หมอปลา พายายเด็กอายุ 11 ขวบร้องดีเอสไอ หลานถูกคนมีสีกระทำชำเรา

วันนี้ (28 ก.ย.2564) นางไพบูลย์ กรีนวู๊ด นำหลานสาววัย 11 ปี พร้อมทนายความ เข้าร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ร้องเรียน กรณีหลานสาวถูกพลทหารข่มขืน แต่ตำรวจสภ.เมืองร้อยเอ็ดไม่รับแจ้งความ ทำเพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น จึงเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี 

นางไพบูลย์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์หลานสาวถูกพลทหารข่มขืน เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 18 นาฬิกา ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพลทหาร ที่รู้จักกับหลานสาวผ่านโซเชียลมีเดียราว 1 เดือน ขับรถจักรยานยนต์ มาที่ร้านค้าของตัวเอง ก่อนจะอาสา พาหลานสาว ไปซื้อน้ำแข็งตามที่ตัวเองสั่ง กระทั่งผ่านไปหลายชั่วโมง จึงตัดสินใจแจ้งความ เพราะหลานสาวหายไปนานจนเป็นที่น่าสังเกต ต่อมา วันที่ 23 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 9 นาฬิกา พลทหารรายดังกล่าวได้ขับรถจักรยานยนต์ มาส่งหลานสาว ซึ่งพบ หลานสาว มีสภาพอิดโรย เดินเซ จึงตัดสินใจสอบถามหลานสาวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่หลานสาวกลับปฏิเสธที่จะตอบคำถาม ตัวเอง จึงตัดสินใจพาหลานสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล กระทั่งพบอวัยวะเพศฉีกขาด มีร่องรอยฟกช้ำ โดยแพทย์แจ้งว่าจะส่งผลตรวจละเอียดให้ตำรวจภายหลัง จนผ่านไป 6 วัน ตำรวจเพิ่งจะโทรศัพท์รับทำคดี 

ทั้งนี้ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความบอกว่า คดีดังกล่าว มีการนำคนมีสี เข้าพูดจาข่มขู่ เพื่อให้ผู้เสียหายเกรงกลัว พร้อมอ้างผู้ก่อเหตุจะไม่ถูกดำเนินคดี ส่วนตัวเกรงผู้เสียหายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงตัดสินใจร้องเรียนที่ดีเอสไอ 

ขณะที่ หมอปลา เข้ามาช่วยเรื่องนี้อีก เพราะว่าต้นเรื่องทางครอบครัวเด็กสาววัย 11 ปีผู้เสียหาย ติดต่อไปทางหมอปลาและทนายเกิดพล  เนื่องจากเห็นว่ากำลังถูกตำรวจร้อยเอ็ดดำเนินคดีจากกรณีศูนย์บำบัดยาเสพติด แล้วหมอปลาพูดในไลฟ์สดเมื่อวันก่อนว่า ผู้เสียหายในจังหวัดร้อยเอ็ด หากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ทางหมอปลาพร้อมทีมทนายพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี จึงตัดสินใจเข้ามาขอความช่วยเหลือ