เต้ย วุฒิพงษ์ ลูกชายบุญธรรมของศิริพร เปิดใจเล่าชีวิตล่าสุดของแม่

ผ่านพ้นมรสุมเรื่องราวร้ายๆ ไปแล้ว สำหรับนักร้องหมอลำคนดัง "ศิริพร อำไพพงษ์" ที่ได้ส่งน้องชายเข้าเจรจากับพี่โก้ อดีตสามี ที่บ้านเรื่องแบ่งทรัพย์สิน จนสามารถตกลงกันได้ และขอจบสถานะสามีภรรยาอย่างเรียบร้อย 

 

 

ต่อมาต่างมีกระแสชื่นชมหลังจากที่ ศิริพร หรือแม่นาง ไปขึ้นโชว์ในงานมินิคอนเสิร์ต One Night in Poi-Pet A-SET ZONE Present หนึ่ง จักรวาล With ครูสลา คุณวุฒิ พร้อมศิลปินลูกศิษย์ ที่ประเทศกัมพูชา แม้จะมีข่าวเรื่องสามีและลูกบุญธรรมถาโถมเข้ามา แต่เจ้าตัวก็สตรอง เล่นคอนเสิร์ตอย่างมืออาชีพ ชงมุกโดนๆ คำแซ่บๆ จนแฟนคลับพากันกรี๊ดลั่น

 

โดยบนเวทีในช่วงพูดคุยกับแฟน ๆ หลังร้องเพลง กอดคนนอกใจ ที่มีเนื้อหากระแทกใจตั้งแต่ท่อนแรกที่บอกว่า "ไม่ได้โดนหลอก แต่โดนนอกใจ" ซึ่งศิริพรก็ได้พูดปิดท้ายหลังร้องเพลงว่า ใครเคยโดนนอกใจบ้าง ซึ่งก็มีแฟนๆ ส่งเสียงกรี๊ดเป็นจำนวนมาก ก่อนเจ้าตัวจะพูดอีกว่า ไม่เว้นแม้กระทั่งคนร้องเพลง ทำเอาแฟนๆ ฮือฮาไปตามๆ กัน

 

อ่านข่าว : ศิริพร พูดความจริงบนเวทีคอนเสิร์ต เรื่องความรักไม่ได้ดั่งใจ (คลิป)  

และเมื่อวันที่ 1 ก.ค.62 ที่ผ่านมา เจ้าตัวก็ถูกลอตเตอรี่ 100 ใบ ฉลองชีวิตโสดและรวยมาก ล่าสุดเต้ย-วุฒิพงษ์ คูณอาษา ลูกชายบุญธรรมของศิลปินลูกทุ่งรุ่นใหญ่ ศิริพร อำไพพงษ์ ที่ก่อนหน้านี้เคยมีประเด็นดราม่าภายในครอบครัว จนกลายเป็นข่าวฉาวสะเทือนวงการที่ใครหลายคนให้ความสนใจ เจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา และให้กำลังใจแม่ศิริพรด้วย

 

 

 

โดยหนุ่มเต้ย ได้อัพเดทสภาพจิตใจของแม่ว่า "ล่าสุดที่โทรไปหาคุณแม่ ท่านก็บอกว่าโอเคขึ้นแล้ว ทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้ว ตอนนี้คุณแม่ก็นับหนึ่งใหม่ แล้วตอนนี้ล่าสุดถูกล็อตเตอรี่ 100 ใบ ดูแฮปปี้ขึ้นเยอะเลยครับ 2 ตัวท้าย 86"

 

ส่วนกระแสตอนที่มีข่าวออกมาว่าลูกบุญธรรมของคุณแม่แอบมีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับคุณพ่อ ส่วนตัวของผมเองก็ตกใจนะ ไม่คิดว่าจะมีข่าวมาในทางด้านนี้ ก็วันนั้นผมอยู่ต่างจังหวัด ผมกลับบ้าน ก็รู้ข่าวพร้อมๆ กับทุกคนเลย เราก็รู้จักกับเขาด้วย พี่เขาเป็นลูกบุญธรรมก่อนเรา แต่ตัวผมเองจะไม่ได้ใช้ชีวิตกับที่บ้านคุณแม่ครับ ผมเข้ามาทำงานในกรุงเทพ ก็ไปเจอบ้างตามงานบุญ เจอกันที่บ้านครับ แต่ไม่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในบ้านด้วย

 

 

เมื่อถามว่า ตั้งแต่เป็นข่าวได้คุยกับลูกบุญธรรมคนนั้นหรือกับพ่อบ้างไหม ?

"ผมก็คุยด้วยปกติ เพราะว่าทางคุณพ่อเราก็เคารพนับถือ ทางคุณแม่เราก็เคารพนับถือเหมือนกัน เราก็คุยด้วยตามปกติ แต่ในพาร์ทของเรื่องส่วนตัว เราไม่ไปก้าวก่าย เราจะไม่เข้าไปสอบถามรายละเอียดว่าเป็นยังไง เราก็ให้กำลังใจทั้งสองฝ่ายครับ"

 

 

ตอนนี้ผมสัมผัสได้ว่าแม่นาง เขาดีขึ้น เริ่มกลับมาเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น จริงๆ ผมตามข่าวนะครับ ซึ่งด้วยน้ำเสียงและอะไรต่างๆ ผมค่อนข้างรู้สึกได้ว่าช่วงนั้นแม่น่าจะเครียด ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะไม่ถามอะไร ผมอยากรอให้ทุกอย่างโอเคก่อน ซึ่งครั้งล่าสุดที่ผมโทรไปหาแม่ แม่เขาก็ดูโอเคขึ้นนะ ดูแฮปปี้มากขึ้น ทุกอย่างมันผ่านไปหมดแล้ว
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณ : sanook.com