แถวบ้านเรียกสั่วสุดๆ !! หนุ่มแทบช็อกโดนหมายเรียกข้อหา "จ่ายเช็คเด้ง 15 ล้าน" ใจตกขึ้นโรงพักตร.พูดสั้นๆ ทำหัวร้อน #แจ้งผิดตัว ??

หนุ่มแทบช็อกโดนหมายเรียกข้อหา "จ่ายเช็คเด้ง 15 ล้าน" ใจตกขึ้นโรงพักตร.พูดสั้นๆ ทำหัวร้อน

กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอุทาหรณ์เตือนภัยอีกรูปแบบที่ถูกแชร์ส่งต่อกันอย่างมากมายในโลกโซเชียลขณะนี้ สำหรับกรณีเมื่อมีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้เผยแพร่ข้อความเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว โดยระบุรายละเอียดเอาไว้ว่า... รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยได้รับหมายเรียกคดีเช็คเงินสด 15 ล้านบาท รับแบบงงๆ เพราะปัจจุบันทำงานได้รับเงินเดือนจำนวนหมื่นกว่าบาท โทรศัพท์ไปสอบถามร้อยเวรให้มาพบไม่มาออกหมายจับ พยายามอธิบายและสอบถามทางโทรศัพท์ก็ไม่ได้รับคำตอบบอกให้มาพบอย่างเดียว

 

แถวบ้านเรียกสั่วสุดๆ !! หนุ่มแทบช็อกโดนหมายเรียกข้อหา \"จ่ายเช็คเด้ง 15 ล้าน\" ใจตกขึ้นโรงพักตร.พูดสั้นๆ ทำหัวร้อน #แจ้งผิดตัว ??

 

จึงตัดสินใจไปตรวจสอบรายละเอียด ปรากฏว่า...ชื่อ-นามสกุลแบบนี้มี 2 คนในประเทศ (ชื่อ-นามสกุลซ้ำ) เมื่อไปตรวจสอบที่ธนาคารว่าเช็คที่เด้ง 15 ล้านบาท บัญชีนั้นมีชื่อเรา (ผู้เสียหาย) ไหม ขอข้อมูลไปทางโทรศัทพ์ร้อยเวรให้ไม่ได้ จึงบอกให้ไปพบร้อยเวรวันนี้ รับทราบข้อกล่าวหามาเลยถ้าร้อยเวรมั่นใจว่าแจ้งข้อหาถูกตัว เมื่อไปถึงสน.คุยกันได้สักพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับอ้างเฉยพิมพ์ชื่อผู้ต้องหาผิด....อีกทั้งยังไม่ขอโทษ หรือเอ่ยคำปลอบใจใดๆ แก่เด็กซักคำ เขาไม่ฟ้องกลับก็บุญหัวแล้ว...มาจากต่างจังหวัดด้วย

 

แถวบ้านเรียกสั่วสุดๆ !! หนุ่มแทบช็อกโดนหมายเรียกข้อหา \"จ่ายเช็คเด้ง 15 ล้าน\" ใจตกขึ้นโรงพักตร.พูดสั้นๆ ทำหัวร้อน #แจ้งผิดตัว ??


 

ทั้งนี้ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า นายสามารถ ขวัญสุข พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ได้ร้องทุกข์กับตนว่า ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเช็คเด้ง 15 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ตนนั้นเป็นเพียงพนักงานมีเงินเดือน 15,000 บาทเท่านั้น อีกทั้งไม่เคยเซ็นเช็ค และไม่เคยทำธุรกรรมใดๆ กับธนาคารทั้งสิ้น ตนพร้อมด้วยนายสามารถ จึงได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ และได้รับคำตอบสุดท้ายจากตำรวจร้อยเวรว่า "พิมพ์นามสกุลผิด" ซึ่งเกิดจากความสะเพร่าของตำรวจ ความไม่ละเอียดรอบคอบ ทำให้ประชาชนซึ่งทำงานได้รายได้เดือนละ 15,000 บาท ต้องเกือบตกเป็นแพะคดีเช็คเด้ง 15 ล้านบาท 

 

ด้าน นายสามารถ กล่าวว่า เมื่อตนเห็นเอกสารพบว่าไม่ใช่ลายเซ็นของตน และเป็นนามสกุลของอีกคนหนึ่งจึงรีบไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ตำรวจร้อยเวรบอกว่าพิมพ์ผิด และเมื่อรู้ตัวว่าพิมพ์ผิดก็ไม่มีขอโทษสักคำ "ตนจึงขอฝากเรื่องนี้กับทางตำรวจและสังคมว่า หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าเกิดกับคนที่เขาไม่รู้ข้อกฎหมายและไม่มีที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และถ้าเขาสั่งฟ้องไปเลย ก็จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย คนๆ นั้นอาจจะติดคุกไปแล้วก็ได้ จึงอยากให้หน้าที่ตำรวจฟังเสียงประชาชนบ้าง ตระหนักถึงประชาชนด้วย ถ้าชาวบ้านเขาติดคุกฟรีโดยไม่ได้ทำความผิดครอบครัวเขาจะอยู่อย่างไร "

 

 

ขอบคุณที่มา : รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์