โฆษกรัฐบาลพอใจ เห็นโควิดในไทยสัญญาณดีขึ้น เผย นายกฯ จัดหาวัคซีนเพิ่มอีก

หลังจากที่ศบค.ชุดใหญ่ได้สั่งประกาศล็อคดาวน์มานานร่วมเดือน ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดยังคงต้องยอมรับว่ายังน่าเป็นห่วงอยู่เนืองๆ เพราะแม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อจะลดลงเล็กน้อย แต่ยอดผู้เสียชีวิตยังพุ่งสูงอย่างน่าเป็นห่วง ขณะที่ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิดเองก็ยังไม่มากพอที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ 

 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า สถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโควิดของไทยมีสัญญาณดีขึ้น ซึ่งยอดผู้ป่วยที่รักษาหายสามารถกลับบ้านได้ ตัวเลขอยู่ที่สองหมื่นกว่ารายติดต่อกันเป็นเวลา 20 กว่าวันแล้ว และจำนวนผู้หายป่วยกลับบ้านนั้นมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ติดต่อกัน 10 กว่าวันแล้วด้วย 

 

นายธนกร แถลงอธิบายต่อไปว่า ถือเป็นข่าวดี ขณะเดียวกันจำนวนยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็มีแนวโน้มค่อยๆ ลดลงต่อเนื่อง แม้ว่าตัวเลขจะยังสูงอยู่ เนื่องจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แต่แนวโน้มในระยะยาวน่าจะค่อยๆ ลดลง 

นอกจากนี้ทาง ศบค. ได้เห็นชอบกับแผนการที่เรียกว่าการควบคุมโรคแนวใหม่ที่สมดุลกับการดำเนินชีวิตที่ปลอดภัยจากโควิด -19 หรือ “Smart Control and Living with COVID-19” ด้วยการยกระดับป้องกันตัวเองอย่างสูงสุด การฉีดวัคซีนให้เป็นภูมิคุ้มกันหมู่ การเข้าถึงชุดตรวจ ATK การจัดสภาพแวดล้อมของกิจการให้ปราศจากโควิด (COVID-Free Setting) เป็นต้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ตามแผนการจัดหาวัคซีนนั้น ภายในสิ้นปีนี้จะมีวัคซีนจำนวน 140 ล้านโดส นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เจรจาสั่งซื้อวัคซีนจากสหภาพยุโรป หรือ EU เพิ่มอีก แบ่งเป็นวัคซีน AstraZeneca จำนวน 2 ล้านโดสต่อเดือน (ก.ย. – ธ.ค. 64 เป็นเวลา 4 เดือน) และวัคซีน Pfizer/BioNTech จำนวน 2.5-3 ล้านโดสต่อเดือน (ก.ย. – ธ.ค. 64 เป็นเวลา 4 เดือน)