"หมอธีระวัฒน์"เตือน อ้วน ไม่ใช่เรื่องสวยหล่อ แต่สมองหดเร็วและจะถึงตาย

"หมอธีระวัฒน์" ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ออกมาเตือนให้ความรู้ เกี่ยวกับ "สมองเหี่ยวหด ถ้ายังอ้วน"

"หมอธีระวัฒน์" ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ระบุว่า

สมองเหี่ยวหด ถ้ายังอ้วน

หมอดื้อ

2558

แม้ว่าจะมีรายงานใหม่เร็วๆนี้ (lancet neurology 2015) ว่าอ้วน จะสมองเสื่อมช้าลง ต้องพิจารณาให้ดีแม้อยากเชื่อก็ตาม เพราะค้านกับความรู้กลไก ขั้นตอน การเกิดโรคทุกชนิด แทบทุกอวัยวะ มากกว่า เร็วกว่า รุนแรงกว่าในคนอ้วน ส่วนคนผอม หรือไม่อ้วน รุ่งกว่า ขอร้องนะครับ กินกับ ไม่กินมาก สำหรับข้าว แป้ง ข้าวเหนียว ขนมปัง ขนมจีน ก๋วยเตี๋ยว ขนมหวาน แทนด้วยผักผลไม้กากไย วุ้นเส้น งดน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชาเขียว ชาขาว ใส่ขวด ที่โฆษณาว่าไม่มีกลูโคส แต่มีฟรุ๊กโตส อันตรายหนักเข้าไปอีก มีไขมันเกาะตับสูง หวานจากผลไม้ กินทั้งลูกทั้งชิ้น ไม่เป็นไร ให้ไหว้ก็ยอมครับ รักษาตัวเองดีที่สุด

"หมอธีระวัฒน์"เตือน อ้วน ไม่ใช่เรื่องสวยหล่อ แต่สมองหดเร็วและจะถึงตาย

ในปัจจุบันดังที่ทราบกันดี คนอ้วนไม่ว่าจะวินิจฉัยโดยใช้รูปแบบดัชนีมวลกาย เส้นรอบพุง หรือ อัตราส่วนระหว่างเอวและสะโพก ต่างมีความเกี่ยวโยงกับการเกิด โรคหัวใจ อัมพฤกษ์หรือโรคหลอดเลือดสมอง ทั้งนี้แม้จะไม่ต้องมีความดันสูงร่วมอยู่ก็ตาม และยังส่งเสริมให้เป็นโรคความดันสูง เบาหวานได้ง่ายและรุนแรง การศึกษาใหม่ในสหรัฐ (วารสาร Annals of Neurology 2010) จากการศึกษาในคนวัยกลางคน (อายุเฉลี่ยราว 60 ปี) 733 คน พบว่า ไม่ว่าหญิงหรือชาย ถ้าอ้วน ปริมาณเนื้อสมองจะยิ่งหดน้อยลงโดยการตรวจด้วยคอมพิวเตอร์สนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ทั้งนี้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีโรคอื่นๆร่วม เช่นโรคหลอดเลือดสมองตีบ และดัชนีชี้วัดของ “ความอ้วน” ที่แม่นยำว่าจะมี “สมองหด” ดีที่สุด จะเป็นปริมาณไขมันในเครื่องในอวัยวะภายในที่อยู่ในพุง (Visceral adipose tissue) รวมทั้งขนาดของพุงเมื่อเทียบกับสะโพก ซึ่งดัชนีอย่างแรกต้องใฃ้เครื่องคอมพิวเตอร์ (CT scan) ในการตรวจ และการสะสมของไขมันคังกล่าวก็จะเป็นสัดส่วนกับขนาดของโพรงสมองที่ใหญ่ขึ้นด้วย (โดยเกิดเนื่องจากสมองหดตัวไป)โดยเฉพาะในบริเวณสมองกลีบขมับที่เป็นตำแหน่งแรกๆที่เหี่ยวฝ่อก่อนในโรคอัลไซเมอร์

การที่ “อ้วน” ทำให้สมองหดเป็นเรื่องสำคัญมากทั้งนี้ อาจอธิบายจากการที่คนอ้วนจะมีสารในเลือดที่ก่อให้เกิดการอักเสบมากกว่าธรรมดา และเกี่ยวพันกับภาวะดื้อฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งคอยควบคุมการเผาผลาญและการใช้พลังงาน การที่เริ่มมีสมองหด จะเป็นจุดสำคัญที่ส่งเสริมให้เกิดโรคสมองฝ่อ ความจำเสื่อม (dementia) ได้มากขึ้น เร็วขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อเนื้อสมองสำรองลดน้อยถดถอยไป และเมื่อปะทะกับโรคสมองฝ่อ จริงๆ เช่น โรคอัลไซเมอร์หรือโรคหลอดเลือดสมองตีบ ก็จะปรากฏอาการเร็วขึ้น มีความรุนแรงมากขึ้น และการดำเนินของโรคก็จะยิ่งรวดเร็วขึ้นไปอีก และในกรณีของโรคหลอดเลือดสมองอัมพฤกษ์ เมื่อเป็นแล้ว การฟี้นตัวก็จะยิ่งช้าเข้าไปอีก

