ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" สมเด็จรูปใหม่ในรัชกาลที่10 "พระพรหมคุณาภรณ์" พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่

 

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ อาจารย์ นอกจากจะเป็นพระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมแล้ว...ยังเป็นผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...ครบถ้วนคำว่า พระ ผู้ประเสริฐ , มุนี ผู้รู้ ,บรรพชิต ผู้ละเว้นความชั่ว , สมณะ ผู้สงบ , ภิกษุ ผู้เห็นภัยในวัฏฏะ
ขอถวายความเคารพ ความยินดี และกำลังใจ แด่พระผู้รู้และปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป.ธ.๙ ( ป.อ. ปยุตฺโต ) วัดญาณเวศกวัน อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

และในวันนี้ (9มี.ค.) ราชกิจจาฯ  ได้มีประกาศ สถานปนา พระพรหมคุณาภรณ์ ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชาคณะ มีราชทินนามตามที่จารึก ในสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณอดุลสุนทรนายก ปาพจนดิลกวรานุศาสน์ อารยางกูรพิลาสนามานุกรม คัมภีรญาณอุดมวิศิษฏ์ ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี สถิต ณ วัดญาณเวศกวัน จังหวัดนครปฐม

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

กุฏิ ของ พระพรหมคุณาภรณ์

 

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

 

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตโต) นามเดิม ประยุทธ์ นามสกุล อารยางกูร เป็นบุตรคนที่ ๕ ของนายสำราญ และนางชุนกี อารยางกูร เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๔๘๑ ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๗ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีขาล ที่ตลาดใต้ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี

 

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

ครอบครัวอารยางกูร

 

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 13 ปี เมื่อ 10 พฤษภาคม 2494โดยมีหลวงพ่อวัดบ้านกร่าง พระครูเมธีธรรมสาร เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งตลอด 1 ปีที่วัดบ้านกร่าง นอกเหนือจากการมุมานะเรียนนักธรรมตรีแล้ว สามเณรประยุทธ์ยังให้ความสนใจในการอ่าน โดยค้นเอาเอกสารเก่าๆ สมุดข่อยโบราณ หนังสือธรรมมะ ตลอดจนแบบเรียนภาษาอังกฤษและสารคดีความรู้ต่างๆ  และจากการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ใส่ตัวเองเสมอ ทำให้สามเณรประยุทธ์สามารถสอบนักธรรมตรีในปีแรกที่บวชเรียนได้

จากนั้นก็ได้ไปเรียนนักธรรมโทและบาลี ณ สำนักเรียนวัดปราสาททอง กับหลวงพ่อพระวิกรมมุนี เจ้าอาวาส และเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี

 

จากนั้นสามเณรประยุทธ์จึงไปสอบนักธรรมโท พร้อมกับเดินทางเข้ามาศึกษาบาลีต่อที่กรุงเทพมหานครอีกครั้ง โดยมาพำนักที่วัดพระพิเรนทร์ในปีแรกที่มาพำนักอยู่ที่วัดพระพิเรนทร์อีกครั้งของสามเณรประยุทธ์ ก็สอบธรรมเอกได้ สำหรับบาลีนั้นสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค เมื่อ พ.ศ. 2498

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)


เริ่มการศึกษาเบื้องต้น เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๗ ที่โรงเรียนอนุบาลครูเฉลียว ตลาดศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี 

พ.ศ. ๒๔๘๘-๒๔๙๐ ระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนประชาบาลชัยศรีประชาราษฎร์ (วัดยาง) จังหวัดสุพรรณบุรี 

พ.ศ. ๒๔๙๐-๒๔๙๓ ศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๓ ที่โรงเรียนมัธยมวัดปทุมคงคา กรุงเทพมหานคร ได้รับทุนเรียนดีของ กระทรวงศึกษาธิการ 

บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ ที่วัดบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่ออายุย่าง ๑๓ ปี เริ่มเรียนพระปริยัติธรรม ณ วัดนั้น 

พ.ศ. ๒๔๙๕ ย้ายไปอยู่ที่วัดปราสาททอง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม และได้เข้าฝึกวิปัสสนา เมื่อจบการฝึกแล้ว พระอาจารย์ผู้นำการปฏิบัติได้ชวนไปอยู่ประจำในสำนักวิปัสสนา แต่โยมบิดาไม่ยินยอม เพราะเห็นว่าสามเณรบุตรชาย ควรได้ศึกษาปริยัติธรรมขั้นสูงต่อไป 

พ.ศ. ๒๔๙๖ ย้ายมาจำพรรษาที่วัดพระพิเรนทร์ กรุงเทพมหานคร เรียนพระปริยัติธรรมจนสอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค ขณะยังเป็นสามเณร นับเป็นสามเณรรูปที่ ๔ ในสมัยรัตนโกสินทร์ จึงได้รับพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ให้อุปสมบทในฐานะนาคหลวง เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ได้นามฉายาว่า "ปยุตฺโต" แปลว่า "ผู้เพียรประกอบแล้ว"

พ.ศ. ๒๕๐๕ สำเร็จการศึกษาปริญญาพุทธศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ ๑) จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และสอบได้ วิชาชุดครู พ.ม. ในปี พ.ศ. ๒๕๐๖

หลังจากสำเร็จการศึกษาเป็นอาจารย์ในมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นผู้ช่วยเลขาธิการและต่อมาเป็นรองเลขาธิการ จนถึง พ.ศ. ๒๕๑๗ และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๕ ถึง พ.ศ. ๒๕๑๙

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

 

ต้นปี พ.ศ. 2504 แม่กองบาลีสนามหลวงได้ประกาศรายชื่อพระภิกษุสามเณรผู้สอบได้เปรียญธรรม  9  ประโยค จำนวน 11 รูป ปรากฏว่า สามเณรประยุทธ์ อารยางกูร วัดพระพิเรนทร์ สอบได้ลำดับที่  6  ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียงสามเณร 3 รูปเท่านั้นที่สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค

 

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

 

หลังจากที่สามเณรประยุทธ์ สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ รับสามเณรประยุทธ์ อารยางกูร เป็นนาคหลวง อุปสมบทเมื่อวันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2504 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (กิตติโสภณมหาเถร) วัดเบญจมบพิตร ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายานามว่า ปยุตฺโต มีความหมายว่า ผู้เพียรประกอบแล้ว

ต่อมา พระมหาประยุทธ์ ปยุตฺโต ก็ตัดสินใจสอบเข้าศึกษาต่อในมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ควบคู่ไปกับการเรียนบาลี ซึ่งหันมาใช้วิธีอ่านและเรียนรู้ด้วยตนเอง เพราะไม่มีเวลาไปเรียนในชั้นเรียนปกติ และในการศึกษาวิชาสามัญของมหาวิทยาลัยสงฆ์ ปรากฏว่าท่านก็มีผลการเรียนดีเยี่ยม จวบจบปริญญาตรีพุทธศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 ในปี 2504 และได้บรรจุเป็นอาจารย์ประจำในแผนกเตรียมพุทธศาสตร์ พร้อมกันนี้ยังเป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ โดยเป็นกำลังหลักในการปรับปรุงหลักสูตร ซึ่งยังใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้

พระพรหมคุณาภรณ์ เป็นพระนักวิชาการนักคิดนักเขียนผลงานทางพระพุทธศาสนารุ่นใหม่ มีผลงานทางวิชาการพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก ผลงานของท่านที่เป็นที่รู้จัก เช่น พุทธธรรม เป็นต้น ท่านได้รับการยกย่องจากทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก ด้วยผลงานของท่านทำให้ท่านได้รับรางวัลและดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากหลายสถาบันทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ท่านเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลการศึกษาเพื่อสันติภาพ จากองค์การยูเนสโก (UNESCO Prize for Peace Education)

 

นอกจากนี้ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ที่ท่านได้รับรวมมีมากกว่า 15 สถาบัน ซึ่งนับว่าท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ไทยที่ได้รับการยกย่องให้ได้รับดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์มากที่สุดในปัจจุบัน และในปี พ.ศ. 2549 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นราชบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ปัจจุบันพระพรหมคุณาภรณ์ดำรงตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์พิเศษ ประจำมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และจำพรรษาอยู่ที่วัดญาณเวศกวัน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

 

 

ด้านวัตรปฏิบัตินั้น ท่านเจ้าคุณฯ ก็ไม่เคยรบกวนผู้อื่นเลย ทุกวันนี้ท่านยังซักเครื่องอัฐบริขารของท่านเองอยู่ แม้ในช่วงหลังจะมีพระบางรูปช่วยเหลือท่านที่กุฏิ ด้วยเป็นห่วงสุขภาพและวัยที่เพิ่มขึ้น แต่ท่านมักจะบอกกับพระรูปนั้นอยู่เสมอว่า "ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมทำเองได้"

อย่างเวลาฉันท่านจะมีแค่ปิ่นโตเถาเล็กๆ ไม่มีการจัดสำรับหรูหรา เพราะท่านไม่อยากให้ญาติโยมลำบาก อีกทั้งท่านเจ้าคุณฯ ยังห่มจีวรสีสดที่ตัดเย็บจากผ้าธรรมดาทั่วๆ ไป สวมรองเท้าแตะยาง

และเป็นที่รู้กันในหมู่ผู้ใกล้ชิดว่าในกุฏิของท่านจะไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ เลย จะมีก็แต่เพียงวิทยุ ที่ท่านใช้เปิดฟังข่าวสาร เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เสริมบางตัวที่สำคัญกับการทำงานเผยแพร่ของท่าน หรือหากมีสิ่งของใดๆ เสีย ท่านก็จะลงมือซ่อมแซมเอง ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา วิทยุ เครื่องถ่ายเอกสาร ฯลฯ จึงเป็นที่รู้กันดีว่างานอดิเรกของท่านคือ การประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้นั่นเอง

 

ซึ่งตัวอย่างผลงานทางวิชาการพุทธศาสนาของ พระพรหมคุณาภรณ์ อาทิ พุทธธรรม , พจนานุกรมฉบับประมวลศัพท์ , พจนานุกรมฉบับประมวลธรรม , สถาบันสงฆ์กับสังคมไทยในปัจจุบัน , พจนานุกรมพุทธศาสตร์ , จารึกอโศก , ธรรมนูญชีวิต , มองอเมริกาแก้ปัญหาไทย,พระพุทธศาสนากับสังคมไทย

 

ซึ่งบทความที่พระพรหมคุณาภรณ์ได้เขียนนั้นก็มีบุคคลที่นำไปศึกษาต่อและใช้ประกอบเพื่อประโยชน์ทางด้านวิชาการพระพุทธศาสนาอีกมากมาย

 

ซึ่งบางช่วงบางตอนของหนังสือกรณีธรรมกายนั้นพระประยุทธ์ได้เขียนถึง การหาทางตีความ ให้นิพพานเป็นอัตตา ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ไม่มีหลักฐานในคัมภีร์ใดเลยที่กล่าวถ้อยคำระบุลงไปว่านิพพานเป็นอัตตา  แต่หลักฐานในคัมภีร์ที่ระบุลงไปว่านิพพานเป็นอนัตตานั้นมี และมีหลายแห่ง  ดังที่ยกตัวอย่างมาแสดงแล้ว

เมื่อไม่สามารถหาหลักฐานมาแสดงว่านิพพานเป็นอัตตา ผู้ที่หาทางจะทำให้นิพพานเป็นอัตตา ก็ใช้วิธีตีความ หรือทำให้เกิดความสับสนขอให้พิจารณาข้อความที่เอกสารของวัดพระธรรมกายได้กล่าวไว้

คำว่า สัพฺเพ ธัมฺมา อนัตฺตา ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ซึ่งเป็นคำที่มีการอ้างอิงกันมากนี้ คำว่า สัพฺเพ ธัมฺมา คือ ธรรมทั้งปวง กินความกว้างเพียงใดเพราะมีทั้งคัมภีร์ชั้นอรรถกถาที่บอกว่า ธรรมทั้งปวง ในที่นี้ รวมเอาพระนิพพานด้วย 

