จากปากพ่อและลูก โรงเรียนโรงเรียนสาธิตมธ. หลังโดนจวก ล้างสมองเด็กเป็น 3 กีบ

คุณพ่อและนักเรียน "โรงเรียนโรงเรียนสาธิตมธ." เปิดเผยความจริง หลังโรงเรียนโดนจวก ว่าล้างสมองเด็กให้เป็น 3 กีบ!

เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้ออกมาโพสต์ข้อความ หลังมีดราม่าเกี่ยวกับ โรงเรียนโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุข้อความดังนี้ 

จากข่าวสาธิตธรรมศาสตร์ มีคุณพ่อท่านนึง เป็นผู้ปกครองของนักเรียนที่นี่ ฝากข้อความจากลูกเขามาอีกทีดังนี้ครับ

************************

สวัสดีครับ ผมเป็นหนึ่งในผู้ปกครอง เด็ก สาธิตธรรมศาสตร์ อยากมาแชร์ข้อมูล เกี่ยวกับดราม่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีคนมากล่าวหา รร ว่าพยายามล้างสมองเด็กให้เป็น 3 กีบ

ลูกผม เรียนที่นี่ 4 ปี ไม่เคยมีวันไหนไม่อยากไป รร เพราะที่นี่สอนสนุก สอนให้รู้จักคิด ตั้งคำถาม สอนทุกมุม อันนี้เป็นข้อความจากลูกผม

จากปากพ่อและลูก โรงเรียนโรงเรียนสาธิตมธ. หลังโดนจวก ล้างสมองเด็กเป็น 3 กีบ

 

**********************

รีวิวโรงเรียน จากนักเรียนจริงๆ

ปกติจะไม่ค่อยโพสเรื่องการเมืองแต่วันนี้ขอหน่อย

เรื่องแรก การแต่งกาย เห็นกลุ่ม อนุรักษ์นิยม หลายคนบอกว่า จะทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมมีการแบ่งชนชั้น ซึ่งบอกเลยว่า อยู่มา 4 ปี แต่งตัวธรรมดาไปโรงเรียนไม่เคยมีใครมาดูถูก แล้วก็ไม่มีการแบ่งชนชั้น เราแต่งตัวร่างกายของเราเรามีสิทธิ์ที่จะเลือกใส่ได้ ทุกคนก็ไปโรงเรียนด้วยชุดธรรมดา ปกติ เราไม่เคยต้องกังวลว่าต้องใส่ชุดอะไรมาโรงเรียน ซึ่งทุกคน happy และบริษัทต่างประเทศส่วนมากก็เป็นอย่างนั้นคือไม่ต้องสวมเครื่องแบบ แต่โรงเรียนเราก็จะให้สวมเครื่องแบบ ในช่วงพิธีสำคัญเช่นกัน เราไม่เคยต้องกังวลว่าต้องใส่ชุดอะไรไปโรงเรียน

เรื่องที่สอง การศึกษาล้างสมอง จริงหรอ เรื่องนี้ก็ไม่จริงอีก เพราะการเรียนการสอนในโรงเรียนก็เปิดโอกาสให้ใช้สิทธิเสรีภาพได้เต็มที่ มีการสอนเรื่องการเมืองหลายรูปแบบ ทั้ง เผด็จการ และ ประชาธิปไตย เสรีนิยม และ อนุรักษ์นิยม แบบตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง ครูจะพูดตลอดว่า สุดท้ายแล้วไม่มีระบบไหนที่ดีที่สุด ทุกระบบมีข้อดีข้อเสียของมันที่แตกต่างกันออกไป ไม่ได้สอนในรูปแบบใดรูปแบบนึง ซึ่งสุดท้ายแล้วความเชื่อทางการเมืองของนักเรียนก็อยู่ที่ตัวเองในการตัดสินใจ

เรื่องที่สาม การไม่มีการสอนเรื่องพระพุทธศาสนา ถึงแม้โรงเรียนเราจะไม่มีการสอนเรื่อง พระพุทธศาสนา แต่โรงเรียนเรามีการสอนศาสนา แต่ก็เป็นศาสนาโดยรวม คือทุกศาสนา เพราะสุดท้ายแล้ว สิทธิทางความเชื่อก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลเช่นกัน

เรื่องที่สี่ การไม่มีการเรียนการสอนลูกเสือเนตรนารี จากที่ต้นโพสบอกว่า เป็นการสร้างระเบียบวินัย บำเพ็ญประโยชน์ได้มีส่วนร่วมกับผู้อื่น แต่โรงเรียนนี้ก็ได้มีเปิดโอกาสให้ทำงานกลุ่มอยู่บ่อยๆอยู่แล้ว อีกทั้งการสร้างระเบียบวินัยและการบำเพ็ญประโยชน์มีได้หลายทาง ไม่ได้มาจากการเรียนลูกเสือเนตรนารีเท่านั้น เช่น การลงพื้นที่แก้ปัญหาจริงนำข้อมูลมาวิเคราะห์ในการแก้ปัญหาซึ่งเราเคยทำมาแล้วที่โรงเรียนของเรา หรือ การไปช่วยเหลือผู้คนในพื้นที่ห่างไกล ก็ทำมาแล้ว

นี่คือ ตัวอย่างของแนวคิดแบบ “อนุรักษ์นิยม” วันนี้พึ่งเรียนเรื่องนี้ไปเอง

อนุรักษ์นิยม = ชุดความคิดทางการเมืองที่เชื่อว่าสังคมจะอยู่ได้ต้องมีกฏเกณฑ์ที่ชัดเจนตายตัว รักษาให้มีกฏเกณฑ์ของสังคมที่มีเป็นวัฒนธรรมที่มีมาอย่างช้านานไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วฉับพลันมีความยึดมั่นกับสิ่งเดิมๆค่อนค่างมาก

สุดท้ายแล้วโรงเรียนนี้ก็สอนให้เราเคารพซึ่งกันและกัน เคารพสิทธิส่วนบุคคล รู้จักในสิทธิ์ของตัวเอง รู้จักให้เอสตัวรอดในชีวิตประจำวันได้ รวมถึงวิชาการทั้งภาคบังคับ และแบบตามความสนใจ ซึ่งผมก็เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดี

****

ประมาณนี้ครับ ที่ลูกชายของผู้ปกครองท่านนี้ฝากมา

จากปากพ่อและลูก โรงเรียนโรงเรียนสาธิตมธ. หลังโดนจวก ล้างสมองเด็กเป็น 3 กีบ