เพื่อนบ้านสงสาร ครอบครัวติดโควิดทั้งบ้าน เเค่4วันสูญเสีย2ชีวิต ไร้การเหลียวเเล

ครอบครัวเศร้า พิษโควิด-19คร่าชีวิตคนในบ้านเป็นรายที่2ในระยะเวลาห่างกันไม่กี่วัน ล่าสุดหนุ่มวัยรุ่นติดโควิด นอนรอเตียงจนดับ ไร้หน่วยงานรัฐเหลียวแล

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เวลา 21.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักอาศัย ภายในซอยเจริญกรุง107 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสาน และ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที 

 

ลาซาด้า ดีลดี

 


 ภายในบ้านพักอาศัย เลขที่ 339/ 49 ซอยเจริญกรุง107 แยกย่อยซอยที่ 9 แขวง บางคอแหลม เขต บางคอแหลม กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะอาคารพาณิชย์ มีความสูง 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง เมื่อตรวจสอบแล้วพบผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย ทราบจากชาวบ้านว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ป่วยโควิด19 แล้วภายในบ้านยังมีผู้พักอาศัยอยู่ด้านในอีกประมาณ 3 คน หนึ่งในนั้นมีผู้สูงอายุซึ่งเป็นแม่ของผู้เสียชีวิตรวมอยู่ ทุกคนอยู่ในอาการโศกเศร้าและเสียใจกันเป็นอย่างมากต่างนั่งกอดกันร้องไห้กันระงมซึ่งเป็นภาพที่สลดและหดหู่กับบรรดาอาสาสมัครที่ไปร่วมกันเก็บร่างผู้เสียชีวิต 

เพื่อนบ้านสงสาร ครอบครัวติดโควิดทั้งบ้าน


ทราบต่อมาภายหลังว่าบ้านหลังนี้เดิมทีอยู่กัน 6 คน อยู่ โรงพยาบาล 1 คน และพอมาเมื่อประมาณวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ได้สูญเสียผู้เป็นน้าสาวไปจากโรคโควิด19 เป็นศพแรก และพอมาวันนี้วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ก็มาเสียคนในบ้านไปอีก 1 คนซึ่งก็เป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 เหมือนกัน และบ้านหลังนี้ติดเชื้อโควิด19 มานานแล้วและก็จะเก็บตัวกันอยู่ภายในบ้านโดยไม่ได้ออกไปไหนเลย ส่วนเบื้องต้นก็จะมีหน่วยงานของอาสาสมัครมาคอยส่งข้าว ส่งยาให้บ้างเป็นบางครั้งแล้วจะมีไรเดอร์ที่มาส่งอาหารหน้าบ้านอยู่เป็นประจำ แต่ไม่เคยเห็นหน่วยงานของภาครัฐเข้ามาดูแลผู้ป่วยภายในบ้านหลังนี้เลย จนตอนนี้ต้องสูญเสียคนในบ้านไปเป็นรายที่ 2 แล้ว 

เพื่อนบ้านสงสาร ครอบครัวติดโควิดทั้งบ้าน

 

  จากการสอบถามเพื่อนบ้านในละเเวกดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า เดิมบ้านหลังนี้อาศัยอยู่ร่วมกัน 6 คน ประกอบด้วย นายพา เจริญทรัพย์ อายุ 66 ปี เจ้าของบ้าน น.ส.เพ็ญศรี อบเทียน อายุ 56 ปี ภรรยา นายวราพล เจริญทรัพย์ อายุ 26 ปี ผู้ตายซึ่งเป็นบุตรชายคนโต และ นายชัยพฤกษ์ เจริญทรัพย์ อายุ 22 ปี บุตรชายคนเล็ก นอกจากนี้ยังมีญาติๆ ของ น.ส.เพ็ญศรี อยู่ด้วยอีก 2 คน คือ น.ส.อรอนงค์ อบเทียน อายุ 42 ปี และ นายแพ็ก อบเทียน อายุ 31 ปี โดยก่อนหน้านี้ช่วงต้นเดือน นายพา เจ้าของบ้านตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคโควิด มีรถพยาบาลมารับไปรักษาที่ รพ.หัวเฉียว ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา

  กระทั่งเวลาผ่านมาทุกคนในบ้านอีก 5 ชีวิต ก็ตรวจพบว่าติดโควิดเช่นเดียวกัน โดยทั้ง 5 คน ก็ไม่กล้าออกไปไหนพยายามติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยราชการหลายหน่วยงานเพื่อให้ส่งรถมารับไปรักษา และสั่งอาหารให้ญาติๆ และแกร็บฟู้ดมาส่ง จนเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา น.ส.อรอนงค์ อบเทียน อายุ 42 ปี ก็ทรุดหนักจนเสียชีวิตคาบ้านไปเป็นศพแรก พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ประสานให้มูลนิธิร่วมกตัญญู มารับร่างไปฌาปนกิจที่วัดด่าน ถนนพระราม 3 จนมาวันนี้ นายวราพล ก็มาเสียชีวิตอีกเป็นศพที่ 2 เหลืออีก 3 ชีวิตในบ้านที่ติดโควิด แต่ยังไม่ได้รับการเหลียวแลจากหน่วยงานใดๆ ทำให้เพื่อนบ้านหวาดผวากันจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน และต่างก็ฝากวิงวอนให้รัฐบาลช่วยเหลือผู้ป่วยด้วยมาตรการที่ดีกว่านี้


จึงอยากจะขอวิงวอนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มาช่วยนำผู้ป่วยที่ยังเหลือชีวิตรอดอีก 3 คนที่อยู่ภายในบ้านหลังนี้ไปรักษาตัวให้ไวที่สุดจะได้หรือเปล่าอย่าปล่อยให้พวกเขาเหล่านี้ต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้อีกเลย ชาวบ้านแถวนี้ต่างก็สงสารในเคราะห์กรรมของผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้านหลังนี้บางคนถึงกับยืนร้องไห้เมื่อต้องมาบอกเล่าถึงความเป็นมาของบ้านหลังนี้ ชาวบ้านที่นี้ก็อยู่ด้วยกันลำบากและต้องอยู่อย่างหวาดกลัวกันตลอดเวลา แจ้งให้หน่วยงานไหนก็ไม่มีใครเข้ามาเหลียวแล

เพื่อนบ้านสงสาร ครอบครัวติดโควิดทั้งบ้าน

 กรุณาอย่าปล่อยให้ประชาชนตาดำๆต้องอยู่กันอย่างหมดหวังแบบนี้เลยกราบวิงวอนผู้เกี่ยวข้องช่วยลงมาดูชาวบ้านแถวนี้ด้วย นี่เป็นบทสะท้อนถึงความเดือดร้อนของผู้ที่อยู่ในบ้านและได้รับความสูญเสียถึง 2 ครั้ง ในเวลาใกล้เคียงกันแค่ไม่กี่วันเอง

เพื่อนบ้านสงสาร ครอบครัวติดโควิดทั้งบ้าน

 

ลาซาด้า ดีลดี