สิ่งที่ควรรู้ ก่อนไหว้ตรุษจีน!! ผลไม้อะไรไหว้แล้วเฮง เป็นสิริมงคล และผลไม้ต้องห้ามไหว้รับตรุษจีนมีอะไรบ้าง? ไหว้ตรุษจีนที่ถูกต้องควรไหว้ตอนไหน!!เวลาใด

เฮง เฮง เฮง ตรุษจีน นี้ ใครอยากดวงเฮงตลอดปีฟังทางนี้!ในฐานะที่ ผู้เขียน ก็เป็นคนไทยเชื้อสายจีนซึ่งถือว่าเป็นลูกหลานเชื้อสายเลือดมังกรคนหนึ่งเช่นกัน จึงอยากถือโอกาสนี้นำเคล็ดลับมงคลประจำตระกูลมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานให้กับท่านผู้ชม-ผู้อ่านได้เซฟเก็บเอาไว้ใช้ประโยนช์กันในปีต่อๆไปได้อย่างถูกต้องจะได้ เฮง เฮง เฮง กันถ้วนหน้าค่ะ

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนไหว้ตรุษจีน!! ผลไม้อะไรไหว้แล้วเฮง เป็นสิริมงคล และผลไม้ต้องห้ามไหว้รับตรุษจีนมีอะไรบ้าง? ไหว้ตรุษจีนที่ถูกต้องควรไหว้ตอนไ

เนื่องจากผู้เขียนได้จับสังเกตมานานและพบว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านๆมาทุกปีนั้น ส่วนใหญ่ผู้เขียนมักจะพบกับปัญหานี้อยู่บ่อยๆเวลาที่ผู้เขียนไปจับจ่ายซื้อของไหว้ในตลาด ก็คือ มีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่อีกจำนวนไม่น้อยเลยที่มีข้อกังขากันว่า นอกจากชุดซาแซแล้ว จะต้องไหว้อะไรบ้าง? ทุกคนต่างก็เล็งเห็นว่าผลไม้นี่แหละที่มีอยู่มากมายหลากหลายชนิด ทุกคนเลยพากันแห่ทุ่มซื้อผลไม้กันยกใหญ่ ทว่า!!ไม่มีใครรู้ว่าผลไม่ที่ซื้อไปนั้นเป็นผลไม้ต้องห้าม!!ห้ามนำไปไหว้ตรุษจีนอย่างเด็ดขาด แต่แม่ค้าก็ไม่ได้แนะนำอะไรตั้งหน้าตั้งตาขายให้ได้มากที่สุดอย่างเดียว เรื่องความหมายความเป็นสิริมงคลแม่ค้าไม่สนใจ สนใจอย่างเดียวคือให้ข้าขายดีได้กำไรงามก้อนโตๆทุกปีก็พอ!เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้เขียนจึงตัดสินใจนำ[เคล็บลับฉบับจิ๋วประจำตระกูล]มาชี้แนะให้แก่ทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้กันค่ะจะได้มีแต่ เฮง เฮง เฮง เรามาดูกันเลยค่ะว่าผลไม้มงคลที่เหมาะสำหรับไหว้ตรุษจีนโดยเฉพาะนั้นมีอะไรบ้าง ? และผลไม้ต้องห้ามคืออะไรบ้าง ?แล้วการไหว้ตรุษจีนที่ถูกต้องตามหลักดั้งเดิมของชาวจีนโบราณนั้นมีวิธีการไหว้กันอย่างไร?ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!! เชิญรับชมได้ดังต่อไปนี้… ผลไม้แห่งสิริมงคล (ส้มสีเหลืองทอง หมายถึง ความสวัสดีมหามงคล)

ผลไม้มงคลที่เหมาะสำหรับไหว้ตรุษจีนมีอยู่ 5 ชนิด ดังนี้.

ส้ม ผลไม้แห่งสิริมงคล (ส้มสีเหลืองทอง หมายถึง ความสวัสดีมหามงคล)

ต้องเลือกส้มที่มีเปลือกมีสีส้มหรือสีเหลืองทอง เหตุที่ต้องเป็นส้มสีทองก็เพราะ สีทอง เป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคล ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นส้มสายพันธุ์พิเศษอะไร ขอให้มีเปลือกสีส้มหรือสีเหลืองทองก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนไหว้ตรุษจีน!! ผลไม้อะไรไหว้แล้วเฮง เป็นสิริมงคล และผลไม้ต้องห้ามไหว้รับตรุษจีนมีอะไรบ้าง? ไหว้ตรุษจีนที่ถูกต้องควรไหว้ตอนไ

