หนุ่มป่วยหนัก หมอต้องตัดขาทิ้ง หลังกินของเหลือจากเพื่อน แช่ตู้เย็นค้างคืน

หนุ่มป่วยหนัก หมอต้องตัดขาทิ้ง หลังกินอาหารเหลือจากเพื่อน ที่แช่ตู้เย็นไว้ค้างคืน จนถึงขั้นเกือบเสียชีวิต!

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวเตือนอุทาหรณ์ เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า ผู้ป่วยรายหนึ่งเป็นนักศึกษาชายวัย 19 ปี ซึ่งได้กินอาหารเหลือที่เพื่อนห่อกลับบ้านมาแช่ตู้เย็นไว้ตั้งแต่คืนก่อน แต่ภายหลังจากที่กินไปก็เริ่มมีอาการป่วย ปวดท้อง คลื่นไส้ มีไข้ขึ้นสูง และอัตราการเต้นของหัวใจสูงมาก

 

ทั้งนี้ นักศึกษาหนุ่มไม่เคยมีอาการแพ้ใด ๆ ซึ่งปกติไม่ค่อยดื่มแอลกอฮอล์ แต่สูบบุหรี่สัปดาห์ละ 2 ซอง และสูบกัญชาทุกวัน หลังจากนั้นอาการของเขาแย่ลงเรื่อย ๆ สีผิวของเขาเริ่มเปลี่ยนสีไป เพื่อนต้องรีบพาตัวเขาส่งห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาล

 

หนุ่มป่วยหนัก หมอต้องตัดขาทิ้ง หลังกินของเหลือจากเพื่อน แช่ตู้เย็นค้างคืน

 

ต่อมาแพทย์พบว่า เขาติดเชื้ออย่างรุนแรง ไตล้มเหลว และเกิดลิ่มเลือด ผลการตรวจเลือดพบว่ามีเชื้อแบคทีเรีย "ไนซีเรีย เมนิงไจไทดิส" (Neisseria Meningitidis) ในกระแสเลือด ซึ่งเป็นภาวะที่อาจส่งร้ายแรงถึงชั้นเสียชีวิตได้ โดยสันนิษบานว่า เขาได้รับเชื้อแบคทีเรียผ่านทางน้ำลาย และสาเหตุที่ป่วยหนักเนื่องจากไม่ได้รับวัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น เป็นเข็มกระตุ้นทั้งที่ปกติต้องได้รับตอนอายุ 16 ปี  

 

หนุ่มป่วยหนัก หมอต้องตัดขาทิ้ง หลังกินของเหลือจากเพื่อน แช่ตู้เย็นค้างคืน

 

หลังจากนั้นไม่นาน นิ้วมือของเขากลายเป็นเนื้อตาย รวมถึงขาทั้งสองข้าง ตั้งแต่ช่วงเข่าลงไปถึงเท้า ทำให้แพทย์ต้องตัดนิ้วมือทั้งสิบและขาทั้งสองจากใต้เข่าลงไปของเขาทิ้ง อย่างไรก็ตาม แม้จะสูญเสียอวัยวะสำคัญไป แต่โชคดีอย่างมากที่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต