขวบ ช่วงอายุ 13 - 19 ปี เป็นช่วงซึมซับทัศนคติแบบเมืองนอก ซึ่งผมรู้สึกว่าทางตะวันตกปัจจุบันเขาให้คุณค่าเรื่องจริยธรรมน้อยลงไปกว่าสมัยก่อน และไม่หนักแน่นเหมือนเมืองไทย เมืองไทยของเรายังรักดูแลจริยธรรมอยู่ ก็จะพยายามตามที่จะแก้ได้ ไม่รู้จะอย่างไรแล้ว"
กล่าวแบบสรุปๆก็คือหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร ได้พูดถึงข้อเสียของลูกชายตัวเองว่าเป็นคนขาดแคลนอีคิว และเมื่อได้ข้อมูลอะไรมาก็ตาม มักจะด่วนสรุป ไม่คิดให้รอบคอบ เพราะฉะนั้นกรณีที่หม่อมหลวงปลื้ม ออกมาแสดงทรรศนะเกี่ยวกับจอร์จ โซรอส จะเป็นการคิดตื้นหรือด่วนสรุปหรือไม่
เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับกรณีที่จอร์จ โซรอส ออกมาสนับสนุนเงินทุนให้กับประชาไทยและองค์กรทางด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยนั้น จัดว่าเป็นชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตย ตามที่หม่อมหลวงปลื้มว่าเอาไว้หรือไม่
หรือจะเป็นความเสี่ยงของประเทศไทยเหมือนกับเมื่อครั้งวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 อันเกิดขึ้นมาจากฝีมือของจอร์จ โซรอส จนสร้างหายนะให้กับประเทศชาติ ชนิดไม่สามารถประเมิณค่าได้เลย
จอร์จ โซรอส เดิมชื่อ จอร์จี ชวาร์ตซ์ (ฮังการี: György Schwartz) นักธุรกิจชาวอเมริกันเชื้อสายฮังการี เป็นนักวิเคราะห์ค่าเงิน นักลงทุนหุ้น ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานบริษัท Soros Fund Management และสถาบัน Open Society Institute
นิตยสาร ฟอร์บส์ ได้จัดให้ จอร์จ โซรอส อยู่ในอันดับที่ 35ของบุคคลที่รวยที่สุดในโลก มีทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาได้บริจาคเงิน 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อการกุศลตั้งแต่ ค.ศ. 1979 เป็นต้นมา
โซรอสเคยเป็นสมาชิกในคณะกรรมการของ Council on Foreign Relations และยังเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้ง Center for American Progress ปัจจุบันจอร์จ โซรอส ก็ยังคงมีตัวแทนในคณะกรรมการอยู่ แม้ว่าตัวเขาเองจะคิดว่าเป็นการกล่าวชมยกยอกันมากเกินไป แต่ชาวรัสเซียและชาวตะวันตกก็มองว่าการสนับสนุนทางการเงินและการจัดการของเขา เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ Georgia’s Rose ประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา
อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้เขียนถึงจอร์จ โซรอส หลังจากที่เขาออกหนังสือ The Alchemy of Finance เมื่อปี ค.ศ. 2003 ว่า จอร์จ โซรอส ได้สร้างความโดดเด่นในด้านที่เขาเป็นผู้วิเคราะห์มาก โซรอสนับได้ว่าเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล และเป็นที่รู้กันในความฉลาดหลักแหลมของเขา เพราะโซรอสจะถอนตัวเมื่อยังอยู่ในจุดที่มีความได้เปรียบ การกระทำของโซรอสได้เพิ่มแรงกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายประเทศให้กลายเป็นประเทศที่สนับสนุนสังคมเปิด
นอกจากโซรอสจะส่งเสริมเสรีทางการค้าแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือการที่ปรับให้ประชาชนเปิดรับความคิดใหม่ๆ ให้ประชนของประเทศนั้นๆ ยอมรับฟังแนวคิดและการกระทำที่แตกต่างออกไป
นอกจากข้อมูลที่ปรากฎออกมาล่าสุดตามที่รายงานไปนั้นย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 ในเฟซบุ๊คที่มีชื่อว่า Thanong Fanclub ได้วิเคราะห์พร้อมกับแฉพฤติกรรมทางด้านการเงินของจอร์จ โซรอสเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า
หลังจากที่ตลาดหุ้นจีนโดนถล่มในช่วงที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์Financial Newsของจีนระบุว่า Morgan Stanley และพวกกองทุนฝรั่งเป็นตัวจุดปะทุการทุบหุ้นจีน อาจารย์มหาวิทยาลัยจีน5คนลงนามร่วมในจดหมาย กล่าวหาว่าพลังตลาดที่ชั่วร้ายกำลังทำลายตลาดหุ้นจีน โดยเรียกร้องให้ทางการจีนตรวจสอบผู้ที่อยู่เบื้องหลังการดั๊มหุ้นจีนอย่างรุนแรง รวมทั้งให้เก็บภาษีแสตมป์กับพวกที่ขายหุ้นหนักๆ มีการเปรียบเทียบการถล่มตลาดหุ้นจีนเหมือนกับที่นายโซรอสเคยถล่มค่าเงินบาทและเงินเอเซียในวิกฤติต้มยำกุ้งในปี1997
เรื่องเลวร้ายต่างๆในโลก นายโซโรสอยู่เบื้องหลังทั้งนั้นเพราะว่าเขาเป็นตัวแทนของพวกนายแบงค์ (international bankers)ที่คุมWall Street ที่ฮั้วกันปั่นและทุบตลาดการเงินทั่วโลกเป็นเวลายาวนาน โดยที่รัฐบาลประเทศต่างๆยอมเล่นเกมWall Street เพราะว่าผู้เล่นรายใหญ่ที่ติดต่อสัมพันธ์กับแก๊งWall Streetได้ประโยชน์ ส่วนแมงเม่าเหมือนคนติดการพนันต้องเข้าบ่อน แม้รู้ว่าจะเสียเงิน แต่ก็อยากจะเล่น อยากจะเสี่ยงโชค เมื่อเปิดตลาดเงินตลาดทุนให้Wall Streetก็ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของนายโซรอสโดยปริยายที่ใช้อำนาจเหนื่อระบบการเงินเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน เศรษฐกิจและที่สำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ของพวกนายแบงค์ระหว่างประเทศที่คอยชักใยให้โลกป่วน
วิกฤติยูเครนมีรอยนิ้วมือของนายโซรอสชัดเจนว่า เขาก็เป็นคนก่อเพื่อยั่วยุให้รัสเซียก่อสงคราม รัฐบาลยูเครนภายใต้การนำของนายPetro Porochenko เป็นเพียงหุ้นกระบอกให้เขาชักเล่น มีคนแฮ๊คอีเมล์ของผู้นำยูเครน และพบจดหมายโต้ตอบระหว่างนายโซรอสและPorochenkoในลักษณะการเสนอแนะระหว่างนายกับบ่าวแบบสุภาพ
