ผบ.ตร. แถลงปมเสียชีวิตน้องชมพู่ เผยสิ้นเรื่องหมายจับ-ผู้ต้องสงสัย

ผบ.ตร. แถลงปมเสียชีวิตน้องชมพู่ เผยสิ้นเรื่องหมายจับ-ผู้ต้องสงสัย

จากกรณีการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของน้องชมพู่ ที่หายตัวออกไปจากบ้านกกกอก จังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 ถึง 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กระทั่งพบศพบนภูเห็นเหล็กไฟ ผ่านมาเกือบ 5 เดือน ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ หลังพยานหลักฐานและการสืบสวน ตำรวจให้น้ำหนักว่าน้องชมพู่ถูกฆาตกรรม แล้วนำศพไปอำพรางไว้บนภูเขา มากกว่าน้องเดินขึ้นภูไปเองแล้วเสียชีวิตมีรายงานว่า วันนี้ (2 ต.ค.)

โดยทางด้านของ พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ จะชี้แจงความคืบหน้าคดีนี้ในช่วงบ่าย หลังแถลงนโยบาย ที่สโมสรตำรวจ พลตำรวจเอกสุวัฒน์ เป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีน้องชมพู่ จะอธิบายถึงบทสรุปของคดี พร้อมกับแจกคลิปวิดีโอ พรีเซนเทชั่นเล่าถึงความเชื่อมโยงต่างๆ ซึ่งพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์คืบหน้าไป 99% อีก 1% คือรอผลตรวจเส้นผมที่หล่นอยู่ใกล้กับจุดที่พบศพน้องชมพู่ ซึ่งส่งไปตรวจที่สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ

ทั้งนี้ หากตรวจเส้นผมแล้วไม่มีพยานหลักฐานใดเพิ่มเติม ก็ต้องพักการสืบสวนสอบสวนไปก่อน จนกว่าจะมีข้อเท็จจริงใหม่ ซึ่งสามารถสืบสวนต่อได้ภายในอายุความ 20 ปี มีรายงานว่า ตำรวจสรุปรูปคดีของคดีนี้ว่า มีคนร้ายที่อุ้มตัวน้องชมพู่ออกไปจากบ้านแน่นอน โดยคนร้ายเป็นคนใกล้ชิด มีความคุ้นเคยกับน้องชมพู่เป็นอย่างดี ที่สำคัญจากการตรวจสอบพฤติกรรมน้องชมพู่ไม่เคยไปไหนด้วยตัวเอง และยอมให้ไม่กี่คนอุ้มได้ ที่ผ่านมาเคยมีพยานยืนยันว่า คนในหมู่บ้านด้วยกันเองมาขออุ้มน้องชมพู่ก็ไม่ยอมให้อุ้ม เอาแต่ร้องไห้

สรุปคดีว่า เด็กไม่ได้หลงแล้วไปเสียชีวิตเองแน่นอน คนร้ายมีความใกล้ชิดเข้านอกออกในบ้านได้ รวมทั้งรู้จักพื้นที่ภูเหล็กไฟ ที่นำศพไปทิ้งด้วย เพียงแต่ในขณะนี้มูลเหตุจูงใจอาจไม่ตั้งใจที่จะฆาตกรรม

ล่าสุดในวันนี้ (02/09/2563) พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ได้แถลงเป็นประเด็นต่างๆ โดยเพจDrama-addict ได้แยกประเด็นต่างๆ อาทิเช่น 1. ผบ ตร ยืนยัน ไม่ใช่การแถลงยุติการสอบสวนคดี แต่เป็นการแถลงเพราะมีความคืบหน้าในการสอบสวน
2.ตำรวจทีมสอบสวนท้าวความคดีน้องชมพู่ และอธิบายว่าตำรวจได้เก็บข้อมูลและสอบสวนถึงขั้นตอนไหนแล้วบ้าง

3.สรุป น้องชมพู่ไม่สามารถขึ้นภูเหล็กไฟด้วยตัวเอง

4.เปิดคลิปประกอบการนำเสนอรายละเอียดคดี ในคลิประบุว่า น้องชมพู่ไม่สามารถขึ้นภูเหล็กไฟได้ เพราะความสูงชันถึง 60 องศา สูงกว่าความชันบันไดบ้านน้องชมพู่ที่ 45 องศาซึ่งน้องยังขึ้นเองไม่ได้
และมีข้อมูลประกอบจากนักโภชนาการ ว่าการปีนขึ้นไปถึงจุดนั้นใช้พลังงาน 400-600 Kcal ไม่สอดคล้องกับอาหารที่น้องชมพู่กินในเช้าวันนั้น และเหตุผลประกอบอีกหลายประการ สรุปว่า น้องชมพู่ไม่สามารถขึ้นภูเหล็กไฟได้ด้วยตัวเองอย่างแน่นอน ในที่เกิดเหตุพบเส้นผม 36 เส้น เป็นของน้องชมพู่ มีหลักฐานถูกตัดด้วยของมีคม สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือผู้ก่อเหตุ 

5.แต่ยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับ ต่อผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจสงสัยได้ ตำรวจก็จะสอบสวนต่อไป คดีนี้มีอายุความ 20 ปี  

โดย ผู้ก่อเหตุมีความผิดเบื้องต้น 2 ข้อหาคือ พรากเด็กกักขังหน่วงเหนี่ยว และซ่อนเร้นอำพรางศพ โดยน้องชมพู่ไม่ได้ขึ้นเขาไปเอง แต่มีคนพาขึ้นไป ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของน้องชมพู่ทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะตั้งข้อหาใคร ว่าเป็นผู้ต้องสงสัยคนนี้ที่พาน้องชมพู่ขึ้นไป และตำรวจก็จะสอบสวนในประเด็นนี้ต่อไป

ผบ.ตร. แถลงปมเสียชีวิตน้องชมพู่ เผยสิ้นเรื่องหมายจับ-ผู้ต้องสงสัย

ผบ.ตร. แถลงปมเสียชีวิตน้องชมพู่ เผยสิ้นเรื่องหมายจับ-ผู้ต้องสงสัย

ผบ.ตร. แถลงปมเสียชีวิตน้องชมพู่ เผยสิ้นเรื่องหมายจับ-ผู้ต้องสงสัย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Drama-addict