- 31 ก.ค. 2560
หนุ่มโวย!! ร้านอาหาร จัดงานวันเกิดแหกปากร้องเพลงเสียงดังในยามวิกาล ไปเตือนกลับได้คำตอบถึงกลับร้อง เฮ้อ.. (คลิป)
สถานบริการเวลเปิดบริการไม่ควรให้ส่งผลกระทบต่อคนอื่นเช่นกรณีนี้เมื่อ วันที่ 29 ก.ค ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ Seven Sins ได้โพสต์คลิปวิดิโอความยาวประมาณ 2 นาทีสองคลิปเกี่ยวกับร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเปิดเกินเวลาและส่งเสียงดังในยามวิกาล พร้อมระบุข้อความว่า
เหตุการณ์คุ้นๆมั้ยเวลาตี1:30นาทีชีวติผมมาหากินที่สระบุรีไม่คิดเลยว่าต้องเจอกับความมักง่ายของผู้ประกอบการ คุณจะเสียงดังแบบนี้ ก็ไม่น่าที่จะใช้เครื่องขยายเสียงในพื้นที่เปิดโล่ง ถ้าใช้เสียงดังแบบนี้แนะนำให้คุณทำห้องเถอะครับและสระบุรีนี่อนุญาติเปิดกันถึงกี่โมงต้องทนใช่มั้ย ร้านอาหารแห่งนี้ก็เห็นเงียบไปนานไปคุยที่ร้านบอกวันเกิดขอวันนึง ขอกับใครขอตอนไหนใครอนุญาตในคลิปคนในร้านอ้างถึงคนๆหนึ่งผมไม่รู้จักท่าน ท่านไม่รู้จักผม ทำไมเราไม่ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ท่านมีอาชีพ ผมก็มีอาชีพเราน่าเคารพซึ่งกันและกันในการหากิน เสียงของท่านมันช่างทรมานหลังเที่ยงคืนถ้ายังติดลมก็เบาเสียงเถอะขอแค่นี้เหมือนในคลิปที่บอกวันเกิดขอขอ แล้วถ้ามีงานวัดเกิดติดต่อกันต่อเนื่องผมต้องย้ายที่อยู่ใช่มั้ย ธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจไม่มีเชียวหรือ งั้นเราแลกกันบ้านท่านอยู่ตรงไหนให้ผมขนขี้เมาไปร้องเพลงให้ฟังแบบนี้บ้างได้มั้ยครับ คนละครึ่งทางนะเราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข#เพราะคนจนไม่มีสิทธิ์พูด#คนมีสีอยู่เบื้องหลัง
จากคลิปจะเห็นได้ว่าเวลาประมาณ01.30 น เจ้าของคลิปได้ไปขอร้องให้เลิกเสียงดังเพราะตนเองก็ต้องทำงานเช้า จากนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งได้เดินมาบอกว่าวันนี้วันเกิดเขาเขาขอ แต่จะให้เขาเบาเสียงให้
ตามกฎกระทรวง
กำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ
พ.ศ. 2547
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติ สถานบริการ พ.ศ. 2509 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติ สถานบริการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2546 และมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติ สถานบริการ พ.ศ. 2509 อันเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 31 มาตรา 36 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 สถานบริการตามมาตรา 3 (1) ให้เปิดทำการได้ ดังนี้
(1) ระหว่างเวลา 21.00 นาฬิกา ถึง 02.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น สำหรับสถานบริการที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา
(2) ระหว่างเวลา 21.00 นาฬิกา ถึง 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกัน สำหรับสถานบริการที่ตั้งอยู่นอกเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ หรือสถานบริการที่ตั้งอยู่ในเขตท้องที่งดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการตามที่ พระราชกฤษฎีกา กำหนดท้องที่เพื่อการอนุญาตหรืองดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการได้ผ่อนผันให้
ข้อ 2 สถานบริการตามมาตรา 3 (2) ให้เปิดทำการได้ระหว่างเวลา 11.00 นาฬิกา ถึง 14.00 นาฬิกา และระหว่างเวลา 18.00 นาฬิกา ถึง 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกัน
ข้อ 3 สถานบริการตามมาตรา 3 (3) ให้เปิดทำการได้ ดังนี้
(1) ระหว่างเวลา 12.00 นาฬิกา ถึง 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกัน สำหรับสถานบริการที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา
(2) ระหว่างเวลา 18.00 นาฬิกา ถึง 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกัน สำหรับสถานบริการที่ตั้งอยู่นอกเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ หรือสถานบริการที่ตั้งอยู่ในเขตท้องที่งดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการตามที่พระราชกฤษฎีกา กำหนดท้องที่เพื่อการอนุญาตหรืองดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการได้ผ่อนผันให้
ข้อ 4 สถานบริการตามมาตรา 3 (4) ให้เปิดทำการได้ ดังนี้
(1) ระหว่างเวลา 18.00 นาฬิกา ถึง 01.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น สำหรับสถานบริการที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา
(2) ระหว่างเวลา 18.00 นาฬิกา ถึง 24.00 นาฬิกา ของวันเดียวกัน สำหรับสถานบริการทีตั้งอยู่นอกเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ หรือสถานบริการที่ตั้งอยู่ในเขตท้องที่งดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการตามที่พระราชกฤษฎีกา กำหนดท้องที่เพื่อการอนุญาตหรืองดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการได้ผ่อนผันให้
ข้อ 5 สถานบริการตามมาตรา 3 (5) ให้เปิดทำการได้ระหว่างเวลา 18.00 นาฬิกา ถึง 01.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น
ข้อ 6 กำหนดเวลาเปิดทำการตามความในข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5 ถ้าวันรุ่งขึ้น
ข้อ 7 สถานบริการที่ตั้งอยู่ก่อนวันที่ พระราชบัญญัติ สถานบริการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2546 มีผลใช้บังคับ ให้มีเวลาเปิดทำการตามข้อ 1 (1) ข้อ 2 ข้อ 3 (1) ข้อ 4 (1) ข้อ 5 และข้อ 6 แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ตามประเภทที่ได้รับใบอนุญาต
*หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่คำนิยาม "สถานบริการ" ตาม พระราชบัญญัติ สถานบริการ พ.ศ. 2509 มีการแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติ สถานบริการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2546 เป็นผลให้เกิดประเภทของสถานบริการขึ้นใหม่ และมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติ สถานบริการ พ.ศ. 2509 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติ สถานบริการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2546 กำหนดให้วันเวลาเปิดปิดของสถานบริการเป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
ให้ไว้ ณ วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2547
โภคิน พลกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย






