อย่าเก็บคำวิจารณ์ของคนอื่นมาใส่ใจ แต่จงรับฟังและใช้มันพัฒนาตัวเอง และอย่าให้คำพูดของคนอื่น มาตัดสินชะตาชีวิต

ประวัติโดยย่อของขงจื้อ..

ขงจื้อ เป็นนักปรัชญที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน เกิดเมื่อ
551 ปีก่อนคริสตกาล ในแคว้นหลู่ มณฑลชานตุง ขงจื้อกำพร้าบิดามาตั้งแต่วัยเยาว์ และมีชีวิตอยู่ด้วยความยากจน แต่ด้วยความที่เป็นผู้ที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด จึงได้พยายามศึกษาหาความรู้ในวิชาประวัติศาสตร์ ปรัชญา และการดนตรี จนได้ชื่อว่าเป็นนักปราชญ์ จากนั้นได้ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนจรรยามารยาท และการปกครองให้แก่กุลบุตรในตระกูลผู้ดี ยังเคยเข้ารับราชการเป็นเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมของแคว้นฉี ภายหลังได้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อท่องเที่ยวไปตามแค้วนต่าง ๆ ไปให้คำปรึกษาและข้อคิดในกิจการเกี่ยวกับการปกครองแก่บรรดาเจ้าผู้ครองแคว้น เหล่าเสนาบดีที่เลื่อมใสศรัทธาในความคงแก่เรียนของเขา ในบั้นปลายของชีวิต ขงจื๊อได้กลับสู่แคว้นหลู่บ้านเกิดเมืองนอนของตน สั่งสอนสานุศิษย์จนถึงแก่กรรมเมื่อ 479 ปีก่อนคริสตกาล ขงจื๊อ ถูกยกย่องเป็นนักคิด และนักปรัชญาสังคม คำสอนของขงจื๊อนั้น ฝังรากอิทธิพลลึกลงไปในสังคมเอเชียตะวันออกมาเป็นเวลาถึง 20 ศตวรรษ หลักปรัชญาของขงจื๊อจะเน้นเกี่ยวกับศีลธรรมส่วนตัว และศีลธรรม รวมไปถึงคุณธรรมในการปกครอง ความถูกต้องเหมาะสม  ความยุติธรรม และความบริสุทธิ์ใจ (ความซื่อตรง)

 

แชร์เก็บไว้อ่าน!! สุดยอดแง่คิดแบบนักปราชญ์! “นำพาสู่ความสำเร็จ”  รวบรวมคำสอนขงจื้อฉบับย่อ..นำไปใช้ชีวิตจะรุ่งเรือง

 

แบบอย่างการเรียนที่ดีและคุ้มค่า

ขงจื่อเป็นผู้ก่อตั้งสำนักปรัชญาขงจื่อ ตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่น ต่างยกย่องให้ขงจื่อเป็นผู้ที่มีอุดมการณ์เป็นเลิศ ก่อนเสียชีวิตขงจื่อไม่ได้คาดหวังไว้ว่าตัวเองจะมีเกียรติยศ ซึ่งต่อมาได้รับการแต่งตั้งบรรดาศักดิ์เป็นอาจารย์ผู้มีความรู้ความสามารถ และยังเป็นแบบอย่างผู้ที่ใช้ชีวิตด้านการเรียนที่ดีและคุ้มค่า ทั่วประเทศจีนยังสร้างศาลเพื่อให้ลูกหลานและลูกศิษย์ได้เคารพบูชา และยังสร้างศาลให้กับบุคคลที่ทำคุณงามความดีเช่นเดียวกับขงจื่อ ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมความคิดแบบสังคมศักดินา  ในสมัยนั้นจึงมีความหมาย ว่าด้วยความเคารพและบูชาขงจื่อ

 

แชร์เก็บไว้อ่าน!! สุดยอดแง่คิดแบบนักปราชญ์! “นำพาสู่ความสำเร็จ”  รวบรวมคำสอนขงจื้อฉบับย่อ..นำไปใช้ชีวิตจะรุ่งเรือง

มุมมองของขงจื้อ

มุมมองของขงจื่อยังไม่มีรูปแบบ และระบบที่สมบูรณ์แต่เขาเชื่อว่าโลกมีการพัฒนา และยอมรับว่าโลกมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นควรดำรงอยู่โดยภววิสัย และปรับตัวให้เข้ากับกฎหมาย อยู่เสมอ

 

วิธีการของขงจื้อ

ขงจื่อมีข้อคิดในทางปฎิบัติสองทาง และมีการส่งเสริมในสิ่งที่แตกต่างกันคือ ทัศนคติที่เป็นกลางและเหมาะสม  วิธีการแบบนี้ คือ การที่ขงจื่อวิจัยประวัติศาสตร์และสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นตามความจริง รวบรวมความคิดในภาพรวมเข้าด้วยกัน หลังจากวิเคราะห์รวบรวมเหตุผลพื้นฐานสิ่งต่างๆหลายๆด้านที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลง “การค้นพบที่ดี” และ “ความสำเร็จที่ดี”  

 

เป็นผู้มี ญาณวิทยา (ญาณวิทยาคืออะไร?)

ปัญหาพื้นฐานของปรัชญา คือปัญหาความสัมพันธ์ของการดำรงอยู่และความคิด แหล่งที่มาของปัญหาก็คือ วิชาว่าด้วยความรู้ แม้ว่าขงจื่อจะกล่าวว่า “คนที่เกิดมารู้ทุกเรื่องเป็นผู้ที่มีญาณวิทยา” เขาไม่เคยคิดว่าทุกคนเกิดมาแล้วจะรู้ทุกเรื่อง และก็ไม่ยอมรับว่าตนเองเกิดมาก็รู้ทุกเรื่อง ในทางตรงกันข้ามเขายืนยันที่จะแสวงหาความรู้ โดยเรียนศึกษาหาความรู้ต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด (การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด)

 

ความคิดทางจริยธรรม

บทบาทในชีวิตทางสังคมของขงจื่อ ท่านให้ความสำคัญกับเรื่องคุณธรรมเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย และให้เกิดความกลมเกลียวในสังคม เขาจึงใช้หลัก “เมตตากรุณา” ซึ่งเป็นจริยศาสตร์ที่สมบูรณ์ในการสร้างความเป็นระเบียบของสังคม

 

 

แชร์เก็บไว้อ่าน!! สุดยอดแง่คิดแบบนักปราชญ์! “นำพาสู่ความสำเร็จ”  รวบรวมคำสอนขงจื้อฉบับย่อ..นำไปใช้ชีวิตจะรุ่งเรือง

ความจงรักภักดี

คนที่มีความจงรักภักดีคือ คนที่มีความซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบ พยายามทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ถึงที่สุด และยังรวมไปถึงการแสดงความจงรักภักดีต่อกษัตริย์ ขงจื่อจึงเสนอข้อคิดเห็นว่า “ข้าราชบริพารที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระมหากษัตริย์ต้องปฏิบัติตามบรรทัดฐานของประเพณี ข้าราชบริพารรับใช้พระมหากษัตริย์ด้วยความจงรักภักดี”


มีความน่าเชื่อถือ

ความน่าเชื่อถือคือ การซื่อสัตย์ไม่หลอกลวง มันไม่เพียงเป็นหลักในการคบหาเพื่อน ยังเป็นศีลธรรมข้อหนึ่งในการปกครองประเทศ หรือการปกครองคน คนที่ซื่อตรงต้องมีจิตใจที่ซื่อสัตย์ คำพูดจะต้องมีความน่าเชื่อถือ แต่การรักษาความน่าเชื่อถือจะต้องมีหลักการ และปฏิบัติควบคู่ไปกับศีลธรรมและสัจธรรมด้วย

 

ความยุติธรรม

ความยุติธรรมมีเหตุมีผล แสดงให้เห็นถึงความเป็นธรรม ขงจื่อเคยอธิบายไว้ว่า ความยุติธรรมเป็นบรรทัดฐานของศีลธรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคม ผู้คนยึดความยุติธรรมเป็นศูนย์กลาง กล้าหาญทำเรื่องที่มีความยุติธรรม เมื่อได้รับผลประโชยน์ก็ต้องคำนึงถึงความยุติธรรมก่อน

 

การให้ และให้อภัย

ควรมีจิตใจที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความอ่อนโยน มีจิตใจที่ดีงาม  และมีความอดทน ควรสอนให้ผู้คนรู้ว่าเมื่อมีชื่อเสียง มีอำนาจควรพิจารณาถึงผู้อื่นก่อนแล้วค่อยคิดถึงตัวเอง  ส่วนการให้อภัยคือ การเอาใจเขามาใส่ใจเรา เมื่ออยู่ในสังคมจะต้องรู้จักเข้าสังคม สิ่งที่คิดว่าตนเองทำได้ บุคคลอื่นก็ทำได้ เรื่องที่ตนเองทำไม่ได้ก็ไม่ต้องโยนให้กับบุคคลอื่นทำ

 

 

นอกจากนี้ ขงจื้อนั้นยังเป็นเจ้าของปรัชญาที่หลากหลาย  และมีคำพูดที่ให้แง่คิด ... เช่น

 

“ตำหนิตนเองให้มาก ตำหนิผู้อื่นให้น้อย ก็จะไม่มีใครโกรธแค้น”

“พูดไพเราะตลบแตลง ทำให้สูญเสียคุณธรรม”

“ในระหว่างเป็นเพื่อนกันต้องตักเตือนให้กำลังใจกันและกัน ในระหว่างพี่น้องต้องสามัคคีกัน”

“เมื่อรักเขาจะไม่ให้กำลังใจเขาได้หรือ เมื่อซื่อสัตย์ต่อเขา จะไม่ตักเตือนสั่งสอนเขาได้หรือ”

“ปราชญ์ย่อมหลีกเลี่ยงสังคมที่เลวร้าย สถานที่เลวร้าย มารยาทที่เลวร้าย และวาจาที่เลวร้าย”

“บัณฑิตมีความภาคภูมิใจในตนเอง ไม่แย่งชิงความภูมิใจของคนอื่น บัณฑิตมีความสามัคคี แต่ไม่เล่นพวกกัน”

 “บัณฑิตขอร้องกับตนเอง ส่วนคนพาลนั้นจะขอร้องกับคนผู้อื่น”  เป็นต้น

 

แชร์เก็บไว้อ่าน!! สุดยอดแง่คิดแบบนักปราชญ์! “นำพาสู่ความสำเร็จ”  รวบรวมคำสอนขงจื้อฉบับย่อ..นำไปใช้ชีวิตจะรุ่งเรือง
 

สุดยอดคำคม ปรัชญาชีวิต คติสอนใจตามหลักขงจื้อ 15 ข้อ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับชีวิตประจำวันของคนได้ทั่วโลก

1. อย่ากลัวที่จะนั่งหยุดพักเพื่อคิด ไตร่ตรอง
2. การที่เรายอมรับว่าไม่รู้นั้น ก็ถือว่าเป็นความรู้อันประเสริฐแล้ว
3. อย่าเก็บคำวิจารณ์ของคนอื่นมาใส่ใจ แต่จงรับฟังและใช้มันพัฒนาตัวเอง และอย่าให้คำพูดของคนอื่น มาตัดสินชะตาชีวิต

