ผลงานวิจัย เผยหลักฐานโควิดโอมิครอนติดเข้าสู่เซลล์ปอดได้ไม่ดีเท่าเดลต้า

ผลงานวิจัยระบุชัดไวรัสโอมิครอนติดเซลล์ปอดได้ไม่ดีเท่าไวรัสเดลต้า เป็นอีกหนึ่งหลักฐานว่าโอมิครอนติดเข้าสู่เซลล์ปอดได้ไม่ดีเท่าเดลต้า

 อัพเดทล่าสุด หมออนันต์ ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดผลงานวิจัย และ การถ่ายภาพของทีมวิจัยจาก Erasmus Medical Center ผ่านทางเฟซบุ๊ค Anan Jongkaewwattana โอมิครอนติดเซลล์ปอดได้ไม่ดีเท่าไวรัสเดลต้า


ภาพนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าไวรัสโอมิครอนติดเซลล์ปอดได้ไม่ดีเท่าไวรัสเดลต้า โดยเซลล์ที่ใช้ศึกษานี้สร้างมาจากเซลล์ต้นกำเนิด (stem cells) จากเนื้อเยื่อปอดของมนุษย์ และ เปลี่ยนมาเป็นเซลล์ที่เป็นเซลล์เสมือนเซลล์ในถุงลมปอดมนุษย์ (Alveolar type 2, AT2 cell) ซึ่งมีข้อมูลว่าเป็นเซลล์หลักที่ไวรัส SARS-CoV-2 เข้าไปติดเชื้อ และ ก่อให้เกิดความเสียหายในปอดในผู้ป่วยอาการหนัก และ เสียชีวิต

ผลงานวิจัย เผยหลักฐานโควิดโอมิครอนติดเข้าสู่เซลล์ปอดได้ไม่ดีเท่าเดลต้า

โดยเซลล์ AT2 ที่ใช้ได้ถูกทำให้เป็นโครงสร้างสามมิติ เรียกว่า Organoid ที่มีโครงสร้างเหมือนปอดมนุษย์มากกว่าเซลล์ที่แยกมาจากปอดและนำมาเพาะเลี้ยงไวรัสโดยทั่วไป เชื่อว่า ข้อมูลจากการใช้ระบบ Organoid ในการศึกษาจะใกล้เคียงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในร่างกายมนุษย์มากที่สุด

ผลงานวิจัย เผยหลักฐานโควิดโอมิครอนติดเข้าสู่เซลล์ปอดได้ไม่ดีเท่าเดลต้า

ในภาพสีม่วง คือ โปรตีนนิวคลีโอแคปซิด ( N ) ของไวรัส ซึ่งเป็นตัวแทนของการติดเชื้อ มีโปรตีนนี้มากเท่าไหร่เซลล์ก็จะติดเชื้อมากเท่านั้น จะเห็นว่า Organoid ที่ติดไวรัสเดลต้า (ภาพ A) มีปริมาณของเซลล์ติดเชื้อสูงกว่า เซลล์ที่ติดโอมิครอน (ภาพ B) ชัดเจน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหลักฐานว่า โอมิครอนติดเข้าสู่เซลล์ปอดได้ไม่ดีเท่าเดลต้า แต่ถ้าปริมาณโอมิครอนที่ติดเข้าส่เซลล์ปอดมีเยอะ เซลล์ที่ติดเชื้อได้ก็อาจมีมากขึ้นและสร้างปัญหาได้เช่นเดียวกัน (เพราะถึงแม้โอมิครอนจะติดไม่ดีแต่ก็ยังติดได้จากข้อมูลนี้) ผลงานวิจัย และ การถ่ายภาพของทีมวิจัยจาก Erasmus Medical Center

ผลงานวิจัย เผยหลักฐานโควิดโอมิครอนติดเข้าสู่เซลล์ปอดได้ไม่ดีเท่าเดลต้า

ขอบคุณ
Anan Jongkaewwattana