2.  กล้วย ผลไม้แห่งความมั่งมี (กล้วยหอมทอง)

ข้อนี้ผู้เขียนขอแนะนำว่า เป็นกล้วยหอมทองจะดีที่สุด ด้วยเพราะว่าลักษณะของกล้วยที่ออกเป็นเครือ จึงมีความหมายในทางมงคลว่า ทำให้ครอบครัวเจริญงอกงามมีลูกหลานมากมายไว้สืบสกุล อีกทั้งกล้วยเป็นพืชที่แตกหน่อแพร่ขยายพันธุ์ได้ง่าย ทนทาน ตายยาก ก็สื่อความหมายถึงการแพร่ขยายของวงศ์ตระกูลได้ดีนั่นเอง และสีเหลืองทองของกล้วยยังหมายถึงความมั่งมี ร่ำรวยเงินทองอีกด้วยค่ะ

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนไหว้ตรุษจีน!! ผลไม้อะไรไหว้แล้วเฮง เป็นสิริมงคล และผลไม้ต้องห้ามไหว้รับตรุษจีนมีอะไรบ้าง? ไหว้ตรุษจีนที่ถูกต้องควรไหว้ตอนไ

3.  สับปะรด ผลไม้แห่งความโชคดี (สับปะรดเรียกโชคลาภ)

สำหรับสับปะรดภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกว่า "อั่งไล้" แปลว่า เรียกสีแดงมา โดยคำว่า อั่ง แปลว่าสีแดง ส่วนคำว่า ไล้ แปลว่า เรียกมาหาเรา เมื่อรวมกันจึงแปลความได้ว่า เรียกสีแดงหรือเรียกความโชคดีให้มาหาเรา จึงควรมีสับปะรดเป็นหนึ่งในของไหว้ อย่าได้ขาด นะคะท่องเอาไว้เลยเวลาไปซื้อจะได้ไม่ลืม!

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนไหว้ตรุษจีน!! ผลไม้อะไรไหว้แล้วเฮง เป็นสิริมงคล และผลไม้ต้องห้ามไหว้รับตรุษจีนมีอะไรบ้าง? ไหว้ตรุษจีนที่ถูกต้องควรไหว้ตอนไ

4.  องุ่น ผลไม้แห่งความงอกงาม (องุ่นแดง ผลไม้แห่งความเจริญงอกงาม)

องุ่นก็เช่นกัน เป็นผลไม้ที่มีความหมายดีในแง่ของภาษาจีนแต้จิ๋ว โดยคนจีนแต้จิ๋วจะเรียกว่า "ผู่ท้อ" แปลว่า "งอกงาม" โดยสรุปคือการนำองุ่นมาเป็นของไหว้จะทำให้ผู้ไหว้และครอบครัวมีความเจริญรุ่งเรือง เติบโต นั่นเอง แต่เน้นว่าต้องเป็นองุ่นสีแดง เพื่อเอาเคล็ดเรื่องสีที่เป็นมงคล เป็นสีแห่งความเฮงหรือความโชคดีนั่นเองค่ะ

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนไหว้ตรุษจีน!! ผลไม้อะไรไหว้แล้วเฮง เป็นสิริมงคล และผลไม้ต้องห้ามไหว้รับตรุษจีนมีอะไรบ้าง? ไหว้ตรุษจีนที่ถูกต้องควรไหว้ตอนไ

5.  แก้วมังกร ผลไม้แห่งความอุดมสมบูรณ์ (ผลไม้แห่งความเฮง)

ด้วยชื่อเสียงเรียงนามก็น่าเกรงขามแล้ว สำหรับแก้วมังกร ตามคติความเชื่อของชาวจีนจะนับถือมังกรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งแก้วมังกรมีเปลือกเป็นสีแดง เป็นสีมงคลนำพาความเฮง เฮง เฮง มาให้ครอบครัว ข้อนี้ผู้เขียนขอแนะนำว่า ควรเลือกแก้วมังกรที่มีเปลือกสีแดงและเนื้อด้านในเป็นเป็นสีแดงเข้มด้วยก็ยิ่งดี ยิ่งเสริมมงคลให้มีมากเท่าทวีคูณค่ะ

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนไหว้ตรุษจีน!! ผลไม้อะไรไหว้แล้วเฮง เป็นสิริมงคล และผลไม้ต้องห้ามไหว้รับตรุษจีนมีอะไรบ้าง? ไหว้ตรุษจีนที่ถูกต้องควรไหว้ตอนไ