ภาวะดื้อฮอร์โมนอินซูลิน นอกจากที่ทราบกันอยู่แล้วว่าเร่งให้สมองเสื่อมเร็ว ในคนที่เป็นเบาหวาน และที่ยิ่งอ้วนด้วย ล่าสุด (JAMA Neurology 2015) พบว่าเป็นดัชนีชี้วัดที่ดี ว่าใครสมองจะพังก่อน ทั้งนี้ จากการศึกษา คนที่ตรวจว่าสมองยังดี ดูปกติ 150 ราย เป็นผู้หญิง 108 อายุเฉลี่ยอยู่ในตอนปลายวัยกลางคน คือประมาณ 60.7 ปี ในจำนวนนี้ มีคนในครอบครัวที่เป็นอัลไซเมอร์ 68.7% และ 40.7% มียีน หรือพันธุกรรมที่ส่งเสริมอัลไซเมอร์ โดยที่มีคนเป็นเบาหวาน 4.7% จับมาตรวจการใช้พลังงานจากกลูโคสในสมอง ด้วย fludeoxyglucose F 18–labeled positron emission tomography พบว่าคนที่มีภาวะดื้ออินซูลินจากการตรวจเลือด มีความผิดปกติในสมองส่วนต่างๆใช้พลังงานได้น้อยลงโดยเฉพาะสมองกลีบขมับทางด้านใน และเป็นมากทางทางซีกซ้าย ซึ่งควบคุมการเก็บความจำปัจจุบัน ซึ่งตรงกับเมื่อตรวจพุทธิปัญญาการทำหน้าที่ของสมองอย่างละเอียด ก็จะมีการถดถอยในส่วนการจดจำในทันที และการฟื้นความจำ

"หมอธีระวัฒน์"เตือน อ้วน ไม่ใช่เรื่องสวยหล่อ แต่สมองหดเร็วและจะถึงตาย

ข้อมูลเหล่านี้ ชัดเจนที่ชี้ว่าตั้งแต่ยังไม่อ้วน แต่เริ่มมีภาวะดื้ออินซูลิน ก็ยังมีความผิดปกติของสมองในจุดกำเนิดของอัลไซเมอร์แล้ว ถ้ามีอ้วนด้วย แถมมีเบาหวาน จะรุนแรงหนักหนาขึ้นอีก ทั้งนี้ถ้าประกอบกับไขมันสูง ความดัน หัวใจ การขับถ่ายของเสียจากเซลล์สมองยิ่งลำบากยิ่งขึ้น

เพราะฉะนั้น “อ้วน” ณ ขณะนี้อย่านิ่งนอนใจว่าไม่สวย ไม่หล่ออย่างเดียว “อ้วน” ถือเป็นโรคอย่างหนึ่ง ถึงตายได้ง่ายและสมองยังหดเร็วอีกด้วย เมื่อไหร่ที่ประเทศไทยจะเก็บภาษีเครื่องดื่มน้ำอัดลม และขนมหวาน ซึ่งมีโทษไม่ได้น้อยไปกว่าบุหรี่ และสุรานะครับ ส่วนรายงานที่สวนกระแสที่กล่าวข้างต้น ว่าอ้วนแต่สมองเสื่อมช้า ยังเป็นการรายงานซึ่งยังหาเหตุผลชัดเจนไม่ได้ หมอคิดเอาเองนะครับว่า น่าจะเกี่ยวกับ “ความสุข” ถ้าอ้วนพองาม ไม่มีโรคอื่นๆ แทรกซ้อน เดินพอไหว เข่ายังรับน้ำหน้กได้ ใจเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่คนที่ด้อยโอกาส คิดถึงแต่สิ่งที่ดีงาม น่าจะช่วยสุขภาพได้อย่างดี และอาจสะท้อนไปถึงคนที่เคร่งครัดน้ำหนัก สุขภาพอย่างแสนสาหัส ออกกำลัง กินอาหาร ตามกำหนด กฎเกณฑ์ตามเวลา หน้าหมองคล้ำเป็นทุกข์เวลาเจาะเลือด ไขมันขึ้นแม้แต่นิดนึงก็ตาม ถ้าจะคุมอาหาร รักษาสุขภาพก็ทำด้วยความเต็มใจ ทำด้วยความสุข ทำเพื่อจะได้ไม่เจ็บป่วย เป็นภาระครอบครัว ถึงจะตายเร็วไปหน่อย แต่ตายอย่างเป็นสุขก็ไม่เลวครับ