สาวโวยยับ ติดโควิด 19 ถูกเรียกค่ารักษาโควิด 3.4 หมื่น หลังใช้บัตร ปชช. รุ่นเก่า

วันนี้ (20 ส.ค.2564)  ข่าวช่องวัน ได้มีการรายงานข่าว กรณีของ น.ส.สุเนตร อายุ 41 ปี ผู้ป่วยโควิด 19 ซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนามแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ได้วิดีโอคอลเพื่อขอความช่วยเหลือกับสื่อ หลังถูกเจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลชื่อดังของ จ.นนทบุรี เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจำนวน 3.4 หมื่นบาท กับนายเจ็กโฮ้ว อายุ 76 ปี ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงและติดเชื้อโควิด ถูกนำตัวส่งรักษาด้วยอาการหอบหืด หายใจติดขัดลำบาก ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันพ่อตนยังคงพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลดังกล่าว

โดยสาวผู้เสียหายนั้น ได้เปิดเผยว่า ครอบครัวตนอาศัยอยู่ร่วมกัน 11 ชีวิต มีผู้ใหญ่ 8 คน เด็ก 3 คน และเกิดติดเชื้อโควิดทั้งครอบครัว เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทาง สสจ.นนทบุรี ได้เข้าให้ความช่วยเหลือนำส่งครอบครัวตนไปรักษาตามที่ต่าง ๆ ผู้ใหญ่ถูกส่งไปโรงพยาบาลสนาม ส่วนเด็ก ๆ ถูกส่งไปที่ศูนย์พักคอยวัดตำหนัก แต่พ่อตนมีอาการหนักสุดจึงถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลชื่อดังประจำจังหวัด เนื่องจากสภาพปอดถูกทำลายไปมาก จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ในห้องไอซียูตลอดเวลา

โดย ระหว่างที่ตนกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม จู่ ๆ เมื่อวานนี้ (19 สิงหาคม) มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่พ่อรักษาตัวอยู่ โทรศัพท์มาแจ้งตนว่า พ่อของตนเข้ารักษาตัวโดยใช้บัตรประชาชนรุ่นเก่าซึ่งไม่มีเลข 13 หลัก ไม่สามารถบันทึกข้อมูลบุคคลได้ ทำให้มีค่ารักษาพยาบาลจำนวน 3.4 หมื่นบาท สร้างความงุนงงให้ตนเป็นอย่างมาก เนื่องจากตนทราบข่าวมาว่า รัฐบาลประกาศให้ผู้ป่วยโควิดทุกคนได้รับการรักษาฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่ทำไมเพียงเพราะพ่อของตนมีบัตรประชาชนแบบรุ่นเก่ากลับถูกเรียกเก็บเงินค่ารักษา ทั้ง ๆ ที่พ่อของตนก็เป็นคนไทยมีบัตรประจำตัวประชาชนเช่นกัน เพียงแต่เป็นรุ่นเก่า

ด้วยความสงสัยตนจึงให้ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนดังกล่าว ส่งบิลค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวพ่อมาให้ทางไลน์ แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่กลับส่งเป็นยอดเงินเรียกเก็บ 3.4 หมื่นบาท มาแทน พร้อมกับหมายเลขบัญชีธนาคาร ในนามเงินบำรุงโรงพยาบาล และแจ้งกลับมาว่า หากตนต้องการบิลค่ารักษาพ่อ ให้จ่ายเงินค่ารักษาจำนวนดังกล่าวมาก่อน และหลังจากจ่ายเงินจำนวนนี้มาแล้ว จะยังคงมีค่ารักษาต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนกว่าพ่อของตนจะหายหรือไม่ก็เสียชีวิตลง ทำให้ตนเองกลุ้มใจและเครียดมาก ๆ

ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลแจ้งกับตนว่า ให้ไปคุยกับสงเคราะห์ว่าช่วยได้แค่ไหน แต่อาจช่วยได้ไม่หมด ตนแจ้งโรงพยาบาลไปว่ายังไม่หายจากโควิด ทางโรงพยาบาลก็บอกให้รักษาตัวไปก่อนแล้วค่อยมาคุยกับสงเคราะห์เอา