ทั้งนี้ทั้งนั้นนอกจากผลไม้มงคล 5 ชนิดหลักๆนี้แล้วใครจะนำผลไม้ที่มีสีแดงหรือสีเหลืองทองอื่นๆมาไหว้เสริมด้วย ก็ไม่ถือว่าผิดกฏกติกาข้อห้ามแต่อย่างใดค่ะ ซึ่งผลไม้ที่นิยมกันส่วนใหญ่นอกเหนือจากผลไม้มงคล 5 ชนิดดังที่ผู้เขียนได้แนะนำในไว้ข้างต้นแล้วนั้น ก็เห็นจะเป็น แอปเปิลแดง สตรอว์เบอร์รี่ และ สาลี่ทอง เป็นต้น ส่วนปริมาณจะไหว้มากไหว้น้อยก็ตามศรัทธา จะจัดเป็นอย่างละ 5 ผลก็ได้ หรือจัดมาอย่างละลูกก็ได้ค่ะ

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนไหว้ตรุษจีน!! ผลไม้อะไรไหว้แล้วเฮง เป็นสิริมงคล และผลไม้ต้องห้ามไหว้รับตรุษจีนมีอะไรบ้าง? ไหว้ตรุษจีนที่ถูกต้องควรไหว้ตอนไ

 แต่ตรงนี้ผู้เขียนขอย้ำเน้นๆเลยนะคะว่า การไหว้ตรุษจีนต้องไหว้ตามกำลังทรัพย์ที่แต่ละคนพอมีเท่านั้น จึงจะถือว่าดีที่สุดค่ะ แต่ถ้าเป็นกรณีของผู้มั่งมีทรัพย์มากก็จัดมาให้ครบถ้วนตามความสะดวกความเหมาะของแต่ละบุคคลได้ตามใจชอบเลยค่ะ อันนี้เราไม่ว่ากันอย่างไรก็ เฮง เหมือนกันอยู่ดี หรือ ถ้าหากว่าใครมีงบประมาณน้อยๆแต่มีเจตนาจะไหว้ตรุษจีนเช่นคนอื่นๆล่ะก็
ผู้เขียน ขอแนะนำว่าให้จัดเครื่องเซ่นไหว้ อย่างละเล็กๆน้อยๆแต่พองามแล้วใส่รวมในถาดเดียวกันแค่พอเป็นพิธีก็พอค่ะ ไม่ต้องไปซีเรียสไม่ต้องเป็นกังวลใจอะไรกันนะคะ เพราะไม่ได้ผิดหลักการค่ะ ขึ้นอยู่กับเจตนาความตั้งใจของตัวเองเป็นหลัก!!ไม่เกี่ยวกับว่าใครมีมากมีน้อยอะไรไม่ต้องอายใคร
 จำไว้เลยนะคะว่า ความหมายที่แท้จริงของ ความเป็นสิริมงคลที่ได้แก่ตัวเรานั้นจะมีความบริสุทธิ์มากที่สุด ก็คือการปฏิบัติด้วยใจและเจตนาอันบริสุทธิ์ ไม่ทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อน ไม่เบียนเบียนผู้อื่นก็พอแล้วค่ะ ไม่ต้องไปปฏิบัติตามกระแสใคร เอาเท่าที่เรามีนั่นแหละดีที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุดแล้วค่ะ ผู้เขียนเชื่อว่าเทพเจ้าต่างๆ รวมถึงเหล่าดวงวิญญาณของบรรพบุรุษ จะต้องมีความภูมิใจที่ได้เห็นเจตนาความตั้งใจของลูกๆหลานๆแต่ละคนอย่างแน่นอน

“สำหรับตรงนี้ ผู้เขียน ขอแนะนำว่าที่สำคัญสุด!!ก็คือการไหว้ตรุษจีนที่ถูกต้องตามหลักดั้งเดิมนั้นจะไหว้กัน 4 เวลานะคะ ดังนั้นอย่าให้คลาดเคลื่อนโดยเด็ดขาด!! ส่วนใครที่ยังไม่ทราบในเรื่องฤกษ์มงคลเวลาที่จะทำพิธีไหว้นั้น
วันนี้ผู้เขียนก็ได้นำ[เคล็บลับฉบับจิ๋วประจำตระกูล]มาบอกเสริมให้ด้วยอีกประการหนึ่งค่ะ เรียกได้ว่าใครทำได้ทั้งหมดตามเคล็ดลับนี้ รับรองว่า คุณจะมีแต่ความ เฮง เฮง เฮง ร่ำรวย มีโชคดี มีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าเฟื่องฟูในทุกๆด้าน ตลอดปี 2561 อย่างแน่นอนค่ะ!! “

การไหว้ตรุษจีนที่ถูกต้องตามหลักดั้งเดิมนั้นจะไหว้กัน 4 เวลา คือ..