4. ไม่คิดถึงความชั่วของคนอื่นในอดีตกาล จึงมีคนโกรธท่านน้อย
5. สรรพสิ่งในโลก 4 อย่าง ที่เงินหาซื้อไม่ได้นั่นก็คือ ความรัก เวลา ชีวิต และมิตราภาพที่แท้จริง

 

แชร์เก็บไว้อ่าน!! สุดยอดแง่คิดแบบนักปราชญ์! “นำพาสู่ความสำเร็จ”  รวบรวมคำสอนขงจื้อฉบับย่อ..นำไปใช้ชีวิตจะรุ่งเรือง

6. เมื่อรักเขาจะไม่ให้กำลังใจเขาได้หรือ เมื่อซื่อสัตย์ต่อเขาจะไม่ตักเตือนสั่งสอนเขาได้หรือ
7. ไม่ต้องเป็นห่วงคนอื่นที่ไม่เข้าใจเรา แต่ต้องเป็นห่วงว่าเราไม่เข้าใจคนอื่นเป็นดี
8. ในการศึกษาค้นคว้าเรื่องต่างๆ ถ้าเอนเอียงไปสุดสายไม่ว่าข้างใดข้างหนึ่ง ก็จะมีแต่ผลเสียฝ่ายเดียวเท่านั้น
9. การอ่านหนังสือโดยไม่ได้คิดค้น การอ่านจะไม่ได้อะไรเลย การคิดค้นโดยไม่ได้อ่านหนังสือ การคิดค้นจะเปล่าประโยชน์
10. หากยังปรนนิบัติคนที่มีชีวิตไม่เป็น จะปรนนิบัติเซ่นไหว้เทพเจ้ากับผีได้อย่างไร
11. เราทุกคนเข้าใจชีวิตเมื่อมองย้อนหลังเท่านั้น แต่เราต้องดำเนินชีวิตไปข้างหน้าต่อไป
12. ไม่มีสิ่งใดช่วยให้คุณได้เปรียบคนอื่น มากเท่ากับการควบคุมอารมณ์ให้สงบนิ่งอยู่ตลอดเวลา ในทุกสถานการณ์
13. สิ่งที่เราไม่ชอบ ก็จงอย่าทำกับคนอื่น
14. การมีชีวิตอยู่นานเท่าใดมิใช่สิ่งสำคัญ แต่สิ่งสำคัญก็คือ เราจะมีชีวติอยู่อย่างไร

15. เวลาเพียงแค่ 1 นาทีที่คุณโกรธ เท่ากับคุณได้สูญเสีย 60 วินาทีแห่งความสงบในจิตใจไปแล้ว จงจำเอาไว้ว่า       ความอดทนคือเพื่อนสนิทของสติปัญญา



แชร์เก็บไว้อ่าน!! สุดยอดแง่คิดแบบนักปราชญ์! “นำพาสู่ความสำเร็จ”  รวบรวมคำสอนขงจื้อฉบับย่อ..นำไปใช้ชีวิตจะรุ่งเรือง แชร์เก็บไว้อ่าน!! สุดยอดแง่คิดแบบนักปราชญ์! “นำพาสู่ความสำเร็จ”  รวบรวมคำสอนขงจื้อฉบับย่อ..นำไปใช้ชีวิตจะรุ่งเรือง แชร์เก็บไว้อ่าน!! สุดยอดแง่คิดแบบนักปราชญ์! “นำพาสู่ความสำเร็จ”  รวบรวมคำสอนขงจื้อฉบับย่อ..นำไปใช้ชีวิตจะรุ่งเรือง

แชร์เก็บไว้อ่าน!! สุดยอดแง่คิดแบบนักปราชญ์! “นำพาสู่ความสำเร็จ”  รวบรวมคำสอนขงจื้อฉบับย่อ..นำไปใช้ชีวิตจะรุ่งเรือง

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก ขจรฤทธิ์ รักษา

                                                     และ    http://www.ci.au.edu/th/index.php/about/2015-08-24-11-58-20