และมีทั้งคัมภีร์อรรถกถาที่บอกว่า ธรรมทั้งปวงที่ว่าเป็นอนัตตานั้นหมายเอาเฉพาะขันธ์ 5 ไม่ได้ครอบคลุมถึงพระนิพพาน คำกล่าวนี้จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือสับสน ถ้าไม่เป็นเพราะตัวผู้กล่าวสับสนเอง ก็เป็นเพราะตั้งใจจะทำให้เกิดความ สับสน เป็นการเสี่ยงต่อพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง

 

 

เริ่มการศึกษาเบื้องต้น เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๗ ที่โรงเรียนอนุบาลครูเฉลียว ตลาดศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี 

พ.ศ. ๒๔๘๘-๒๔๙๐ ระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนประชาบาลชัยศรีประชาราษฎร์ (วัดยาง) จังหวัดสุพรรณบุรี 

พ.ศ. ๒๔๙๐-๒๔๙๓ ศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๓ ที่โรงเรียนมัธยมวัดปทุมคงคา กรุงเทพมหานคร ได้รับทุนเรียนดีของ กระทรวงศึกษาธิการ 

บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ ที่วัดบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่ออายุย่าง ๑๓ ปี เริ่มเรียนพระปริยัติธรรม ณ วัดนั้น 

พ.ศ. ๒๔๙๕ ย้ายไปอยู่ที่วัดปราสาททอง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม และได้เข้าฝึกวิปัสสนา เมื่อจบการฝึกแล้ว พระอาจารย์ผู้นำการปฏิบัติได้ชวนไปอยู่ประจำในสำนักวิปัสสนา แต่โยมบิดาไม่ยินยอม เพราะเห็นว่าสามเณรบุตรชาย ควรได้ศึกษาปริยัติธรรมขั้นสูงต่อไป 

พ.ศ. ๒๔๙๖ ย้ายมาจำพรรษาที่วัดพระพิเรนทร์ กรุงเทพมหานคร เรียนพระปริยัติธรรมจนสอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค ขณะยังเป็นสามเณร นับเป็นสามเณรรูปที่ ๔ ในสมัยรัตนโกสินทร์ จึงได้รับพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ให้อุปสมบทในฐานะนาคหลวง เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ได้นามฉายาว่า "ปยุตฺโต" แปลว่า "ผู้เพียรประกอบแล้ว"

พ.ศ. ๒๕๐๕ สำเร็จการศึกษาปริญญาพุทธศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ ๑) จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และสอบได้ วิชาชุดครู พ.ม. ในปี พ.ศ. ๒๕๐๖

หลังจากสำเร็จการศึกษาเป็นอาจารย์ในมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นผู้ช่วยเลขาธิการและต่อมาเป็นรองเลขาธิการ จนถึง พ.ศ. ๒๕๑๗ และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๕ ถึง พ.ศ. ๒๕๑๙

นอกจากสอนวิชาพระพุทธศาสนาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศไทยแล้ว ท่านได้รับนิมนต์ไปบรรยาย ณ University Museum แห่งมหาวิทยาลัย Pennsylvania ใน พ.ศ. ๒๕๑๕ และที่ Swarthmore College สหรัฐอเมริกา ใน พ.ศ. ๒๕๑๙ ต่อมาได้รับนิมนต์ให้เป็น visiting scholar และได้รับแต่งตั้งเป็น research fellow ณ Divinity Faculty แห่งมหาวิทยาลัย Harvard 

ท่านมีธรรมกถาที่เผยแพร่นับพันรายการ และมีผลงานหนังสือที่ใช้เป็นหลักอ้างอิงหลายร้อยเรื่อง เฉพาะอย่างยิ่งพุทธธรรม พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม และพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ สถาบันการศึกษาชั้นสูงเกือบ ๒๐ แห่ง ทั้งในและต่างประเทศ ได้ถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และตำแหน่งเชิดชูเกียรติต่างๆ มี ตรีปิฏกาจารย์กิตติมศักดิ์จาก นวนาลันทามหาวิหาร ประเทศอินเดีย และเมธาจารย์ (Most Eminent Scholar) จากมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก เป็นอาทิ

