- 09 พ.ย. 2560
อาถรรพ์สุด!!! หุ่นขี้ผึ้งราชินีเพลงลูกทุ่ง"พุ่มพวง" อธิษฐานสิ่งใดได้สมปรารถนา. ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
บทความนี้ผู้เขียนขออนุญาตยกเรื่องของ”ราชินีลูกทุ่ง”ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของประเทศไทยในตำนาน จนได้รับฉายาว่า ราชินีลูกทุ่ง !! ด้วยความสามารถด้านเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมกับนิสัยที่น่ารักสร้างความสนุกให้กับแฟนเพลงทุกครั้งที่ร้องเพลง ทำให้กลายเป็นขวัญใจมหาชนได้ไม่ยาก ตัวอย่างเพลงดัง เช่น แก้วรอพี่, หนูไม่รู้, โลกของผึ้ง, หัวใจถวายวัด, คนดังลืมหลังควาย, อื้อหือ หล่อจัง, สาวนาสั่งแฟน เป็นต้น
“คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์”คุณผึ้งหรือ คุณ รำพึง จิตรหาญ นักร้องเพลงลูกทุ่ง “เจ้าของฉายาราชินีลูกทุ่ง” ที่ได้ชื่อว่ามีน้ำเสียงซึ่งมีมนต์เสน่ห์หวานออดอ้อนไพเราะมากที่สุดและมีความสามารถจด จำเนื้อร้องได้แม่นยำทั้งที่ไม่รู้หนังสือ และเป็นแม่แบบให้กับวงการนักร้องลูกทุ่งรุ่นหลังๆจวบกระทั่งปัจจุบัน
คุณรำพึง จิตรหาญ เกิดที่ อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท โตที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นบุตรีของนายสำราญ และนางเล็ก จิตรหาญ ครอบครัวมีอาชีพรับจ้างทำไร่อ้อย เกิดในครอบครัวยากจน เป็นลูกคนที่ 5 ของบ้านในจำนวน 12 คน
คุณรำพึง ชื่นชอบการร้องเพลงลูกทุ่งตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ว่าเธอจะอ่านหนังสือไม่ออกแต่ก็มีความจำอันดีเยี่ยม เธอเริ่มหัดร้องเพลงและเข้าประกวดตามงานต่าง ๆ ตั้งแต่อายุ 8 ปี โดยใช้ชื่อว่า” น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย” เธอเข้าประกวดล่ารางวัลไปทั่ว และต่อมาได้มาอยู่กับวงดนตรีที่กรุงเทพฯ กับ ดวง อนุชา ตั้งแต่อายุประมาณ 10 ขวบ แต่ก็ยังไม่ได้เป็นนักร้องอาชีพก็หวนกลับไปยังบ้านเกิดที่อำเภอสองพี่น้อง
และในปี พ.ศ. 2518 เมื่ออายุได้ 15 ปี”คุณไวพจน์ เพชรสุพรรณ” นำวงดนตรีมาแสดงที่วัดทับกระดาน เธอได้ร่วมร้องเพลงและแสดงความสามารถจน คุณไวพจน์ ได้เห็นความสามารถ ก็เกิดความเมตตา จึงรับไว้เป็นบุตรบุญธรรมและพาไปอยู่กรุงเทพฯ
โดยเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นหางเครื่องและนักร้องไปพลางๆ ก่อนที่ คุณไวพจน์ จะแต่งเพลงและอัดแผ่นเสียงชุดแรกให้
ชื่อเพลง แก้วรอพี่ เพลงแต่งแก้กับเพลง "แก้วจ๋า" โดยใช้ชื่อในการร้องเพลงว่า” น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ”
ต่อมาในปีพ.ศ. 2521 คุณพุ่มพวง ได้รับรางวัลพระราชทานเสาอากาศทองคำซึ่งพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จากเพลง "อกสาวเหนือสะอื้น" นอกจากนี้ ยังได้เป็นผู้ร้องเพลง พระราชนิพนธ์ "ส้มตำ" ซึ่งเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
แล้วในวันที่13 มีนาคม พ.ศ. 2535ก็ มีข่าวปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่า คุณพุ่มพวงทะเลาะกับสามี และ มีอาการป่วย
เป็นโรคไตขั้นรุนแรง จนต้องเข้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ไม่สามารถเบิกเงินจากธนาคารเพื่อมารักษาตัวเองได้ (ซึ่งมีอยู่จำนวน 6 ล้านบาท) เนื่องจากสมุดบัญชีอยู่กับคุณไกรสร (สามี) ที่เชียงใหม่ เธอจึงตัดสินใจสั่งอายัติเงินทั้งหมด
ต่อมาวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2535เธอเดินทางจากเชียงใหม่ เข้ารับการรักษาตัวเองที่”โรงพยาบาลตากสิน จันทบุรี “และภายหลังได้ย้ายไปที่โรงพยาบาลศิริราช โดยแพทย์ตรวจพบว่าเธอป่วยด้วยโรคเอสแอลอีหรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง และอาการขั้นรุนแรง ลุกลามถึงไต ทางด้านคุณไกรสรก็ได้ออกมายอมรับว่ามีปัญหาครอบครัวจริง
ต่อมาวันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2535 แพทย์เจ้าของไข้เปิดเผยว่าพุ่มพวงอาการดีขึ้น และทางด้านญาติของคุณพุ่มพวงต่างก็มีความเห็นว่าควรรักษาด้วยไสยศาสตร์” เนื่องจากเชื่อว่าถูกปองร้ายด้วยไสยศาสตร์ด้วยวิธีการทางคุณไสย “ต่อมาวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2535 เดินทางออกจากโรงพยาบาลศิริราชเพื่อไปรักษาด้วยวิธีทางไสยศาสตร์ ไปจังหวัดพิษณุโลก เดินทางโดยด้วยรถตู้ แต่หลังจากกราบไหว้พระพุทธชินราช เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ก็เกิดอาการช็อคและหมดสติ ญาตินำส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช กระทั่งถึงแก่กรรมอย่างสงบเมื่อเวลา 20.55 น.
