- 30 พ.ย. 2560
เปิดโพสต์สุดท้าย "ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ" ก่อนหัวใจวายเฉียบพลัน พบวานนี้ยังแข็งแรงดี
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีต รมว.ต่างประเทศ และ อดีตเลขาธิการอาเซียน ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบ ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ที่ โรงพยาบาลรามคำแหง สิริอายุ 68 ปี
อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ ดร.สุรินทร์ เพิ่งโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวที่ชื่อ สุรินทร์ พิศสุวรรณ - Surin Pitsuwan ในช่วงเวลา เวลา 8:42 น. ขณะแวะไปเยี่ยม HUBBA-TO หรืออีกสาขาของ HUBBA ที่อ่อนนุช ซึ่งเผยให้เห็นว่าในช่วงนั้น ดร.สุรินทร์ ยังคงมีร่างกายแข็งแรง สร้างความตกใจแก่ผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก โดยได้บอกเล่าเรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กพร้อมระบุว่า...
วานนี้ผมแวะไปเยี่ยม HUBBA-TO หรืออีกสาขาของ HUBBA ตรงอ่อนนุช ภายใต้การร่วมมือระหว่าง Sansiri กับ ผู้ก่อตั้ง HUBBA ของ 2 พี่น้อง ชาลและอมฤต(เอม) เจริญพันธ์ ผมเองมีความพูกพันกับชาลและเอม ผ่านทางลูกชายคนโตซึ่งเป็นเพื่อนกับทั้งสองตั้งแต่มัธยมมาเกือบ 20 ปีแล้ว ลูกชายผมเล่าให้ฟังถึง HUBBA อยู่บ่อยๆ และวันนี้รู้สึกยินดีที่ได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทีมงานของ HUBBA Start Up และคนรุ่นใหม่ แทบไม่มีใครไม่รู้จัก HUBBA เพราะถือได้ว่าเป็น Co-Working Space แห่งแรกของไทยที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ ชาลและเอมก่อตั้ง HUBBA จากแรงบัลดาลใจที่อยากจะทำ ประกอบกับเห็นความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ อยากทำงานที่ไหนก็ได้ และที่สำคัญอยากทำธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ที่เติบโตไปทั่วโลก
HUBBA มองเห็นจุดนี้และให้ HUBBA เป็นที่เชื่อมคนที่มีความรู้มาช่วยเหลือกันและกัน ก่อให้เกิดเป็น Community ที่มีศักยภาพและกำลังผลักดันเศรษฐกิจไทยเพื่อตอบรับโลกดิจิตอลอย่างแท้จริง จากข้อมูลที่ HUBBA นำเสนอว่า เดือน พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมากรุงเทพฯได้รับการจัดอันดับ 1 เมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับคนที่ทำงานอิสระ (Digital Nomad) จากทั่วโลก และยังมีอีกหลายจังหวัดติดอันดับต้นๆของโลก อาทิ เชียงใหม่ และ ภูเก็ต
จากข้อมูลนี้เอง ภาครัฐควรเร่งส่งเสริมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้คนจากทั่วโลกมาประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น รักษาอันดับ 1 ให้ได้นานที่สุด แต่ที่สำคัญเราต้องผลักดันสนับสนุนคนรุ่นใหม่ของไทยเข้าไปเรียนรู้และต่อยอดจากคนเก่งๆ ทั่วโลกที่อยากจะมาทำงานที่ประเทศไทย ผมคิดว่าหากเรามีชุมชน Co-Working Space ของเราที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน Asia เป็นพื้นที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก มีที่พักกับการเดินทางที่สะดวก และมีการจัดให้มีสัมมนาทุกสัปดาห์ จะทำให้เราสามารถดึงกลุ่ม Digital Nomad นี้มาทำงานในเมืองไทยมากขึ้น และผลพลอยได้จากชุมชน Co-Working Space อันครึกครื้นก็คือเราจะสามารถสร้างโอกาสให้คนไทยเข้าไปมีส่วนร่วม แลกเปลี่ยนความรู้ ร่วมสร้างธุรกิจที่มีเป้าหมายระดับโลก Start Up เมืองไทยเราควรจะไปได้ไกลและเร็วกว่าเดิมครับ
ขอบคุณทีมงาน HUBBA ครับ
ขอบคุณ : สุรินทร์ พิศสุวรรณ - Surin Pitsuwan