นายโซรอสยกหูโทรศัพท์คุยกับรัฐมนตรีคลังสหรัฐ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ รวมทั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องพูดถึงผู้นำในยุโรป เขาเป็นผู้ไฟแนนซ์ให้พรรคเดโมแครทเป็นหลัก และเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินให้คลินตันและโอบามาให้เป็นประธานาธิบดี นางฮิลลารี่ คลินตันก็เป็นเด็กของโซรอส
ไอซิสก็น่าจะเป็นฝีมือของนายโซรอสที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ไอซิสเป็นโนมินีไปล้มรัฐบาลซีเรียและอิรัค เพื่อกรุยทางให้สหรัฐกลับเข้าไปทำสงครามในตะวันออกกลาง โดยที่อิสราเอลนั่งกระดิกเท้าได้ประโยชน์
ย้อนกลับมาเรื่องหุ้นจีนที่โดนWall Streetปั่นแล้วก็ถล่ม แม้ทางการจีนจะมีกฎระเบียบเคร่งครัดจำกัดการลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นจีน เพราะจีนรู้ดีว่าเปิดการเงินให้Wall Streetเมื่อใด เกมก็จะอยู่ในมือWall Street ส่วนประเทศไทยไม่ต้องพูด ระดับวางนโยบายประเทศจากบนลงล่างยอมยกระบบการเงินให้Wall Streetไปตั้งนานแล้วเพื่อแลกกับเศษดอลล่าร์
แต่มิวายที่ Wall Streetจะแทรกซึมเข้าไปในจีนได้ ผ่านshaldow banking หรือระบบธนาคารเงาที่มีการตั้งบริษัทกระดาษขึ้นมาเพื่อระดมเงินและเอาไปปล่อยให้บริษัทจีน หรือรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อการลงทุนที่เกินตัว หรือเกินเพดานที่แบงค์ปล่อยกู้ได้ เพราะว่าทางการจีนมีกฎระเบียบจำกัดอยู่ อย่างว่าก็ต้องมีคนจีนที่ทั้งโลภและหลงให้ความร่วมมือ ทำให้ระบบธนาคารเงาของจีนโตถึง$20ล้านล้าน เอาไปไฟแนนซ์อสังหาฯรวมทั้งตลาดหุ้น ในส่วนนี้เป็นเงินดอลล่าร์ของWall Streetที่เล็ดลอดเข้าไปมาก
อาชีพหลักของ Wall Streetคือปล่อยเครดิตให้ประเทศที่เป็นเหยื่อให้เป็นฟองสบู่ แล้วก็มีทีมพีอาร์คอยเขียนเชียร์หุ้น เชียร์เศรษฐกิจของเหยื่อสร้างสะตอรี่โอกาสและอนาคตที่สวยหรู วันดีคืนดี Wall Street จะตระโกนบอกว่าไฟกำลังไหม้ ตลาดเป็นฟองสบู่แล้ว ให้รีบถอนการลงทุน เท่านั้นเอง Wall Streetก็ชักเงินกลับ พวกนักลงทุนแมงเม่าอื่นๆ หนีออกประตูเดียวไม่ทัน เหยียบกันตายหน้าประตู ประเทศที่ตกเป็นเหยื่อเครดิตหรือการปั่นฟองสบู่จะพินาศพังทะลาย แล้วWall Street กลับเข้ามาช๊อปปิ๊งของถูก ยึดกิจการสำคัญๆเข้าไปในพอร์ต แล้วเล่นเกมปั่นฟองสบู่รอบใหม่ที่อาจจะใช้เวลา7ปี 10ปีหรือ 20ปีแล้วแต่วงโคจร แต่เหยื่อจะไม่เข็ดเพราะว่าผู้บริหารประเทศและพวกนักการเงินอาชีพได้ประโยชน์เข้าก่อนออกก่อน
