ผู้ว่าฯ อุบล แจงปม สปป.ลาว ฉีดวัคซีน mRNA ให้ชาวไทยบุกเก็บเห็ด

จากกรณี ของ ชาวบ้านสุขเกษม ม.14 ต.คันไร่ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ออกไปเก็บเห็ดบริเวณป่าตามแนวชายแดนไทย -สปป.ลาว แล้วถูกเจ้าหน้าที่ทหารของลาว จับกุมตัวเอาไว้ เป็นหญิง 5 ราย ชาย 2 ราย ซึ่งข้อหาเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ลาวอาจตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
 

ก่อนที่ในเวลาต่อมานั้น ในรายการ  เรื่องเด่นเย็นนี้ รายงานว่า คนไทยทั้ง 7 คน ที่หลงเข้าลาวนั้น จะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA จากทางการลาวด้วย โดยขณะนี้ลาวมีวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์ และ Johnson & Johnson อย่างไรก็ตามจะมีการกักตัวจนครบ 14 วัน ถึงฉีดวัคซีนให้แล้วส่งตัวกลับประเทศไทยต่อไป
 

สำหรับความคืบหน้ากรณีดังกล่าวนั้น นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นทางจังหวัดได้รับรายงานจาก พื้นที่และทางสถานกงสุลใหญ่ แห่ง สปป.ลาว ว่าได้มีการควบคุมตัวคนไทยที่เข้าไปหาของป่าแล้วหลงเข้าไปในพื้นที่ของ สปป.ลาว 7 คน ทางจังหวัดอุบลราชธานีได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้ประสานไปทางสถานกงสุลใหญ่แห่ง สปป.ลาว ในการช่วยเหลือนำตัวคนไทยกลับมา แต่ทั้งหมดยังอยู่ในการควบคุมตามมาตรการควบคุมโรคของทางการลาวที่เมืองประทุมพร แขวงจำปาสัก โดยต้องกักตัวอย่างน้อย 14 วัน และจะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายของลาวก่อน

ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี กล่าวถึงประเด็นเรื่องของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบ mRNA ที่มีข่าวลือสะพัดจนเป็นที่สนใจ และชักชวนกันไปหาเห็ดเพื่อจะได้ถูกจับแล้วเข้าไปฉีดวัคซีนว่า ยืนยันว่ายังไม่มีการฉีด หรือการประสานมาจากทางการลาวว่า จะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับ 7 คนไทยที่ถูกจับกุมแต่อย่างใด และเรื่องนี้อาจจะทำให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หากมีการนำไปเปรียบเทียบเรื่องของการฉีดวัคซีน ดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามทางจังหวัดอุบลราชธานี และทางการไทยได้ประสานกับทาง สปป.ลาว อย่างใกล้ชิด พยายามขอให้ตัวแทนของไทยหรือเจ้าหน้าที่ได้ประสานทางมือถือว่ามีความต้องการอะไรบ้าง มีความเป็นอยู่อย่างไร ในบางรายที่ป่วยมีโรคประจำตัวจะส่งยาไปให้ได้หรือไม่อย่างไร เท่านั้น