สำนักของท่านในปัจจุบัน คือวัดญาณเวศกวัน ตั้งอยู่ ในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

สมณศักดิ์

     พ.ศ. ๒๕๑๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระศรีวิสุทธิโมลี 
     พ.ศ. ๒๕๑๖ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชวรมุนี 
     พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพเวที 
     พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมปิฎก 
     พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ที่ พระพรหมคุณาภรณ์ สุนทรธรรมสาธก ตรีปิฎกปริยัติโกศล วิมลศีลาจาร ศาสนภารธุราทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

 

 

งานเผยแผ่พุทธธรรม

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

  • พ.ศ. ๒๕๐๕-๒๕๐๗ สอนในแผนกบาลีเตรียมอุดมศึกษา มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

  • พ.ศ. ๒๕๐๗-๒๕๐๗ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเลขาธิการและต่อมาเป็นรองเลขาธิการ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ขณะเดียวกัน ก็เป็นอาจารย์สอนในชั้นปริญญาตรี พุทธศาสตร์บัณฑิต ของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ระหว่างนั้น บางปี บรรยายที่คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร และในโครงการศาสนาเปรียบเทียบ มหาวิทยาลัยมหิดล

  • พ.ศ. ๒๕๑๕-๒๕๑๙ เจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์

  • พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้รับอาราธนาไปบรรยายวิชาพุทธศาสนากับวัฒนธรรมไทยที่ University Museum, University of Pennsylvania

  • พ.ศ. ๒๕๑๙-๒๕๒๑ ได้รับอาราธนาไปบรรยายวิชาการทางพระพุทธศาสนา ที่ Swarthmore College, Pennsylvania

  • พ.ศ. ๒๕๒๔ ได้รับอาราธนาเป็น Visiting Scholar ที่ Center for the Study of World Religions และบรรยาย วิชาการทางพุทธศาสนา สำหรับ Divinity Faculty และ Arts Faculty ที่ Harvard University

  • พ.ศ. ๒๕๓๗-ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

ประกาศเกียรติคุณ

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์

  •  พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๒๕

  • ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาปรัชญา) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๒๙

  • ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาหลักสูตรและการสอน) มหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. ๒๕๒๙

  • ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ศึกษาศาสตร์-การสอน) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๓๐

  • อักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๓๑

  • ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาภาษาศาสตร์) มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. ๒๕๓๑

  • การศึกษาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาปรัชญาการศึกษา) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. ๒๕๓๓

  • ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาปรัชญาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ. ๒๕๓๖

  • ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. ๒๕๓๗

  • ตรีปิฏกาจารย์กิตติมศักดิ์ (สาขาปรัชญา) นวนาลันทามหาวิหาร รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย พ.ศ. ๒๕๓๘

  • อักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (จริยศาสตร์ศึกษา) มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. ๒๕๓๘

  • วิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. ๒๕๔๑

  • ศาสนศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพุทธศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๔

  • ครุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพระพุทธศาสนา สถาบันราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา พ.ศ. ๒๕๔๔

  • ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาปรัชญาวิชาการบริหารองค์กร มหาวิทยาลัยศรีปทุม พ.ศ. ๒๕๔๕

  • ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาศาสนาและปรัชญา มหาวิทยาลัยบูรพา พ.ศ. ๒๕๕๒

  • ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร พ.ศ. ๒๕๕๒

  • นิเทศศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. ๒๕๕๒

  • ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (พัฒนาทรัพยากรมนุษย์) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๓ 

  • ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ พ.ศ. ๒๕๕๔ 


ประกาศเกียรติคุณและรางวัล

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

  • พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้รับการประกาศเกียรติคุณ ในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา ในการฉลอง ๒๐๐ ปี กรุงรัตนโกสินทร์
  • พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้รับรางวัลวรรณกรรมชั้นที่ ๑ ประเภทร้อยแก้ว สำหรับงานนิพนธ์พุทธธรรม จากมูลนิธิ ธนาคารกรุงเทพ
  • พ.ศ. ๒๕๓๒ ได้รับพระราชทานโล่รางวัล "มหิดลวรานุสรณ์"
  • พ.ศ. ๒๕๓๒ ได้รับโล่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อการศึกษา ในวาระครบรอบ ๒๐ ปี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • พ.ศ. ๒๕๓๓ ได้รับรางวัลกิตติคุณสัมพันธ์ "สังข์เงิน" สาขาเผยแผ่พระพุทธศาสนา
  • พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้รับรางวัลการศึกษาเพื่อสันติภาพ จากองค์การยูเนสโก (UNESCO Prize for Peace Education)
  • พ.ศ. ๒๕๓๘ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประกาศเชิดชูเกียรติเป็น "ผู้ทรงคุณวุฒิทางวัฒนธรรม"
  • พ.ศ. ๒๕๓๘ สถาบันนวนาลันทา ประเทศอินเดีย ถวายตำแหน่ง "ตรีปิฎอาจารย์" หมายถึงอาจารย์ผู้รู้แตกฉานในพระไตรปิฎก
  • พ.ศ. ๒๕๔๑ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมูลนิธิโตโยต้า ประเทศไทย ถวายรางวัล TFF Award สาขาสังคมศาสตร์และ มานุษยวิทยาสำหรับผลงานทางวิชาการดีเด่น หนังสือ "การพัฒนาที่ยั่งยืน"
  • พ.ศ. ๒๕๔๔ รางวัล "สาโรช บัวศรี ปราชญ์ผู้ทรงศีล" จาก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • พ.ศ. ๒๕๔๔ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็น "ศาสตราจารย์พิเศษ" ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • พ.ศ. ๒๕๔๗ มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก ถวายตำแหน่ง "เมธาจารย์" (Most Eminent Scholar) ในฐานะนักปราชญ์ ทางพระพุทธศาสนาสายเถรวาท

  • พ.ศ. ๒๕๔๙ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เป็น "ราชบัณฑิต (พิเศษ)"

  • พ.ศ. ๒๕๕๒ โล่วัชรเกียรติคุณ จาก คณะกรรมการศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม

  • พ.ศ. ๒๕๕๒ ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย จาก คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

 

และในวันนี้(9มี.ค.) ราชกิจจาฯ ได้มีประกาศสถานปานาประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ "พระพรหมคุณาภรณ์" (ประยุทธ์ ปยุตโต) เพื่อเป็นการบําเพ็ญพระราชกุศล ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

จึงสมควรจะสถาปนาอิสริยยศ และเลื่อนอิสริยฐานันดร พระสงฆ์ที่ดํารงอยู่ในสมณคุณ และมีอุปการะยิ่งแก่การพระศาสนาดังกล่าวสูงขึ้น เพื่อจักได้บริหารพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสถาพร ตามโบราณราชประเพณีสืบต่อไป

มีพระราชโองการโปรดสถาปนา พระพรหมคุณาภรณ์ ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชาคณะ มีราชทินนามตามที่จารึก ในสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ญาณอดุลสุนทรนายก ปาพจนดิลกวรานุศาสน์ อารยางกูรพิลาสนามานุกรม คัมภีรญาณอุดมวิศิษฏ์ ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี สถิต ณ วัดญาณเวศกวัน จังหวัดนครปฐม

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

ผู้สันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่าย...นี่คือ "กุฎิ" พระพรหมคุณาภรณ์  พระนักวิชาการ สุภาพอ่อนน้อมและปฏิบัติดี...เป็นสังฆโสภณ...แห่งสงฆ์ไทย(ชมภาพ)

 

 

--------------------------

ขอบคุณที่มา 26 พุทธศตวรรษ

ภัทราพร สำนักข่าวทีนิวส์