ได้ตั้งบำเพ็ญสวดอภิธรรมศพที่วัดมกุฏกษัตริยาราม และมี
พิธีพระราชทานเพลิงศพ ของ คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ซึ่งขึ้นจัดที่วัดทับกระดาน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. พ.ศ. 2535 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมีการสร้างหุ่นพุ่มพวง ตั้งอยู่ในศาลาริมสระน้ำ วัดทับกระดาน อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี
และในทุกๆปีที่วัดทับกระดานจะมีการจัดงานรำลึกถึง คุณพุ่มพวง ช่วงวันที่ 13-15 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของเธอ
หลังจากที่ คุณพุ่มพวง ได้ลาลับจากโลกนี้ไป เหล่าบรรดาแฟนเพลงต่างก็ยังคงนึกถึงและอาลัยแด่การจากไปครั้งนี้เป็นอย่างมาก จึงได้จัดสร้างสร้างหุ่นรูป คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ขึ้นมาเพื่อเอาไว้ให้เหล่าบรรดาแฟนเพลงได้รำลึกนึกถึง คุณพุ่มพวง ตลอดไป
และด้วยสาเหตุจากการสร้างหุ่นจำลองรูปเหมือนคุณพุ่มพวงดวงจันทร์ นั่นเอง ที่ทำให้บังเกิดมีเรื่องราวความอาถรรพ์ลี้อันเหลือเชื่อต่างๆขึ้นมากมาย ที่ไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ที่จะนำมาหักล้างความเชื่อเหล่านี้ได้ จึงเป็นที่มาแห่งความศัทธาและศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนต่างแห่แหนกันมาสักการะขอพรกันอย่างไม่ขาดสายโดยเฉพาะหากต้องการประกวดร้องเพลงก็จะเข้ามาเพื่อขอพร และบางคนถึงกับเลือกเพลงของคุณพุ่มพวง มาใช้ในเวทีการประกวดเลยทีเดียวค่ะ
ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์เรื่องเล่าความเฮี้ยนความอาถรรพ์ของหุ่นคุณพุ่มพวงแพร่สะพัดออกมาเป็นระยะๆทว่าสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นประเด็นหรือปัญหาทำให้บรรดาแฟนเพลงของเธอนั้นคลายความรักในผลงานความเป็น”ราชินีลูกทุ่ง” ของเธอ หรือ เลิกรำลึกถึง คุณพุ่มพวง ลดน้อยลงไปเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงข้าม กลับกลายเป็นว่ามีการสร้างหุ่นรูปคุณพุ่มพวง เพิ่มขึ้นต่อๆกันมาอีกหลายรูปแบบและนำไปตั้งไว้ในแต่ละจุดภายในบริเวณวัดซึ่งปัจจุบันนี้มีมากถึงทั้งหมด 6 ด้วยกันแห่งดังนี้ต่อไปนี้ค่ะ
หุ่นรูปที่ 1
ตั้งอยู่ที่ศาลาสระกลางน้ำ วัดทับกระดาน ในชุดสีดำ เป็นหุ่นอภินิหาร สร้างขึ้นหลังจากพระราชทานเพลิงศพพุ่มพวงประมาณ 15 วัน โดยพุ่มพวงได้มาเข้าฝันให้สร้างหุ่นนี้ขึ้น ซึ่งทางวัดได้ร่วมกับคณะกรรมเป็นผู้สร้างภายในหุ่นได้บรรจุ สรีระ ผงธุลี เถ้าถ่าน ของพุ่มพวง หลังจากพระราชทานเพลิงศพแล้ว โดยจะมีประชาชนมากราบไหว้ของโชคลาภ จำนวนมาก
หุ่นรูปที่ 2
อยู่ที่ศาลาสุธรรมรัตราฎร์บำรุง วัดทับกระดาน ในตู้กระจก ยุ้ย ญาติเยอะ เป็นผู้สร้างไว้บูชาครูเพลงพุ่มพวง ดวงจันทร์
หุ่นรูปที่ 3
