- 29 ต.ค. 2560
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เพจความจริง และ www.tnews.co.th
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้เป็นยุคทองของการค้าขายออนไลน์ เป็นกระแสของคนยุคใหม่ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนวิธีการซื้อขายของก็เปลี่ยนไป และหลายๆท่านก็คงเคยซื้อของออนไลน์กันมาบ้างแล้ว เพราะทั้งสะดวกโอนเงินก็ง่ายมีสิ่งค้าหลากหลายแบบ หลายร้านให้เลือกซื้อ ไม่ต้องไปตามหา เดินทางไปซื้อให้เมื่อยก็มีมาส่งถึงหน้าบ้าน อีกทั้งการทำธุรกรมมทางการเงินผ่านแอพพลิเคชั่นของโทรศัพท์มือถือที่ทั้งสะดวกและรวดเร็ว
แต่ก็ยังมีกลุ่มบุคคลที่เรียกว่ามิจฉาชีพใช้ช่องทางนี้ ในการคดโกงหลอกหล่อให้ผู้เสียหายโอนเงิน โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้จะทำการประกาศขายสินค้าออนไลน์เหมือนผู้ค้าคนอื่นๆ แต่เมื่อผู้ซื้อทำการโอนเงินชำระค่าสินค้าเรียบร้อยแล้ว ก็จะเชิดเงินหนีตัดขาดการติดต่อไปเลย หายเข้ากลีบเมฆ กรณีนี้มีให้เห็นได้เรียกว่าแทบจะทุกวันเลยก็ว่าได้ ทุกวันนี้ตัวเลขเงินที่เกิดจากการฉ้อโกงจากการซื้อขายบนโลกออนไลน์นั้นมากมายมหาศาลเลยทีเดียว
วันนี้จะขอชี้แนะวิธีการดำเนินการหากคุณต้องเผชิญหน้าก็เหตุการณ์แบบนี้ ว่าคุณควรจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
1. ปริ้นกระทู้ที่ประกาศขายของ และ หลักฐานการโอนเงิน สำเนาบัตรประชาชนไว้ให้พร้อม อย่างน้อย 2 ชุด ไว้ให้ตำรวจกับธนาคาร
2. ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจลงบันทึกประจำวันกับร้อยเวร เล่าเหตุการณ์มอบเอกสารหลักฐานให้ร้อยเวร
3. ไปธนาคารเอาบันทึกประจำวันหลักฐานการโอนเงินสำเนาบัตรประชาชนยื่นให้เจ้าหน้าที่ แล้วแจ้งขออายัดบัญชีที่เราโอนเงินเข้า
4. ธนาคารจะให้มาขอหนังสือจากร้อยเวร ให้สั่งอายัดบัญชีที่เราโอนเงินเข้า
5. ไปขอหนังสือสั่งอายัดบัญชีจากร้อยเวร แล้วเอาไปให้ทางธนาคาร ทางธนาคารก็จะจัดการส่งเอกสารไปที่ธนาคารที่เราโอนเงินเข้าเพื่อขออายัดบัญชี
6. เจ้าของบัญชีจะถอนเงินออกจากบัญชีไม่ได้ แต่ยังสามารถโอนเงินเข้าบัญชีได้ จะสามารถถอนเงินได้ก็ต่อเมื่อผู้ที่ทำเรื่องอายัดบัญชีไปแจ้งยกเลิกการอายัดบัญชี
7. ตราบใดที่เรายังไม่ได้ทำเรื่องยกเลิกการอายัด บัญชีนั้นก็จะไม่สามารถถอนเงินได้ หากเป็นคดีความเมื่อกระบวนการสิ้นสุดหากเจ้าของบัญชีที่เราทำเรื่องอายัดไว้ผิดศาลก็จะสั่งให้ธนาคารเอาเงินในบัญชีนั้นมาคืนให้เรา
ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจต้อต้านบุคคลโกง ขายของออนไลน์