ช่วงกลางเดือนมิถุนายน กองทุนฝรั่งนำโดยแก๊งWall Streetดั๊มขายหุ้นจีน$7,000ล้านในสัปดาห์เดียว เท่านั้นเองก็ทำให้ตลาดหุ้นจีนที่ถูกปั่นให้เป็นฟองสบู่150%ในช่วงหนึ่งปีกว่าๆที่ผ่านมามีรอยร้าว หลังจากนั้นพวกนักลงทุนอื่นๆพากันเทขาย พวกแมงเม่าออกไม่ทันตายกันเป็นแถวเพราะว่าเล่นมาร์จิ้นกันเกือบทั้งนั้น คือกู้เงินมาเล่นหุ้น พอหุ้นตก30%ภายในช่วงเวลาแค่3สัปดาห์ ทำให้มูลค่ารวมของตลาดหายไป$3.7ล้านล้าน พวกแมงเม่าโดนบังคับขายพอร์ตการลงทุน และต้องหาเงินมาใช้หนี้ในส่วนที่ขาดทุน
โซรอสต้องทำลายระบบการเงินและเศรษฐกิจจีนให้อ่อนแอก่อน ก่อนที่สหรัฐจะหาเรื่องในทะเลจีนใต้เพื่อก่อสงครามกับจีนเพื่อสกัดไม่ให้จีนผงาดทางการจีนไม่โง่รู้ตัวว่าพลาดไปแล้ว แต่ยังกลับตัวทัน คือหยุดการซื้อขายของบริษัทจดทะเบียน1,400กว่าแห่งเพื่อไม้ให้โดนแรงขาย ให้โปลิสไปดูว่าใครทำซอร์ตเซลล์หรือขายหุ้นล่วงหน้าโดยไม่มีหุ้นในมือ แต่ที่สำคัญที่สุด คือมาตรการห้ามผู้ถือหุ้นเกิน5%บริษัทขายหุ้นออกไป พวกที่ไม่รู้เรื่องจะด่าหรือโจมตีจีนว่าไม่เล่นตามกลไกตลาด ทั้งๆที่Wall Street ไม่เคยเล่นตามกลไกตลาด เพราะว่าตัวเองเป็นกลไกเสียเอง อยากทำอะไรก็ทำตามใจชอบ
เล่นมาตรการห้ามขายนี้ ทำให้จอร์จ โซรอสและกองทุนฝรั่งถึงกับกระอักเลือด เพราะว่ากองทุนฝรั่งหมุนไปตลาดต่างๆทั่วโลก พอจีนบล๊อคไม่ให้ขาย กองทุนฝรั่งก็ติดในหุ้นจีน ขายออกมาไม่ได้ ตัวเองก็เล่นมาร์จิ้น ทำให้หมุนเงินหมุนพอร์ตไม่ได้ รอวันตาย ส่วนจีนจัดตั้งกองทุน$500,000ล้านเตรียมช้อนซื้อของถูก เวลาปลดล๊อคห้ามเทรดหุ้นแล้ว พวกกองทุนฝรั่งจะรีบคายหุ้นออกมา กลายเป็นอ้อยเข้าปากช้าง
สิ่งที่จีนทำเหมือนกับที่นายกมาเลย์ที่สั่งบล๊อคตลาดแลกเปลี่ยนเพื่อป้องกันการโจมตีเงินริงกิตโดยนายโซรอสและพวกเฮดจ์ฟันด์ แต่ไทยเล่นตามกลไกตลาดจนนาทีสุดท้าย จึงกลายเป็น ต้มยำกุ้งต้องเข้าโปรแกรมไอเอ็มเอ็ฟ
ได้ข่าวนายโซรอส โดนรัสเซียแบนไม่ให้เข้าประเทศเพราะว่ามีส่วนถล่มเงินรูเบิ้ล และก่อวิกฤติยูเครนให้ร้ายรัสเซียวิชามารนี้ทางผู้บริหารการเงินประเทศไทยต้องเตรียมตัวงัดออกมาใช้ ต้องเรียนรู้จากจีนว่าเล่นตีโต้กลับอย่างไร เพราะว่าอีกไม่นาน พ่อมดโซรอสจะมาเยือนไทยอีกครั้ง
พิจารณาจากบทวิเคราะห์ที่มีการอ้างอิงข้อมูลทางด้านสถานการณ์เอาไว้อย่างละเอียด ก่อนที่ท้ายสุดจะมีการเตือนมาถึงประเทศไทยอีกครั้งว่าต้องเตรียมการรับมือถ้าหากไม่อยากซ้ำรอยเหมือนวิกฤตต้มยำกุ้ง
อีกทั้งการที่โซรอสอยู่เบื้องหลังสนับสนุนทางการเงินเว็ปไซต์ประชาไทและองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนต่างๆในประเทศไทย ก็ต้องจับตามองเช่นเดียวกันว่ามีเป้าประสงค์อะไรแอบแฝงหรือไม่