อยู่ที่ศาลา จัตุรมุขทรงไทย วัดทับกระดาน สร้างโดยนายณรงค์ รอดเจริญ อดีตบรรณาธิการบริหารหนังสือ ดาราเสียงทองพร้อมคณะบรรดาค่ายเทปเพลงต่างๆ เป็นชุดที่พุ่มพวง ขับร้องเพลงส้มตำ เป็นหุ่นแก้บนด้วย ทองคำและเงินสด เป็นหุ่นขี้ผึ้งแข็ง มีลักษณะสรีระเหมือนผู้หญิงจริง ซึ่งใช้ผมจริง เส้นขนจริง
หุ่นรูปที่ 4
อยู่ที่ศาลาสุธรรมรัตราฎร์บำรุง วัดทับกระดานในชุดสีชมพูคณะกรรมวัดร่วมกับแฟนเพลงที่ได้มากราบไหว้และบนบานไว้จนประสบผลสำเร็จร่วมกันสร้างอยู่ในชุดนางพญาเสือดาว ที่พุ่มพวงขึ้นร้องเพลงบนเวทีคอนเสิร์ต 7 สี ครั้งแรก เป็นหุ่นปลดหนี้ ประชาชนส่วนใหญ่จะจุดธูปมากราบไหว้ขอโชคลาภ
หุ่นรูปที่ 5
อยู่ที่วิหารห้องกระจก รูปเหมือนพระครูสุธรรมรัต หรือหลวงพ่อบวช ตุลายโก อดีตเจ้าอาวาส วัดทับกระดาน ซึ่งเป็นเคารพนับถือของพุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็นหุ่นที่พุ่มพวงดวงจันทร์ ตอนสมัยที่ใช้ชื่อน้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ ซึ่งอยู่ในชุดเสวนาธรรม ตอนที่พุ่มพวงมาขอพรหลวงพ่อบวช อดีตเจ้าอาวาสวัดทับกระดาน ของให้เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยมีเพลงหัวใจถวายวัด ที่สร้างชื่อเสียงในสมัยนั้น คณะกรรมร่วมกับทางบรรดาญาติๆ ของพุ่มพวงเป็นผู้สร้าง
หุ่นรูปที่ 6
อยู่ที่ศาลาสุธรรมรัตราษฎร์บำรุง วัดทับกระดาน ในชุดสีทอง ใหม่ เจริญปุระ เป็นผู้สร้างไว้บูชาครูเพลงพุ่มพวง เป็นหุ่นสีทอง มีลักษณะแบบใหม่ เจริญปุระ
และปัจจุบันได้มีการสร้างหุ่นรูปที่ 7ตั้งไว้ที่ พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ กรุงเทพฯ
หุ่นรูปที่ 7 พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ กรุงเทพฯ ถูกสร้างโดยชาวต่างชาติ เพื่อนำมาจัดแสดงที่นี่โดยเฉพาะ และเรียกได้ว่าเป็นหุ่นขี้ผึ้งที่มีรูปร่างเสมือนจริงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา หรือแม้กระทั่งส่วนสูงค่ะ
สำหรับคุณผู้ชมผู้อ่านท่านใดที่มีเวลาว่างและอยากหาโอกาสเดินทางไปกราบไหว้ขอพรโดยเฉพาะ ขอเรื่องโชคลาภเลขเด็ด ขอเรื่องการประกวดร้องเพลงให้ชนะ หรือมีความประสงค์จะขอเรื่องอื่นใดฯกํตาม วันนี้ผู้เขียนก็ได้มาแนะนำให้แล้วนะคะ ท่านใดสะดวกไปที่ไหนก็ไปกันได้เลยจ้าาาา (ผู้เขียนขอกระซิบเบาๆนะคะว่า..หากผู้ชมผู้อ่านไปขอพรได้อะไรเด็ดๆแล้วล่ะก็อย่าลืมสายตรงมากระซิบบอกผู้เขียนกันด้วยนะจ๊ะ!!) ของแบบนี้หากใครไม่เชื่อก็ไควรลบหลู่!!สิ่งเหนือธรรมชาติที่เรสไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริงๆซะที่ไหนกัน ยกตัวเองเช่นลม คุณเคยเห็นตัวตนของลมไหม?แล้วทำไมคุณๆทั้งหลายถึงเชื่อกันล่ะคะว่าลมมีอยู่จริง!!
ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ..และขอขอบคุณแหล่งที่มาของภาพและข้อมูลจาก:เฟสบุ๊ค
คุณไกรสร ลีละเมฆินทร์,วิพีกิเดีย,และข้อมูลเพิ่มเติม(บางส่วน)
จาก :อินเตอร์เน็ตค่ะเรียบเรียงโดย:โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์






