ยูเนสโก ขึ้นทะเบียน โนรา เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติแล้ว

องค์การยูเนสโก ประกาศรับรองขึ้นทะเบียน "โนรา" เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นลำดับที่ 3 ต่อจากการแสดงโขน และนวดไทย

จากสถานการณ์โควิด-19 และการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ โอไมครอน ทำให้ปีนี้ องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เปลี่ยนรูปแบบ การประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาล ว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 16 ที่จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 13-18 ธันวาคมนี้ ณ สำนักงานใหญ่องค์การยูเนสโก กรุงปารีส 

โดยต้องจัดในรูปแบบการประชุมทางไกล วิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ซึ่งในครั้งนี้ ประเทศไทยได้เสนอให้พิจารณาขึ้นทะเบียน โนรา เป็นมรดกวัฒนธรรม และล่าสุดในที่ประชุมเมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) ยูเนสโก ได้ประกาศให้ “โนรา”  เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ นับเป็นรายการที่ 3 ของไทย หลังจากการแสดงโขน และนวดไทย ได้เคยถูกขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ มาก่อนหน้านี้ ในช่วงปลายปี 2561 และปี 2562

ยูเนสโก ขึ้นทะเบียน "โนรา" เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติแล้ว

เว็บไซต์ขององค์การยูเนสโก ระบุเป็นภาษาอังกฤษว่า โนรา เป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านที่มีการรำและการขับร้องจากภาคใต้ของไทย โดยการแสดงประกอบด้วยการตั้งเครื่อง หรือการประโคมดนตรีเพื่อขอที่ขอทาง เมื่อเข้าโรงแสดงเรียบร้อยแล้ว ตามมาด้วยการโหมโรง กาศครู หรือเชิญครู ซึ่งเป็นการขับร้องบทไหว้ครู และการปล่อยตัวนางรำออกรำโดยการเคลื่อนไหวของขา แขน และนิ้วที่กระฉับกระเฉงและประณีต การแสดงมักจะมาจากเรื่องราวเกี่ยวกับพระชนมชีพในอดีตของพระพุทธเจ้า หรือเกี่ยวกับวีรบุรุษในตำนาน ประกอบกับดนตรีที่ใช้กลองหุ้มหนังหน้าเดียว ซึ่งเรียกว่า ทับ ที่ให้ทำนองและจังหวะที่หนักแน่น ร่วมกับปี่ กลอง โหม่ง ฉิ่ง แตระ

ยูเนสโก ขึ้นทะเบียน "โนรา" เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติแล้ว

ยูเนสโก ขึ้นทะเบียน "โนรา" เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติแล้ว

ยูเนสโก ขึ้นทะเบียน "โนรา" เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติแล้ว