- 29 พ.ย. 2561
ลูกศิษย์หมดศรัทธารู้ข่าวฤาษีตาไฟถูกจำคุกขืนใจสาว 17 ยืนยันไม่ได้ช่วย ตัวเองก็โดนหลอกเหมือนกัน!
จากกรณีผู้พิพากษาศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้อ่านคำพิพากษาคดีนายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ หรือ ร่างทรงปู่ฤาษีตาไฟ ที่ถูกอ้างว่าเป็นคนข่มขืนสาววัย 17 ปีในวันที่ 26-27 ส.ค. 2561 โดยศาลได้พิพากษาคดีนี้ ว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องจริง จึงตัดสินจำคุกจำเลยเป็นเวลา 5 ปี ปรับ 60,000 บาท ซึ่งการไต่สวนในชั้นศาลจำเลยให้การรับสารภาพ และจำเลยยอมจ่ายสินไหมเยียวยาผู้เสียหายเป็นเงิน 150,000 บาท จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 2 ปี 6เดือน ปรับ 30,000 บาท โทษจำรอลงอาญา 3 ปี โดยให้มารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้ง มีบางข้อหาที่สามารถยอมความได้ ผู้เสียหายได้ถอนคำร้องแล้ว
โดยกรณีนี้สืบเนื่องจากที่นายแก้ว (นามสมมติ) อายุ 47 ปี และนางสวยผู้เป็นภรรยา ได้พา น.ส.บี (นามสมติ) ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท. หญิง ศิรินทรา บุญธรรม รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ ว่าน.ส.บี ถูกนายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ คนพิการแขนขาอ่อนแรงลุกยืนเดินไม่ได้ อยู่บ้านเลขที่ 180 หมู่ 9 ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เป็นร่างทรงที่อ้างตัวเป็นพ่อปู่ฤาษีตาไฟ ข่มขืนกระทำชำเราภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง บนถนนสายศรีสะเกษ-ขุขันธ์ อำเภอเมืองศรีสะเกษ เหตุเกิดระหว่างวันที่ 26-27 ส.ค.61
ต่อมาวันที่ 31 ส.ค. 61 นายสุรสิทธิ์ พละศักดิ์ ได้เข้าพบ พงส.สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อมอบตัวต่อสู้คดี พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายสุรสิทธิ์ว่า พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น
ซึ่งนายสุรสิทธิ์ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งตัวนายสุรสิทธิ์ ฝากขังต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษ และในวันเดียวกันญาติได้ยื่นขอประกันตัวศาลอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 200,000 บาท พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานจนครบถ้วนแล้วสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ กระทั่งพนักงานอัยการส่งสำนวนยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2561
ซึ่งก่อนหน้านี้มีลูกศิษย์ของนายสุรสิทธิ์ชื่อว่านายทวีได้ออกมาให้ปากคำหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าร่วมมือกับนายสุรสิทธิ์พาสาว 17 ไปส่งที่รีสอร์ทที่เกิดเหตุ นายทวีเคยอธิบายไว้ว่า ตนรู้จักกับนายสุรสิทธิ์ ตอนที่ตนเป็นคนขับรถสิบล้อให้กับบริษัท แล้วหัวหน้าบริษัทได้เชิญนายสุรสิทธิ์มาทำพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากทำพิธีเสร็จ นายสุรสิทธิ์ก็ทักตนเรื่องดวงชะตา ซึ่งตนก็เชื่อและนับถือมาตลอด โดยรู้จักกันมาตั้งแต่กลางปี 2559
สำหรับวันเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 61 เวลาประมาณ 08.00 น. ตนออกจากบ้านพร้อมลูกสาวไปรับน.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี แล้วก็เดินทางไปรับนายสุรสิทธิ์ที่บ้าน จากนั้นพาไปที่รีสอร์ต ใน จ.ศรีสะเกษ ไปถึงรีสอร์ตเวลาประมาณ 14.20 น. โดยนายสุรสิทธิ์เป็นคนสั่งให้เปิด 2 ห้อง ห้องแรกเป็นห้องพักสำหรับคนที่ยังไม่ได้ทำพิธี อีกห้องเป็นห้องที่นายสุรสิทธิ์อยู่กับคนทำพิธีเท่านั้น คนไม่ได้ทำพิธีห้ามเข้า คนแรกที่นายสุรสิทธิ์ให้เข้าไป คือเด็กสาวอายุ 17 ปี โดยทำพิธีตั้งแต่เวลา 14.30 น. – 17.00 น. จากนั้นก็มาเปลี่ยนเป็นลูกสาวของตนให้เข้าไปทำพิธี ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเท่านั้น เหตุที่ใช้เวลาน้อยกว่า เพราะนายสุรสิทธิ์อ้างว่าเคราะห์ไม่หนักเท่ากัน จากนั้นก็ให้เด็กสาววัย 17 ปี เข้าไปอีกรอบ จนถึงเวลาประมาณ 24.00 น. นายสุรสิทธิ์ก็ได้เปลี่ยนให้ลูกสาวของตนเข้าไปอีกครั้ง ซึ่งรอบนี้ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเหมือนเดิม แล้วก็เปลี่ยนให้เด็กสาวเข้าไปอีกรอบและอยู่จนถึงเช้าของวันที่ 27 ส.ค.
จนกระทั่งเช้าวันที่ 27 ส.ค. นายสุรสิทธิ์ทำพิธีช่วงเช้า เวลาประมาณ 07.14 น. โดยอ้างว่าเพื่อให้ขลังขึ้น หลังจากทำพิธีเสร็จ ตนไปส่งเด็กสาวที่บ้านถึงเวลาประมาณ 15.00 น. ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. ครอบครัวของเด็กสาวก็เดินทางมาที่บ้านตน แล้วต่อว่านายสุรสิทธิ์ว่าข่มขืนเด็กสาว แต่นายสุรสิทธิ์ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ จนทางครอบครัวต้องเดินทางไปแจ้งความ โดยนายทวียืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็อยากช่วยครอบครัวเด็กสาวทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนวางแผน และพร้อมที่จะให้ปากคำกับตำรวจ
กระทั่งล่าสุดได้ทราบข่าวว่านายสุรสิทธิ์ถูกตัดสินจำคุกนายทวีก็เปิดใจเล่าว่า ตนมามั่นใจตอนศาลตัดสินว่าถูกนายสุรสิทธิ์หลอกเช่นเดียวกัน ตอนรู้ข่าวตนเสียใจและเสียความรู้สึกมากแต่ตนไม่ขอโกรธแค้น อยากให้เลิกแล้วต่อกัน จากนี้ก็จบกันไป ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
ส่วนกรณีที่ว่านายสุรสิทธิ์ข่มขืนเด็กสาว 17 ในเมื่อศาลตัดสินอย่างนี้ก็แสดงว่าเป็นเรื่องจริง ตนก็รู้สึกไม่ดีจากนี้จะเลิกศรัทธาในตัวนายสุรสิทธิ์ และขอยืนยันว่าตนไม่เคยหลอกลวงครอบครัวของเด็กสาวเลย และไม่เคยหลอกเด็กสาวไปให้นายสุรสิทธิ์ข่มขืน เรื่องนี้เป็นเรื่องพฤติกรรมส่วนตัวของนายสุรสิทธิ์เอง
คลิป..
ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว อัมรินทร์ทีวี