พิธีการตอนเช้า ไหว้พระไหว้เจ้า: 
พิธีการตอนสาย ไหว้บรรพบุรุษ :พ่อแม่ปู่ย่าช่วงเวลาประมาณ 09.00-12.00 น. รับประทานของไหว้ได้เช่นกันค่ะ

3. พิธีการตอนบ่าย ไหว้สัมภเวสี ผีไม่มีญาติ: 
ช่วงเวลาประมาณ 13.00-15.00 น. ของไหว้จะจัดเยอะมากขึ้น โดยเพิ่มข้าวสารอาหารแห้งเข้าไปด้วย พอไหว้เสร็จ ส่วนใหญ่จะเอาไปแจกจ่ายให้ผู้คนทั่วไป เป็นการทำบุญให้ทานกับคนจำนวนมากๆนั่นเองค่ะ

4. พิธีการตอนดึก ไหว้เทพไฉ่ซิงเอี้ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภเงินทอง:
 ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ของไหว้มีมากมายหลายอย่าง แต่ว่าหนึ่งใน
นั้นจะต้องมีผลไม้ 5 อย่างด้วยนะคะ

และสุดท้ายนี้ ผู้เขียน จะขอปิดท้ายบทความนี้ด้วยเรื่อง 'ผลไม้ต้องห้าม' ที่ไม่ควรนำมาเป็นของไหว้ในเทศกาล ตรุษจีน ได้แก่ ผลไม้ทุกชนิดที่มีสีสันเป็นสีดำและสีขาว  เช่น องุ่นดำ เชอร์รี่สีคล้ำดำ ค่ะท่านผู้ชม เนื่องจากผลไม้ที่มีสีดำและสีขาวนั้น มีความหมายถึงการไว้ทุกข์ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสม ชาวจีน ต่างก็มีความเชื่อถือกันว่าไม่เป็นมงคล จึงไม่นิยมนำมาเป็นของเซ่นไหว้ในวันสำคัญ ตรุษจีน หรือ วันขึ้นปีใหม่จีนค่ะ  ทั้งนี้ก็ยังมีผลไม้ที่มีเปลือกสีเขียวต่างๆ เช่น ส้มเปลือกเขียว  กล้วยดิบ องุ่นเขียว ลูกแพร์เขียว ฝรั่ง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ผลไม้ต้องห้าม  แต่ก็เป็นเพราะว่า ผลไม้ต่างๆที่มีสีสันเป็นสีเขียวเหล่านี้ ไม่ได้มีความหมายในทางด้านความเป็นสิริมงคล  จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมนำมาเป็นของไหว้นั่นเองค่ะ  เมื่อท่านผู้ชม-ผู้อ่านทุกท่านได้รู้เคล็ดลับความเป็นสิริมงคลของคนจีนโบราณแบบฉบับดั่งเดิม เอาไว้ก่อนหน้าช่วงเทศกาลกันอย่างนี้แล้ว ผู้เขียน หวังว่าในช่วงเทศกาลวันไหว้ ตรุษจีน ปีนี้ทุกคนจะไม่ลืม
เลือกซื้อของไหว้ตรุษจีนกันให้ถูกต้องตามหลักการด้วยนะคะ นอกจากจะช่วยเสริมสิริมงคลให้แก่ตัวคุณเองและคนในครอบครัวตามความเชื่อแล้ว การไหว้ตรุษจีนให้ถูกหลักก็เป็นหนึ่งในข้อปฏิบัติที่ทุกคนควรกระทำอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นต้นแบบให้บรรดาลูกหลานในวงศ์ตระกูลได้เรียนรู้ได้ซึมซับขั้นตอนพิธีการเอาไว้สืบสานต่อๆกันไปในทุกยุคสมัยและช่วยให้พิธีนี้ยังคงศักดิ์สิทธิ์ต่อไปได้อีกยาวนานชั่วลูกหลานค่ะ

ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ..และขอขอบคุณแหล่งที่มาของภาพและข้อมูลจาก:วิกิพีเดีย,
ข้อมูลจาก:คุณแม่ศิริพร อินทรสุข[ ดินแดง]และข้อมูลเพิ่มเติม,(บางส่วน)จาก :อินเตอร์เน็ตค่ะ
เรียบเรียงโดย: โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์